ในโลกที่ความยั่งยืน (Sustainability) กลายเป็นหัวใจสำคัญ การนำทรัพยากรธรรมชาติมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด จึงเป็นสิ่งที่ทุกคนต้องตระหนัก และร่วมกันส่งเสริม โรงเรียนมีชัยพัฒนา จังหวัดบุรีรัมย์ เล็งเห็นถึงความสำคัญดังกล่าว จึงได้จัดกิจกรรมเวิร์กชอป "ECO PRINT ผ้าพิมพ์ลายธรรมชาติ" ขึ้น เพื่อให้นักเรียนได้เรียนรู้ และสัมผัสกับภูมิปัญญาท้องถิ่น ในการสร้างสรรค์ลวดลายบนผืนผ้าจากวัสดุธรรมชาติ เช่น ใบไม้ ดอกไม้ โดยใช้เทคนิคการพิมพ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
กิจกรรมนี้ ไม่เพียงแต่จะช่วยปลูกฝังให้นักเรียน มีจิตสำนึกในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ และเห็นคุณค่าของสิ่งรอบตัวเท่านั้น แต่ยังเป็นการเปิดโอกาสให้นักเรียนได้พัฒนาทักษะ ความคิดสร้างสรรค์ และเรียนรู้กระบวนการผลิตสินค้า ที่สามารถนำไปต่อยอดเป็นอาชีพ สร้างรายได้ และพัฒนาชุมชนได้ในอนาคต
โรงเรียนมีชัยพัฒนา จังหวัดบุรีรัมย์ มุ่งมั่นสร้าง "คนดีสู่สังคม" ผ่านกิจกรรมที่หล่อหลอมให้นักเรียนมีจิตสาธารณะ กล้าแสดงออก และรู้จักตอบแทนสังคม โดยเปิดโอกาสพิเศษ ให้นักเรียนและผู้ปกครองร่วมกันทำกิจกรรมจิตอาสา 400 ชั่วโมงต่อปี และปลูกต้นไม้ 400 ต้นต่อปี เพื่อใช้แทนการชำระค่าเล่าเรียน ซึ่งนอกจากจะช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายแล้ว ยังเป็นการสร้างพื้นที่สีเขียวให้กับชุมชน เสริมสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างโรงเรียนกับชุมชน และปลูกฝังจิตสำนึกในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติให้เติบโตควบคู่ไปกับการเรียนรู้
ยิ่งไปกว่านั้น โรงเรียนมีชัยพัฒนายังมีวิสัยทัศน์ในการบ่มเพาะนักเรียน ให้เติบโตเป็น "นักธุรกิจเพื่อสังคม" ผู้มีหัวใจแห่งการให้และแบ่งปัน โดยส่งเสริมให้นักเรียนได้เรียนรู้ทักษะที่สามารถนำไปต่อยอด สร้างอาชีพ และพัฒนาชุมชนได้จริง หนึ่งในนั้น คือ เวิร์กชอป "ECO PRINT ผ้าพิมพ์ลายธรรมชาติ" ที่ คุณครูเจนวัฒน์ พูนศรี นำมาจัดแสดง ณ Idea Lab ในงาน Sustainability Expo 2024 เมื่อวันที่ 29 กันยายน 2567 ที่ผ่านมา
