เศรษฐกิจไทยในปี 2567 ที่ถูกคาดการณ์ว่าจะฟื้นตัวกว่าปี 2566 มีแรงส่งสำคัญมาจากภาคการท่องเที่ยว รัฐบาลตั้งเป้าหมายอยากเห็นจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าไทยปี 67 ถึง 40 ล้านคนเหมือนในปี 2562 ล่าสุดข้อมูลจากศูนย์วิจัยกสิกรไทยปรับประมาณการนักท่องเที่ยวต่างชาติเที่ยวไทยปี2567 มาอยู่ที่ประมาณ 36 ล้านคน โดยนักท่องเที่ยวจีนยืนหนึ่ง 8.5 ล้านคน
ทั้งนี้ข้อมูลในช่วง 2 เดือนแรกของปี 2567 นักท่องเที่ยวต่างชาติเที่ยวไทยฟื้นตัวดีกว่าที่คาดด้วยจำนวน 6.4 ล้านคน หรือเติบโตกว่า 50% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว
มองไปข้างหน้าจากปัจจัยสนับสนุนที่ดีขึ้น ทั้งมาตรการวีซ่าฟรีชั่วคราวและถาวร การกลับมาของนักท่องเที่ยวจีน แผนการจัดงานประชุมสัมมนาระดับโลก รวมถึงสายการบินระหว่างประเทศที่มาไทยเพิ่มขึ้นทำให้ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ปรับประมาณการนักท่องเที่ยวต่างชาติเที่ยวไทยปี2567 มาอยู่ที่ประมาณ 36 ล้านคนและมีมุมมองเชิงบวกต่อนักท่องเที่ยวต่างชาติเที่ยวไทยมากขึ้นในปี 2567
4 ปัจจัยบวกต่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทย
1.นักท่องเที่ยวต่างชาติหลายประเทศฟื้นตัวดีกว่าที่คาดและกลับมาเติบโตเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2562
โดยจากข้อมูลกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ในช่วง 2 เดือนแรกปี 2567 นักท่องเที่ยวต่างชาติเที่ยวไทยมีจำนวน6.4 ล้านคน เติบโตกว่า 50%เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว และนักท่องเที่ยวหลายประเทศกลับมาเติบโตกว่าปี 2562 เช่น มาเลเซีย รัสเซีย เกาหลีใต้ อินเดีย เยอรมัน ฝรั่งเศส ซาอุดีอาระเบีย อินโดนีเซีย เป็นต้น
ทั้งนี้คาดว่าในไตรมาส 1 ของปี 2567 นักท่องเที่ยวต่างชาติเที่ยวไทยน่าจะ 2 อยู่ที่ประมาณ 9.32 ล้านคน เติบโต 42.7% เทียบกับปีที่แล้วซึ่งนับเป็นสัญญาณบวกต่อทิศทางในช่วงที่เหลือของปีนี้
2.มาตรการวีซ่าฟรีชั่วคราวกับหลายตลาด และฟรีวีซ่าถาวรสำหรับนักท่องเที่ยวชาวจีน
ตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติได้รับปัจจัยจากมาตรการวีซ่าชั่วคราวได้แก่ นักท่องเที่ยวชาวคาซัคสถาน (ทางการต่ออายุมาตรการเริ่มวันที่ 1 มี.ค.- 31 ส.ค. 2567 และอยู่ระหว่างการทำข้อตกลงวีซ่าฟรีถาวร) อินเดีย และไต้หวัน (10 พ.ย. 66 - 10 พ.ค. 2567) มาตรการขยายระยะเวลาพำนักของนักท่องเที่ยวชาวรัสเซีย (1 พ.ย. 66 - 30 เม.ย. 2567) รวมถึงวีซ่าฟรีถาวรระหว่างไทย-จีน เริ่มวันที่ 1 มี.ค. 2567 ซึ่งช่วยหนุนการกลับมาของนักท่องเที่ยวจีนในช่วงที่เหลือของปีนี้
