การเงิน

ลงทุนหุ้นเวียดนาม โอกาสทองเมื่อ FDI ทะลุสถิติ กระแสเงินทุนไหลเข้าสูง

22 ต.ค. 67
ลงทุนหุ้นเวียดนาม โอกาสทองเมื่อ FDI ทะลุสถิติ กระแสเงินทุนไหลเข้าสูง

ท่ามกลางความผันผวนของเศรษฐกิจโลก ที่เต็มไปด้วยความไม่แน่นอนจากภาวะสงครามและเงินเฟ้อ นักลงทุนมากมายต่างมองหาโอกาสในการลงทุนที่ปลอดภัย และให้ผลตอบแทนที่คุ้มค่า "เวียดนาม" ประเทศเพื่อนบ้านในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กำลังกลายเป็นดาวเด่นที่ฉายแสงเจิดจรัส ดึงดูดความสนใจจากนักลงทุนทั่วโลก ด้วยปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง ศักยภาพการเติบโตที่สูง และกระแสเงินทุนไหลเข้าที่พุ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์ บ่งชี้ถึงโอกาสทองในการลงทุนที่นักลงทุนไม่ควรมองข้าม

ลงทุนหุ้นเวียดนาม โอกาสทองเมื่อ FDI ทะลุสถิติ กระแสเงินทุนไหลเข้าสูง

ลงทุนหุ้นเวียดนาม โอกาสทอง FDI ทะลุสถิติ ท่ามกลางกระแสเงินทุนไหลเข้า

ในช่วงเวลาที่ตลาดการลงทุนทั่วโลกกำลังเผชิญกับความผันผวนจากภาวะสงครามและเงินเฟ้อ นักลงทุนหลายคนอาจรู้สึกกังวลและลังเลที่จะเลือกลงทุน แต่ในวิกฤตย่อมมีโอกาสซ่อนอยู่เสมอ และ "หุ้นเวียดนาม" คือหนึ่งในโอกาสทองที่นักลงทุนไม่ควรมองข้าม

เวียดนามยังคงเป็นประเทศที่น่าจับตามอง ด้วยปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง และมีศักยภาพในการเติบโตสูง แม้ในยามที่เศรษฐกิจโลกผันผวน เวียดนามก็ยังคงสามารถดึงดูดเงินลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) ได้อย่างต่อเนื่อง โดยข้อมูลในภาพแสดงให้เห็นว่า ในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2567 มีเงินทุนไหลเข้าเวียดนามสูงสุดเป็นประวัติการณ์ถึง 15,160 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งมากกว่าปี 2566 และ 2565 ที่ 14,030 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และ 13,430 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ตามลำดับ สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่างชาติที่มีต่อเสถียรภาพและโอกาสในการเติบโตของเศรษฐกิจเวียดนาม

นอกจากนี้ ธนาคารโลก (World Bank) ยังคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจเวียดนามจะสามารถเติบโตในระดับสูงได้อย่างต่อเนื่อง ทั้งในปี 2567 และ 2568 โดยมีปัจจัยขับเคลื่อนหลัก ได้แก่ การลงทุนจากภาคเอกชนที่แข็งแกร่ง การฟื้นตัวของภาคการส่งออก และการขยายตัวของการบริโภคภายในประเทศ ซึ่งได้รับแรงหนุนจากจำนวนประชากรวัยหนุ่มสาว ที่มีกำลังซื้อสูง และการขยายตัวของชนชั้นกลางอย่างรวดเร็ว

การลงทุนในหุ้นเวียดนามจึงเป็นโอกาสที่ดีสำหรับนักลงทุนที่ต้องการกระจายความเสี่ยง และมองหาผลตอบแทนที่น่าพึงพอใจในระยะยาว โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กองทุน K-VIETNAM ซึ่งเป็นกองทุนรวมที่เน้นลงทุนในหุ้นเวียดนามที่มีศักยภาพในการเติบโตสูง และมีผลการดำเนินงานที่โดดเด่นอย่างต่อเนื่อง โดยติดอันดับ Quartile 1 ในช่วง 3-5 ปีที่ผ่านมา และสามารถสร้างผลตอบแทนเฉลี่ยสูงกว่าดัชนีชี้วัดได้กว่า 6% ต่อปี

