Logo site Amarintv 34HD
Logo LiveSearch
Search
Logo Live
Logo site Amarintv 34HD
ช่องทางติดตาม AMARINTV
  • facebook AMARIN TV 34 HD
  • x AMARIN TV 34 HD
  • line AMARIN TV 34 HD
  • youtube AMARIN TV 34 HD
  • instagram AMARIN TV 34 HD
  • tiktok AMARIN TV 34 HD
  • RSS Feed AMARIN TV 34 HD
‘โฮจิมินห์’ แบนเรียนดึก ฝึกครูเก่งภาษา ป้อนบุคลากรชั้นนำให้อาเซียน
โดย : กองบรรณาธิการ SPOTLIGHT

‘โฮจิมินห์’ แบนเรียนดึก ฝึกครูเก่งภาษา ป้อนบุคลากรชั้นนำให้อาเซียน

23 เม.ย. 68
17:01 น.
แชร์

โฮจิมินห์ตื่นตัว จับครูสอบอังกฤษ

คุณครูโรงเรียนประถมศึกษาและมัธยมศึกษาในโฮจิมินห์ซิตี้ ที่ปกติแล้วจะเป็นผู้ออกข้อสอบ ควบคุมการสอบ และตรวจให้คะแนนกับนักเรียน วันนี้ต้องกลายมาเป็นนักเรียนเสียเอง เพราะกรมการศึกษาและการฝึกอบรมประจำนครโฮจิมินห์สั่งการให้คุณครูทั้งหมด 47,000 คน เข้าสอบวิชาภาษาอังกฤษ ไม่ว่าจะสอนวิชาอะไร คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ หรือสังคมศึกษา แต่ภาษาอังกฤษของคุณครูทุกคนจะต้องผ่านเกณฑ์มาตรฐาน 

แบบทดสอบออนไลน์ 90 นาที จะวัดระดับความรู้ภาษาอังกฤษของคุณครูทั้งทักษะการฟัง การอ่าน และการเขียน ภายใต้มาตรฐานสากลของ CEFR ที่ใช้ในยุโรป (คล้ายกับข้อสอบวัดระดับสากล TOEFL และ IELTS) ซึ่งเริ่มต้นขึ้นแล้ววันนี้ ไปจนถึงวันที่ 27 เมษายนนี้ แม้จะไม่มีมาตรการแน่ชัดว่า ถ้าคุณครูเหล่านี้สอบได้คะแนนน้อยจะเกิดอะไรขึ้น แต่การจัดทดสอบภาษาฯ ดังกล่าว เป็นไปตามแผนพัฒนาโครงการโรงเรียนสองภาษาในโฮจิมินห์นั่นเอง

เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา กระทรวงศึกษาธิการและการฝึกอบรมของเวียดนาม ประกาศแผนพัฒนาการศึกษาระดับชาติ ตั้งเป้าให้นำภาษาอังกฤษมาใช้เป็นภาษาที่สองในโรงเรียนทั่วประเทศภายในปี 2035 ซึ่งในช่วงเริ่มต้น จะมีการทดลองใช้ระบบสองภาษาในมหาวิทยาลัยนำร่องและโรงเรียนที่มีศักยภาพบางส่วน และจะค่อย ๆ ขยายไปยังโรงเรียนในพื้นที่ชนบทอย่างค่อยเป็นค่อยไป 

ดร.เหงียน ทันห์ บิ่ญ จากมหาวิทยาลัยการศึกษานครโฮจิมินห์ กล่าวว่า โครงการนี้ควรให้แน่ใจว่านักเรียนในพื้นที่ห่างไกลและบนภูเขาสามารถเข้าถึงสิ่งต่างๆ ได้ แก้ไขความไม่เท่าเทียมกันในคุณสมบัติของครูในพื้นที่ต่างๆ รวบรวมแหล่งเงินทุนทางสังคมและแหล่งเงินทุนต่างๆ เพื่อพัฒนาบริการที่ปรึกษาและเครื่องมือสนับสนุน

โครงการดังกล่าวได้ระบุเป้าหมายเพิ่มเติม ที่จะทำให้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่สองในโรงเรียนทุกระดับการศึกษาภายในปี 2035 ตั้งแต่โรงเรียนอนุบาลที่เข้าเกณฑ์ทั้งหมด ครอบคลุมเด็กอายุ 3-5 ปีแบบ 100% และขยายไปยังเด็กก่อนวัยเรียนทั้งหมด หรือตั้งแต่เตรียมอนุบาลภายในปี 2045

ปรับตารางเรียนใหม่ ไม่จำเป็นต้องเรียนหนัก

ในขณะที่นักเรียนของโฮจิมินห์ก็ต้องปรับตัวเช่นกัน บรรยากาศการศึกษาในนครโฮจิมินห์ที่เต็มไปด้วยความตึงเครียดและการแข่งขันสูง นักเรียนประถมศึกษาและมัธยมศึกษาหลายคนลงคลาสเรียนแบบเต็มสูบ เช้าถึงบ่ายเข้าโรงเรียน เย็นถึงดึกอยู่สถาบันกวดวิชา ภาวะเช่นนี้ ไม่ได้ทำให้ผู้ใหญ่ในวงการการศึกษารู้สึกปลาบปลื้มใจที่เด็ก ๆ ขยันเรียน แต่มองว่าเป็นการเรียนที่ไร้ประสิทธิภาพ เพราะการพัฒนาบุคลากรที่แท้จริงไม่ใช่การเรียนจนขาดมิติการเรียนรู้ด้านอื่น