เวิร์กชอป ECO PRINT เป็นกิจกรรมที่เปิดโอกาสให้นักเรียน ได้สัมผัสกับภูมิปัญญาท้องถิ่น เรียนรู้การสร้างสรรค์ลวดลายบนผืนผ้าจากวัสดุธรรมชาติ เช่น ใบไม้ ดอกไม้ โดยใช้เทคนิคการพิมพ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งผลงานที่ได้ นอกจากจะมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว สวยงาม และทรงคุณค่าแล้ว ยังสามารถนำไปต่อยอดเป็นผลิตภัณฑ์สร้างรายได้ เป็นของฝาก ของที่ระลึก หรือแม้กระทั่งเป็นอาชีพในอนาคต
"ที่โรงเรียนของเรา นักเรียนสามารถจ่ายค่าเทอมด้วยการทำกิจกรรมเพื่อสังคมและสิ่งแวดล้อมได้ เพราะเราอยากปลูกฝังให้นักเรียนรู้จักแบ่งปัน รู้จักใช้ทรัพยากรร่วมกับชุมชนอย่างรู้คุณค่า และเข้าใจการบริหารจัดการทรัพยากรอย่างยั่งยืน" คุณครูเจนวัฒน์ กล่าว
การดึงสีสันจากธรรมชาติสู่ผืนผ้า สามารถทำได้หลากหลายวิธี แต่สำหรับเวิร์กชอป ECO PRINT ที่โรงเรียนมีชัยพัฒนา เลือกใช้เทคนิคการ "หมักบ่มด้วยความร้อน" โดยอาศัยไอน้ำจากการนึ่ง ซึ่งน้องๆ นักเรียนมีชัยพัฒนา ผู้เปี่ยมไปด้วยความกระตือรือร้น ได้อธิบายถึงความมหัศจรรย์ของธรรมชาติ ที่ใบไม้และดอกไม้แต่ละชนิด แม้จะมีสีสันแตกต่างกัน แต่เมื่อนำมานึ่งแล้ว กลับให้สีที่พลิกโฉมไปอย่างน่าอัศจรรย์ เช่น บางใบมีสีแดง แต่พอนึ่งแล้วกลับกลายเป็นสีเขียว ดังนั้น การทดลองจึงเป็นหัวใจสำคัญ เพื่อเฟ้นหาเฉดสีที่ตรงใจ
วัสดุธรรมชาติที่นำมาใช้ในเวิร์กชอป ล้วนหาได้ง่ายในท้องถิ่น อาทิ ดอกพวงชมพู ที่ให้สีเหลืองอร่าม และสีทองแวววาว ใบสบู่เลือด แม้ภายนอกจะเป็นสีแดงสด แต่เมื่อผ่านการนึ่งแล้ว กลับเผยสีเขียวและสีเหลืองอันอบอุ่น ส่วนใบสัก ก็ให้สีสันหลากหลาย ทั้ง ชมพู แดง เหลือง และส้ม นอกจากนี้ ยังมีใบไม้อีกหลายชนิด ที่แม้จะไม่ได้ให้สีสันโดดเด่น แต่กลับทิ้งร่องรอยลวดลาย และโครงสร้างอันงดงามไว้บนผืนผ้า สำหรับอุปกรณ์สำคัญในการสร้างสรรค์ผลงาน ECO PRINT ประกอบด้วย ฟิล์มยืดพันสินค้า ผ้าเส้นใยธรรมชาติ น้ำมอร์แดนท์ (Mordant) ซึ่งเป็นสารช่วยให้สีติดเนื้อผ้าได้ง่าย หม้อนึ่งไอน้ำ และไม้แท่งทรงกลมสำหรับม้วนผ้า
เพื่อให้การดำเนินเวิร์กชอปเป็นไปอย่างราบรื่น และไม่ใช้เวลานานจนเกินไป น้องๆ นักเรียนมีชัยพัฒนา ได้เตรียมผ้าเช็ดหน้าที่ผลิตจากเส้นใยธรรมชาติ โดยนำไปแช่ในน้ำมอร์แดนท์ไว้ล่วงหน้า ก่อนจะเชิญชวนผู้เข้าร่วมเวิร์กชอป เลือกสรรใบไม้และดอกไม้ที่ตนเองชื่นชอบ มาจัดวางบนผ้าเช็ดหน้า ให้เป็นรูปทรง หรือเรื่องราวตามจินตนาการ จากนั้นนำผ้าอีกผืนหนึ่งไปชุบน้ำมอร์แดนท์ แล้วนำมาปิดทับลงบนใบไม้และดอกไม้ที่เรียงไว้ ก่อนจะใช้แกนไม้ และฟิล์มพลาสติก ม้วนผ้าทั้งสองผืนเข้าด้วยกัน แล้วนำไปนึ่งในหม้อนึ่งไอน้ำประมาณ 20 นาที ความร้อนจากไอน้ำจะช่วยให้สีสันและลวดลายจากธรรมชาติ ถ่ายทอดลงสู่ผืนผ้าอย่างงดงาม