ตัวอย่างการเติบโตของบริษัทในเวียดนามที่น่าสนใจ

  • Vingroup: บริษัทที่ดำเนินธุรกิจหลากหลาย เช่น อสังหาริมทรัพย์ ค้าปลีก เทคโนโลยี และ ยานยนต์ ซึ่งได้รับประโยชน์จากการขยายตัวของเศรษฐกิจ และกำลังซื้อของผู้บริโภคในเวียดนาม
  • Vietjet Air: สายการบินต้นทุนต่ำ ที่เติบโตอย่างรวดเร็ว จากการขยายตัวของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว และการเดินทางทางอากาศในเวียดนาม

เวียดนาม ดินแดนแห่งโอกาสใหม่ ศูนย์กลางการลงทุนแห่งอนาคต

ลงทุนหุ้นเวียดนาม โอกาสทองเมื่อ FDI ทะลุสถิติ กระแสเงินทุนไหลเข้าสูง

การลงทุนในตลาดหุ้นเวียดนามนับเป็นโอกาสอันโดดเด่นในปัจจุบัน โดยมีปัจจัยเกื้อหนุนที่สำคัญ ดังนี้

  • การเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างแข็งแกร่ง: เวียดนามมีพื้นฐานทางเศรษฐกิจที่มั่นคง และมีแนวโน้มการเติบโตในระดับสูงอย่างต่อเนื่อง แม้เผชิญกับความผันผวนของเศรษฐกิจโลก
  • กระแสเงินทุนไหลเข้าในระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์: สะท้อนถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่างชาติที่มีต่อศักยภาพและโอกาสในการเติบโตของเศรษฐกิจเวียดนาม
  • โครงสร้างประชากร: เวียดนามมีประชากรวัยหนุ่มสาว มีกำลังซื้อสูง ซึ่งเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญในการบริโภคภายในประเทศ และการเติบโตของภาคธุรกิจต่างๆ
  • การกระจายความเสี่ยง: การลงทุนในหุ้นเวียดนามเป็นกลยุทธ์หนึ่งในการกระจายความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุน และเพิ่มโอกาสในการได้รับผลตอบแทนที่ดีในระยะยาว

กองทุน K-VIETNAM เป็นทางเลือกที่เหมาะสมสำหรับนักลงทุนที่ต้องการเข้าถึงโอกาสการเติบโตของเวียดนาม โดยมีจุดเด่น ดังต่อไปนี้

  • เน้นลงทุนในหุ้นเวียดนามที่มีศักยภาพในการเติบโตสูง: คัดสรรหลักทรัพย์คุณภาพ โดยมุ่งเน้นบริษัทที่มีศักยภาพในการสร้างผลตอบแทนที่โดดเด่นในอนาคต
  • ผลการดำเนินงานที่โดดเด่นอย่างต่อเนื่อง: กองทุนมีผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่ง โดยอยู่ในอันดับ Quartile 1 ในช่วง 3-5 ปีที่ผ่านมา และสามารถสร้างผลตอบแทนเฉลี่ยสูงกว่าดัชนีชี้วัดกว่า 6% ต่อปี
  • ทีมผู้บริหารกองทุนมืออาชีพ: บริหารจัดการโดยทีมผู้เชี่ยวชาญ มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในการลงทุนในตลาดหุ้นเวียดนาม

อย่างไรก็ตาม ผู้ลงทุนควรตระหนักว่าการลงทุนมีความเสี่ยง ดังนั้น การศึกษาข้อมูล ทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยง ก่อนการตัดสินใจลงทุน จึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง

advertisement

SPOTLIGHT