โดย 10 แบงก์ไทยมีผลกำไรสุทธิรวมกันแล้วกว่า 180,730.75 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 48% จากช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้
แบงก์ที่มีกำไรมากที่สุด เริ่มจาก
อันดับที่ 1 KBANK มีกำไรสุทธิ 33,017 ล้านบาท +1.35%
อันดับที่ 2 BBL มีกำไรสุทธิ 32,773 ล้านบาท +50.8%
อันดับที่ 3 SCBx มีกำไรสุทธิ 32,527 ล้านบาท +7.0%
อันดับที่ 4 Krungthai มีกำไรสุทธิ 30,505 ล้านบาท +19.2%
อันดับที่ 5 Krungsri มีกำไรสุทธิ 25,198 ล้านบาท +8.0%
อันดับที่ 6 ttb มีกำไรสุทธิ 13,596 ล้านบาท +31.4%
อันดับที่ 7 KKP มีกำไรสุทธิ 4,774 ล้านบาท -22.7%
อันดับที่ 8 TISCO มีกำไรสุทธิ 5,520.95 ล้านบาท +1.9%
อันดับที่ 9 CIMBT มีกำไรสุทธิ 1,075.2 ล้านบาท -38.2%
อันดับที่ 10 LHFG มีกำไรสุทธิ 1,744.6 ล้านบาท +41.4%
โดยบริษัทหลักทรัพย์เอเซีย พลัส พบว่า กำไรสุทธิใน 9 เดือนของ KBANK คาดพอรองรับความเสี่ยงด้านคุณภาพสินทรัพย์ของลูกหนีั SME สินเชื่อรายย่อย โดยจากการประชุมนักวิเคราะห์ พบว่า KBANK ยังเดินหน้าเก็บกวาด NPL เชิงรุกต่อไป จากที่ได้ Wriite-off ประมาณ 9,000 ล้านบาท และขาย NPL ราว 73,000 ล้านบาท ทำให้ NPL อยู่ที่ 3.7%
จึงเห็นว่า การเดินหน้าเก็บกวาด NPL เชิงรุก เริ่มเห็นผล แม้ยังไม่ดีมากจากแรงกดดันของเศรษฐกิจมหภาค ขณะที่คุณภาพสินทรัพย์พัฒนาการที่ดีขึ้น มีโอกาสหนุนให้มีการฟื้นตัวของราคาหุ้น เพิ่มน้ำหนักเป็น Outperform จาก Neutral โดยให้ราคาเป้าหมายปี 2567 ไว้ที่ 150 บาท/หุ้น ราคาหุ้นปรับฐาน เพิมขึ้น 12.5% มากที่สุดในกลุ่มธนาคารพาณิชย์ใหญ่
บริษัทหลักทรัพย์ แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด(มหาชน) แนะนำซื้อ “SCB” แนะ “ซื้อเมื่อราคาอ่อนตัว” แม้กำไรในไตรมาส 3/2566 ไม่ค่อยดีนัก แต่ภาพรวมในไตรมาส 4/2566 คุณภาพสินทรัพย์ในธุรกิจ CARDX เริ่มดีขึ้น มองว่า การตั้งสำรองพิเศษที่สูงมากถึง 15,000 ล้านบาท รองรับความเสี่ยงในอนาคตจากสถานการณ์ภูมิรัฐศาสตร์ที่มีความไม่แน่นอนสูง ยังคงคาดการณ์กำไรทั้งปี 2566 เติบโต 10% จากปีก่อน บนนโยบายจ่ายปันผลสูง และคาดว่าจะจ่ายอัตราผลตอบแทนสูงราว 7.4% ต่อปี และราคาเป้าหมายของปี 2567 อยู่ที่ 126 บาท/หุ้น
BBL คุณภาพสินทรัพย์แข็งแกร่งสุด
บริษัทหลักทรัพย์ เอสบีไอ ไทย ออนไลน์ จำกัด ประเมินหุ้น BBL ว่า ได้มีการปรับประมาณการผลประกอบการปี 2566 และปี 2567 ขึ้นอยู่ที่ 7.3% และ 4.7% ตามลำดับ จากส่วนต่างดอกเบี้ยสุทธิที่เพิ่มขึ้นในไตรมาส 3/2566 ที่ระดับ 3.06% ตามทิศทางดอกเบี้ยขาขึ้น เกินกว่าเป้าหมายที่ธนาคารวางไว้ และสูงกว่าที่คาดไว้ โดยปีนี้คาดการณ์กำไรปี 2566 ไว้ที่ 41,000 ล้านบาท และปี 2567 ที่ 44,000 ล้านบาท โดยแนะนำ “ซื้อ” เพราะมีสัดส่วนสินเชื่อที่เป็นสินเชื่อธุรกิจเป็นหลัก และคุณภาพสินทรัพย์ที่แข็งแกร่งที่สุด