โฮ ทัน มินห์ หัวหน้าสำนักงานกรมการศึกษาและการฝึกอบรมนครโฮจิมินห์ได้ออกนโยบายห้ามจัดชั้นเรียนวิชาการทั้งหมด รวมถึงการสอนพิเศษส่วนตัว หลังเวลา 20.00 น. เพื่อลดความเครียดของนักเรียนและส่งเสริมให้มีกิจวัตรประจำวันที่ดีต่อสุขภาพ โดยเฉพาะนักเรียนที่ต้องแบกรับภาระจากตารางเรียนที่อัดแน่น การเลิกเรียนก่อน 20.00 น. ถือเป็นสิ่งที่สมเหตุสมผล ช่วยให้นักเรียนมีเวลาอยู่กับครอบครัวมากขึ้น

หน่วยงานยังรวบรวมข้อเสนอแนะเกี่ยวกับเงื่อนไขต่าง ๆ สำหรับชั้นเรียนเสริม เนื่องจากปัจจุบัน เมืองใหญ่แห่งนี้ มีศูนย์กวดวิชาประมาณ 10,000 แห่ง โดยมี 1,300 แห่งที่ดำเนินการโดยครูโรงเรียนของรัฐนอกเวลาเรียน แรงกดดันมหาศาลในการประสบความสำเร็จในด้านวิชาการ และการสอบที่ท้าทาย เป็นปัจจัยที่ส่งผลให้เด็ก ๆ ต้องเรียนพิเศษเพิ่มเติม 

นอกจากนี้ ผู้ปกครองหลายคนกังวลว่าหากไม่ได้เรียนพิเศษกับครู บุตรหลานของตนอาจตามไม่ทันหรือได้รับการปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อครูในโรงเรียนบางครั้งกดดันให้นักเรียนเข้าเรียนพิเศษ ส่งผลให้ครอบครัวที่มีฐานะยากจนต้องแบกรับภาระทางการเงินมากขึ้น ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา หน่วยงานการศึกษาในนครโฮจิมินห์ได้ดำเนินการควบคุมอุตสาหกรรมการสอนพิเศษส่วนตัว เช่น ออกกฎห้ามสอนพิเศษส่วนตัวสำหรับนักเรียนระดับประถมศึกษา เป็นต้น

เวียดนามเดินหน้า พัฒนาเมืองปั้นทรัพยากรบุคคลให้อาเซียน

รัฐบาลได้มอบหมายให้กระทรวงศึกษาธิการและการฝึกอบรมประสานงานอย่างใกล้ชิดกับคณะกรรมการประชาชน เพื่อพัฒนาโครงการที่จะเปลี่ยนนครโฮจิมินห์ให้กลายเป็นศูนย์กลางการศึกษาและการฝึกอบรมระดับนานาชาติ และดึงดูดนักศึกษาจากภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และทั่วโลก

รัฐบาลกำหนดให้ต้องมุ่งเน้นที่การฝึกอบรมทรัพยากรบุคคลที่มีคุณภาพสูง เข้าใกล้ระดับนานาชาติ ปรับตัวและใช้ประโยชน์จากการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัล นวัตกรรม และการบูรณาการระดับนานาชาติ ต้องให้ความสนใจมากขึ้นกับการลงทุนเพื่อทดแทนห้องเรียนเก่าหรือไม่ได้มาตรฐาน พร้อมปรับปรุงอุปกรณ์การศึกษาของสถานศึกษาในทุกระดับการศึกษา และย้ายสถาบันการศึกษาออกจากเขตชั้นใน ขยายตัวไปชานเมืองและชนบทมากขึ้น

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ปี 2024 องค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ ได้ประกาศให้นครโฮจิมินห์ของเวียดนาม เป็นสมาชิกของเครือข่ายเมืองแห่งการเรียนรู้ระดับโลกของ UNESCO ร่วมกับเมืองอื่นอีก 63 แห่งจาก 35 ประเทศ นี่เป็นเครื่องพิสูจน์ว่า เวียดนามมุ่งหน้าพัฒนาจริงจัง พยายามเปลี่ยนแปลงด้านการศึกษามาตลอด 50 ปี หลังรวมชาติ

รางวัลเมืองแห่งการเรียนรู้ดึงดูดให้บริษัทเทคฯ ยักษ์ใหญ่ต่างมาลงทุนในเวียดนาม และแน่นอนว่าเด็กนักเรียนได้รับผลประโยชน์อย่างมาก จากความร่วมมือของบริษัทเหล่านี้กับหน่วยงานภาคการศึกษา เช่น Google ที่ลงทุนสร้างหลักสูตรพัฒนาผู้เชี่ยวชาญด้าน AI สร้างมืออาชีพด้านเทคโนโลยีรุ่นใหม่ซึ่งจะเติบโตไปเป็นบุคลากรที่เต็มเปี่ยมด้วยคุณภาพ เข้าถึงข้อมูลและเครื่องมือจากทักษะด้าน AI 

นอกจากนี้ Meta AI ถือเป็นคู่แข่งโดยตรงของ ChatGPT บริจาคเครื่องมือ AI อย่างหูฟังและแว่น VR รุ่น Quest3 ให้กับนักเรียนเวียดนามใช้ได้แบบฟรี ๆ พร้อมประกาศความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยแห่งชาติ เพื่อเปิดหลักสูตรให้นักศึกษาลงหน่วยกิตเรียนรู้เกี่ยวกับ AI ซึ่งได้เริ่มต้นขึ้นไปแล้วเมื่อต้นปี 2025 ซึ่งคาดว่าการดำเนินงานของ Meta AI ในเวียดนามจะช่วยทำให้นักศึกษาจบใหม่มีงานทำเกี่ยวข้องกับ AI ถึง 1,000 ตำแหน่ง


แชร์
‘โฮจิมินห์’ แบนเรียนดึก ฝึกครูเก่งภาษา ป้อนบุคลากรชั้นนำให้อาเซียน