หลังมีข่าวบริษัทหลักทรัพย์ ไทยพาณิชย์ จำกัด (SCBS) ล้มดีลซื้อหุ้น 51% ของ บริษัท บิทคับ ออนไลน์ (Bitkub Online) มูลค่า 17,850 ล้านบาท ออกมาเมื่อราวๆ 13.40 น. เหรียญ KUB Coin ก็เจอแรงกดดัน ดิ่ง 23% ไปที่ 56.06 บาทเมื่อเวลา 14.02 น. ก่อนลงต่อเนื่องไปจุดต่ำสุดที่ 48.66 บาท แสดงถึงแรงกระทบของข่าวที่มีผลต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน
เพราะหลังจากดีลนี้ล้ม ความหวังของ Bitkub ที่จะกลายเป็น ‘ยูนิคอร์น’ ตัวที่ 2 ของไทยก็ ‘ดับ’ ไป เพราะเท่ากับว่าจะไม่ได้เงินทุนก้อนใหญ่มาเพิ่มมูลค่าบริษัทให้ถึงเกณฑ์ ‘1 พันล้านเหรียญสหรัฐ’ ที่ยูนิคอร์นทุกตัวต้องคว้ามา
ทำให้เกิดคำถามใหญ่ว่า หากขาดพาร์ทเนอร์ใหญ่อย่าง SCB ไปแล้ว อนาคตของ Bitkub จะเป็นอย่างไร และความหวังที่จะกลายเป็นศูนย์กลางเทคโนโลยีการเงินของอาเซียน และก้าวมาเป็นศูนย์กลางทางการเงิน 3.0 ของประเทศไทย จะยังคงอยู่หรือไม่
ล่าสุด บริษัท บิทคับ แคปปิตอล กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด ได้ออกแถลงการณ์ชี้แจงพร้อมยืนยันว่า การยกเลิกดีลครั้งนี้จะไม่ส่งผลกระทบต่อบริษัทแม่และบริษัทอื่น ๆ ในเครือ ซึ่งได้แก่
แถลงการณ์ระบุว่า ทุกบริษัทยังคงดำเนินงานตามปกติและไม่ได้รับผลกระทบจากการระงับธุรกรรมการซื้อขายหุ้นระหว่าง SCBS และบิทคับ ออนไลน์ แต่อย่างใด บริษัทในเครือฯ ยังคงมีความมั่นคงทางทรัพยากร และยังคงมุ่งมั่นในการพัฒนาเทคโนโลยี ผลิตภัณฑ์ และบริการ และจะเดินหน้าต่อไปตามวิสัยทัศน์และพันธกิจที่จะสร้างโครงสร้างพื้นฐานทางเศรษฐกิจดิจิทัล
ด้านจิรายุส ทรัพย์ศรีโสภา Group CEO ผู้ร่วมก่อตั้ง และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บิทคับ แคปปิตอล กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ ได้โพสต์เฟซบุ๊ก ตอกย้ำความเชื่อมั่นจากนักลงทุนในทำนองเดียวกันว่า
“การตัดสินใจยุติธุรกรรมซื้อขายหุ้นในครั้งนี้เป็นการตกลงร่วมกันของผู้บริหารทั้งสองฝ่าย ที่ได้พิจารณาอย่างที่ถ้วนอย่างรอบด้านและเห็นตรงกันว่าเป็นทางออกที่ดีที่สุด ณ เวลานี้ ครับ
ผมและทีมงานตลอดจนผู้บริหารต้องขอขอบพระคุณทาง SCBS ที่ได้ให้ความสนใจในสตาร์ทอัพและแวดวงสินทรัพย์ดิจิทัลตลอดจนเล็งเห็นถึงศักยภาพของบิทคับ เอ็กเช้นจ์ และมีอุดมการณ์ที่จะสนับสนุนให้บริษัทของคนไทยได้เติบโตและขยายตัวไปยังประเทศอื่นๆได้ แต่ด้วยความล่าช้าของธุรกรรมจึงทำให้มีการยุติดีลในครั้งนี้เพื่อเปิดโอกาสให้กับทั้งสองฝ่ายได้เดินหน้าต่อไป
บิทคับเป็นองค์กรที่มีอนาคตมาก ในฐานะผู้บริหารและผู้นำองค์กร ผมและทีมงานทุกคนยังคงเชื่อมั่นในวิสัยทัศน์ที่จะสร้างประวัติศาสตร์ร่วมกันในการเป็น National Champion ใหม่ให้กับประเทศไทย เพื่อให้เศรษฐกิจไทยก้าวไปสู่โลกอนาคต และเป็นศูนย์กลางทางการเงินและเทคโนโลยีในระดับภูมิภาค พวกเรายังคงมุ่งมั่นเดินหน้าร่วมมือกันพัฒนาเทคโนโลยี เพื่อสร้างนวัตกรรมที่จะสร้างโอกาสให้กับทุกคนตามแนวทางที่เราเชื่อมั่นต่อไปครับ
ขอบคุณทุกคนที่สนับสนุนมาโดยตลอดครับ”