ความพิเศษของเวิร์กชอปในครั้งนี้ อยู่ที่บรรยากาศแห่งการแบ่งปัน โดยผู้เข้าร่วมบางท่าน ได้นำดอกไม้จากบ้าน มาแบ่งปันให้กับเพื่อนๆ ภายในเวิร์กชอป เกิดเป็นภาพแห่งการเรียนรู้ร่วมกัน ทั้งในด้านเทคนิคการสร้างสรรค์ผลงานจากวัสดุธรรมชาติ และการอยู่ร่วมกันในสังคม ด้วยความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ และมีน้ำใจต่อกัน
จากการเวิร์กชอป ECO PRINT ผ้าพิมพ์ลายธรรมชาติ ของโรงเรียนมีชัยพัฒนา จึงเป็นมากกว่าแค่กิจกรรมสร้างสรรค์ผลงานศิลปะ แต่มันคือกระบวนการเรียนรู้ที่หล่อหลอมให้นักเรียนเติบโตเป็น "คนดี" ที่มีทั้งความคิดสร้างสรรค์ รู้จักใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างชาญฉลาด และมีจิตสาธารณะ พร้อมที่จะเป็น "ผู้ให้" แก่สังคมและชุมชน การที่นักเรียนได้ลงมือปฏิบัติจริง ทดลอง และเรียนรู้จากธรรมชาติ ช่วยให้เกิดความเข้าใจในคุณค่าของสิ่งต่างๆ รอบตัว และเห็นถึงความเชื่อมโยงระหว่างมนุษย์กับธรรมชาติ พวกเขาได้ค้นพบว่า แม้แต่ใบไม้ ดอกไม้ ที่ร่วงหล่น ก็สามารถนำมาสร้างสรรค์เป็นผลงานศิลปะอันทรงคุณค่าได้
นอกจากนี้ เวิร์กชอป ECO PRINT ยังเป็นพื้นที่ที่เปิดโอกาสให้นักเรียนได้แสดงออกถึงความคิดสร้างสรรค์ ฝึกฝนทักษะการทำงานร่วมกัน และเรียนรู้การแก้ปัญหาเฉพาะหน้า ซึ่งทักษะเหล่านี้ ล้วนเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้นักเรียนประสบความสำเร็จในชีวิต สำหรับบรรยากาศแห่งการแบ่งปัน ที่เกิดขึ้นภายในเวิร์กชอป สะท้อนให้เห็นถึงความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ และน้ำใจของผู้คน ที่พร้อมจะช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ซึ่งเป็นคุณสมบัติอันงดงาม ที่ควรค่าแก่การปลูกฝัง และส่งต่อให้กับคนรุ่นต่อไป
กิจกรรม ECO PRINT จึงเป็นตัวอย่างที่ชี้ให้เห็นว่า การศึกษาสามารถสร้าง "คนดีสู่สังคม" ได้อย่างแท้จริง และเป็นแรงบันดาลใจให้กับโรงเรียนอื่นๆ ในการนำแนวคิด "การเรียนรู้จากธรรมชาติ" และ "การพัฒนาอย่างยั่งยืน" ไปประยุกต์ใช้ เพื่อสร้างสรรค์กิจกรรม ที่ช่วยพัฒนานักเรียน ให้เติบโตเป็นทั้งคนเก่ง และคนดี พร้อมที่จะมีส่วนร่วมในการพัฒนาสังคม และประเทศชาติต่อไป