ราคาหุ้น VinFast ค่ายรถสัญชาติเวียดนามร่วงกราว 60% เพียง 4 วันหลังเปิดเทรดบนกระดาน Nasdaq ของสหรัฐ จากราคาสูงสุดที่ 38.59 ดอลลาร์/หุ้น (1,373 บาท) ร่วงเหลือ 15.40 ดอลลาร์ ณ วันที่ 18 ส.ค. ที่ผ่านมา ฉุดมาร์เก็ตแคปของ VinFast จาก 8.50 หมื่นล้านดอลลาร์ (3.02 ล้านล้านบาท) เหลือ 3.57 หมื่นล้านดอลลาร์ (1.27 ล้านล้านบาท)
ณ ระดับราคาสูงสุดนั้น VinFast มีมาร์เก็ตแคปเอาชนะบริษัทรถยนต์รุ่นเก๋าอย่าง BMW AG, Ford Motor และ General Motors หรือ GM แม้ตอนที่ราคาหุ้นร่วง 60% ก็ยังคงมีมาร์เก็ตแคปเฉือนชนะบริษัทที่มีมาร์เก็ตแคปสูงที่สุดในไทยอย่าง DELTA ที่ 1.24 ล้านล้านบาทไปได้
หลังมูลค่าหุ้น และมาร์เก็ตแคปของ VinFast ดิ่งจากราคาหุ้นที่ร่วงลงอย่างรวดเร็วนั้น Bloomberg Billionaires Index เผยว่า ประธานและผู้ก่อตั้ง Pham Nhat Vuong ซึ่งเป็นผู้บริหารสูงสุดของ VinFast Auto Ltd. นั้น มีมูลค่าสุทธิลดลงราว 52% เป็น 2.12 หมื่นล้านดอลลาร์ (7.5 แสนล้านบาท)
อย่างไรก็ดี สถานการณ์ของ VinFast ส่อแววไม่สู้ดีตั้งแต่ครึ่งปีแรกที่ผ่านมา ในช่วงปลายเดือนพ.ค. 66 บริษัทเผยได้ว่าเรียกคืนรถยนต์ชุดแรกที่ส่งไปยังสหรัฐ คือ รถ VF 8 ของ VinFast จำนวน 999 คัน เมื่อปีที่แล้วทั้งหมด หลังจากมีคำเตือนด้านความปลอดภัยที่ออกโดยทางการสหรัฐฯระบุว่า รถยนต์เหล่านี้ประสบปัญหาข้อผิดพลาดของซอฟต์แวร์ในหน้าจอแดชบอร์ด ทำให้ไม่สามารถแสดงข้อมูลความปลอดภัยที่สำคัญได้ และอาจเพิ่มความเสี่ยงของการชนได้
นอกจากนี้ ในช่วง 5 เดือนแรกของปี 2566 VinFast ทำยอดจดทะเบียนรถใหม่สะสมในตลาดสหรัฐอเมริกาไปเพียงแค่ 128 คัน แต่ค่ายรถสัญชาติจีนค่านี้ ก็ยังคงเดินหน้าลุยตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศของตนเองอย่างต่อเนื่อง เตรียมปล่อยรถรุ่น VF3 ซึ่งเป็นรถยนต์ขนาดเล็กราคาประหยัด โดยบริษัทหวังให้เป็น ‘รถยนต์ประจำชาติ’ ของเวียดนาม มีแผนเปิดรับจองในเดือนกันยายนที่จะถึงนี้ ก่อนเริ่มทยอยส่งมอบในช่วงไตรมาสที่ 3 ของปี 2567