ทำไมคนจีนถึงแห่ขาย Rolex? ไม่ใช่แค่โรเล็กซ์ Hermès กับ Patek ก็โดนด้วย
เมื่อเดือนที่แล้ว เราเพิ่งทำบทความ "เปรียบเทียบราคา Rolex ตอนพีค vs ตอนนี้" ให้เห็นกันว่าเกิดอะไรขึ้นกับตลาดนาฬิกาหรูที่ราคาร่วงไปเกือบ 20%
ล่าสุด เราจะพาไปเจาะลึกกันที่ "ตลาดจีน" ซึ่งเป็นตลาดสินค้าหรูและของสะสมที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก เพราะมีรายงานแว่วมาว่า "คนจีนกำลังแห่ขาย Rolex- Patek Philippe กัน"
ในตลาดรีเซลตอนนี้ นาฬิกาโรเล็กซ์รุ่นยอดฮิตอย่าง Rolex Submariners กำลังมีราคาดิ่งลงหนักถึง 46% ในปีนี้ ซึ่งถือเป็นเรื่องที่น่าช็อกมากสำหรับคนเล่นนาฬิกา เพราะรุ่นซับมารีนเนอร์สเพิ่งจะทำราคาทะยานขึ้นไปถึง 240% ในตลาดรีเซลเมื่อปีที่แล้วนี่เอง
ทำไมคนจีนถึงแห่ขาย Rolex?
รายงานของเซาท์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์ (SCMP) และ Financial Times พบความเกี่ยวข้องที่น่าสนใจระหว่างสภาพเศรษฐกิจจีนในปัจจุบันกับตลาดสินค้าหรู ว่า ยิ่งกลุ่มคนเมืองเผชิญกับการล็อกดาวน์โควิดที่เข้มงวดและขยายวงมากเท่าไร ตลาดนาฬิกาหรูในจีนก็ยิ่งถูกกระทบมากตามไปด้วยเท่านั้น โดยตลาดสินค้าหรูมือสองถือเป็นหนึ่งในธุรกิจที่ได้รับผลกระทบสาหัสที่สุดจากการล็อกดาวน์กรุงปักกิ่งที่ผ่านมา
ในช่วงแรกที่ล็อกดาวน์ใหม่ๆ นั้น คนจีนก็ยังช้อปปิ้งกันอยู่เป็นปกติ ในเมื่อบินไปช้อปที่ สวิส ปารีส มิลาน ลอนดอน กันไม่ได้แล้วก็ช้อปออนไลน์กันซะเลย แต่หลังๆ เมื่อการล็อกดาวน์ของจีนเริ่มเข้มข้นขึ้นและขยายวงกว้างไปหลายเมืองขึ้น โดยเฉพาะในเมืองที่เป็นฮับเศรษฐกิจและการเงินอย่าง "เซี่ยงไฮ้" ซึ่งถือว่ากระทบคนรวยโดยตรง คราวนี้คนจีนเลยเริ่มกลัวและหันมาเน้น "ถือเงินสด" กันมากขึ้นแทน
จากข้อมูลของเว็บไซต์ Watcheco พบว่า Rolex Submariners ซึ่งเป้นโรเล็กซ์รุ่นยอดนิยมของคนเล่นนาฬิกา ซื้อง่ายขายคล่อง ราคารีเซลขึ้นตลอด แต่มาปีนี้นับตั้งแต่เดือน มี.ค. จนถึงปัจจุบัน ราคาร่วงลงไปแล้วถึง 46%
ไม่ใช่แค่โรเล็กซ์เท่านั้น แต่กระเป๋าหรูอย่าง "แอร์เมส" โดยเฉพาะ Hermès Birkin ก็ถูกเทขายจนราคาลดลงถึงถึงประมาณ 20% ไปแล้วเช่นกัน จากข้อมูลร้านดีลเลอร์ในเซี่ยงไฮ้และหางโจว
โดยทั่วไปแล้ว คนเอาของหรูของสะสมออกมาขายก็เพื่อต้องการได้เงิน จะเพื่อถือเงินสดเอาไว้ หรือจะเพื่อหมุนเงินช่วงสภาพคล่องตึงตัวก็แล้วแต่สถานการณ์ของแต่ละคน แต่ในเคสของจีนนี้ ผู้เชี่ยวชาญในตลาดมองว่าการเทขายส่วนหนึ่งยังเป็นเพราะ Panicked sales คือเห็นราคาลงมาหนักๆ แล้วก็กลัว ต้องเทขายออกไปบ้างเพราะกลัวจะลงแรงไปมากกว่านี้
เรียกได้ว่าถ้าตลาดหุ้นมีช่วงการปรับฐาน นี่ก็คือช่วงการปรับฐานของตลาดสินค้าหรูเช่นกัน คืออาจจะยังไม่ถึงขั้นฟองสบู่แตก แต่แค่ฟีบลงเท่านั้น!
"นาฬิกาปาเต็กมีสโลแกนอมตะว่า 'คุณไม่อาจเป็นเจ้าของนาฬิกาปาเต็ก ฟิลิปป์ ได้อย่างแท้จริง คุณแค่เพียงดูแลรักษามันไว้เพื่อส่งต่อให้กับคนรุ่นต่อไป' แต่ประโยคนี้จะใช้ไม่ได้เลยเมื่อเกิดวิกฤตเศรษฐกิจขึ้น และนี่ก็อาจเป็นภาวะเศรษฐกิจที่อ่อนแรงที่สุดเท่าที่ผมเคยเห็นมาตลอด 25 ปีในจีนเลยทีเดียว" คนขายนาฬิกาหรูในตลาดรีเซลที่เมืองหนานจิง กล่าว
โควิดฉุดเศรษฐกิจจีนแรงแค่ไหน?
อาจตอบได้ว่า แรงสุดในรอบหลายสิบปีมาเลยทีเดียว เพราะนับตั้งแต่จีนเปิดประเทศสู่ระบบตลาดกึ่งเสรีในยุคเติ้งเสี่ยวผิง จนได้เข้าสู่องค์การการค้าโลก และกลายเป็นประเทศคู่ค้ารายใหญ่กับทั่วโลก นี่คือครั้งแรกที่จีนแทบจะ "ปิดประเทศ" การล็อกดาวน์ในหลายเมืองใหญ่ๆ กระทบต่อการผลิตและทำให้ห่วงโซ่อุปทานทั่วโลกรวนไปด้วย การส่งออกและนำเข้าได้รับผลกระทบ จีนไม่ส่งคนออกไปนอกประเทศและก็ไม่รับคนนอกเข้ามาเช่นกัน แม้แต่การเดินทางภายในประเทศก็ชะงักงัน
ทั้งหมดนี้ส่งผลกระทบต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจของจีนอย่างมาก ธนาคารโกลด์แมนแซคส์เพิ่งหั่นคาดการณ์ GDP ของจีนลงถึง 0.3% เหลือ 3% เท่านั้นในปีนี้ ซึ่งหมายความว่า ถ้าเราเทียบกับมูลค่าเศรษฐกิจของประเทศจีนที่ประมาณ 14 ล้านล้านดอลลาร์ (ปี 2020) ถ้าจีดีพีหายไป 0.3% ก็เท่ากับว่ามูลค่าทางเศรษฐกิจหายไปประมาณกว่า 4 หมื่นล้านดอลลาร์ (ราว 1.4 ล้านล้านบาท) เลยทีเดียว