3.ธุรกิจสายการบินเปิดเส้นทางการบินใหม่ระหว่างประเทศมาไทยและเพิ่มความถี่เที่ยวบิน
จากข้อมูลของสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทยในช่วง 2 เดือนแรกของปี2567 ปริมาณเที่ยวบินระหว่างประเทศเพิ่มขึ้น 34.0%เทียบกับปีก่อนหรือมีประมาณ 6.8 หมื่นเที่ยวบิน และเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2562 เที่ยวบินระหว่างประเทศกลับมาแล้ว 78%
ขณะที่ในช่วงที่เหลือของปีนี้สายการบินทั้งไทยอย่างกลุ่มสายการบิน Low Cost มีการขยายเส้นทางการบินระหว่างประเทศมากขึ้น อาทิ จีน ญี่ป่น และ เกาหลีใต้ นอกจากนี้สายการบินต่างชาติอาทิ สายการบินจากกลุ่มประเทศสแกนดิเนเวียขยายระยะเวลาการบินถึงในช่วงฤดูร้อนของยุโรป
4.การจัดงานสัมมนาและประชุมระดับโลก
ได้แก่ การเป็นเจ้าภาพการจัดงานประชุมใหญ่สามัญของสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติครั้งที่ 74 (FIFA Congress2024) การเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งกีฬาระดับนานาชาติและงานอื่นๆ ช่วยหนุนการเติบโตของภาคการท่องเที่ยวในช่วงที่เหลือปีนี้
ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินนักท่องเที่ยวต่างชาติเที่ยวไทยปี 2567 น่าจะอยู่ที่ประมาณ 36 ล้านคน (เพิ่มจากประมาณการที่ 30.6 ล้านคน ณ เดือน ธ.ค.2566) โดยการปรับขึ้นส่วนสำคัญมาจากการมาตรการวีซ่าฟรีถาวรจีน ซึ่งช่วยอำนวยความสะดวกสบายต่อการเดินทางของท่องเที่ยวจีน อีกทั้งตลาดหลักอย่างเกาหลีใต้ (ซึ่งได้รับปัจจัยหนุนจากความร่วมมือในการส่งเสริมการท่องเที่ยวระหว่างไทยและเกาหลีโดยปี 2566-2567 เป็นปีแห่งการท่องเที่ยวระหว่างไทยและเกาหลีใต้) มาเลเซีย อินเดีย และรัสเซีย เติบโตดี รวมถึงตลาดรองอย่างอินโดนีเซียและยุโรปตะวันออก
คาดการณ์ 5 อันดับนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าไทยในปี 2567 ได้แก่
1.นักท่องเที่ยวจีน รวม 8.5 ล้านคน
2.มาเลเซีย 4.82 ล้านคน
3.เกาหลีใต้ 2.10 ล้านคน
4.อินเดีย 1.80 ล้านคน
5.รัสเซีย 1.75 ล้านคน
การท่องเที่ยวที่กลับมาฟื้นตัวและปริมาณนักท่องเที่ยวมีจำนวนมากขึ้น อย่างไรก็ตามการฟื้นตัวยังไม่ทั่วถึง นักท่องเที่ยวต่างชาติยังคงเน้นการเดินทางเมืองท่องเที่ยวหลัก โดยกว่า 49% ของนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางท่องเที่ยวใน 3 จังหวัดหลัก ได้แก่ กรุงเทพฯ ชลบุรีภูเก็ต ซึ่งคงต้องอาศัยหน่วยงานท่องเที่ยวภาครัฐในการประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวในเมืองรอง การพัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐานเชื่อมต่อเมืองท่องเที่ยวรองมากขึ้น เพื่อลดปัญหาความหนาแน่นของเมืองท่องเที่ยวและกระจายรายได้ท่องเที่ยวเป็นวงกว้างมากขึ้น