5 องค์กรชั้นนำพร้อมเปิดงานเอ็กซ์โปใหญ่ “Sustainability Expo 2022” ปลายเดือนนี้ เตรียมโซน 7 กิจกรรมครบครัน ชูความยั่งยืนที่ "ผู้บริโภค" เป็นศูนย์กลาง
งานเอ็กซ์โปเพื่อความยั่งยืนใหญ่ที่สุดในภูมิภาคอาเซียน หรืองาน “Sustainability Expo 2022” (SX2022) กำลังจะเริ่มขึ้นแล้วในวันที่ 26 ก.ย. - 2 ต.ค.นี้ บนพื้นที่ 4 หมื่นตารางเมตร ของศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ซึ่งมีตั้งแต่กิจกรรมถึง 7 โซน ตั้งแต่การให้ความรู้ การนำเสนอเทคโนโลยีและนวัตกรรม เวิร์กชอป เวทีทอล์ก ไปจนถึงการชิมและช้อปภายในงานตลอด 7 วันเต็ม
ประเทศไทยนับเป็นหนึ่งในประเทศที่ให้ความสำคัญกับความยั่งยืนมาโดยตลอด โดยมีการจัดงานด้านความยั่งยืนมาตั้งแต่ปี 2000 ในชื่อ “Thailand Sustainability Expo” หรือ “TSX” แต่ในปีนี้ได้ยกระดับให้เป็นสากลมากขึ้น เพื่อสื่อถึงการขยายความร่วมมือที่ไม่ใช่มีเพียงในประเทศไทยเท่านั้น แต่ความร่วมมือดังกล่าวต้องเกิดขึ้นในระดับโลก โดยเปลี่ยนชื่อเป็น Sustainability Expo 2022 หรือ ‘SX 2022’ โดยเป็นการหาสมดุลใหม่ให้ตัวเองและโลก เพื่อให้เป็นภาพกว้าง
งาน SX2022 ปีนี้จัดขึ้นในคอนเซปต์ "พอเพียง ยั่งยืน เพื่อโลก" (Sufficiency for Sustainability) อันเป็นการน้อมนำพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และพระปฐมบรมราชโองการของพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่จะสืบสาน รักษา และต่อยอด เพื่อประโยชน์สุขของประชาชน มาเป็นแนวทางในการจัดงาน ซึ่งยังสอดคล้องกับหลักการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) ขององค์การสหประชาชาติอีกด้วย
งาน SX2022 นับเป็นการขับเคลื่อนการพัฒนาที่ยั่งยืนของประเทศไทย จากการผนึกกำลังร่วมกันของ 5 องค์กรชั้นนำ ได้แก่ 1.บริษัทเฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ ลิมิเต็ด 2.บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ GC 3. บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด(มหาชน) หรือ SCG 4. บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) และ 5.บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)
นายฐาปน สิริวัฒนภักดี ประธานกรรมการ กลุ่มบริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) ในฐานะประธานอำนวยการ งาน “Sustainability Expo 2022” (SX2022) กล่าวว่า การสร้างความร่วมมือเพื่อส่งเสริมการพัฒนาอย่างยั่งยืนนั้น ต้องมีความเชื่อมโยงกันเป็นเครือข่าย และภาคส่วนต่างๆ ที่มากกว่าในประเทศไทย
สำหรับในปีนี้ ยังเน้นไปที่การสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องในเรื่องการพัฒนาอย่างยั่งยืนในองค์รวม ระหว่างธุรกิจและผู้บริโภค หรือ B2C เพื่อสร้างความรับรู้และเกิดการลงมือทำขึ้นจริงอย่างต่อเนื่อง คณะผู้จัดงาน SX2022 จึงวางกลุ่มเป้าหมายของงานนี้ให้เป็น "B2C2B" หรือการที่มี "ผู้บริโภคเป็นแกนกลาง" ที่เชื่อมโยงทุกภาคส่วนเข้าด้วยกัน กล่าวคือ ภาคธุรกิจสู่ผู้บริโภค และผู้บริโภคกลับสู่ภาคธุรกิจ เพราะท้ายสุดภาคธุรกิจในปลายทางสามารถเชื่อมต่อไปได้อีกหลายธุรกิจ และเมื่อสร้างความเชื่อมโยงของทุกภาคส่วนได้แล้ว ก็จะช่วยเดินหน้าเรื่องความยั่งยืนได้อย่างเต็มที่นั่นเอง
กิจกรรม 7 โซน ให้ความรู้ สร้างแรงบันดาลใจ และสนุกไปตลอด 7 วัน
ภายในงานจะมีเวทีกิจกรรมที่น่าสนใจตลอดทั้งวัน ทั้งในส่วนของเวทีหลักและเวทีย่อย โดยเป็นการรวมพลังของกว่า 50 องค์กร 100 วิทยากร 200 เครือข่ายธุรกิจ ตลอด 7 วัน โดยแบ่งออกได้ ดังนี้
- โซนเศรษฐกิจพอเพียงและแรงบันดาลใจ - สะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญ ความเกี่ยวเนื่อง ระหว่างองค์ประกอบและนโยบายต่างๆ ด้านความยั่งยืน
- โซน Better Living - นำเสนอกิจกรรมและโครงการขององค์กรชั้นนำขนาดใหญ่ที่ดำเนินการเพื่อส่งเสริมระบบเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) และการยกระดับคุณภาพชีวิต การนำแนวคิดการพัฒนาอย่างยั่งยืนไปใช้ตลอดกระบวนการผลิต ห่วงโซ่มูลค่า เพื่อให้บรลุเป้าหมายการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์
- โซน Better Community - เล่าเรื่องราวของสังคมที่จะปรับเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น เช่น เทคโนโลยีดิจิทัลและเทคโนโลยีเพื่อสิ่งแวดล้อมที่พัฒนาโดยบริษัทชั้นนำของโลก และสมาร์ทซิตี้
- โซน Better Me - เน้นองค์ประกอบหลัก 3 ด้านที่จะทำให้คุณภาพชีวิตดีขึ้นในทุกด้านรวม ได้แก่ นวัตกรรม ถึงสุขภาพ นวัตกรรมการแพทย์ อาหาร และเครื่องดื่ม นวัตกรรมอาหารรักษ์โลก และอาหารแห่งอนาคต เป็นต้น
- โซน Food Festival Food Festival - รวมเชฟชั้นนำจากรายการเชฟกระทะเหล็ก และมาสเตอร์เชฟ มานำเสนออาหารแห่งอนาคต อาหารรักษ์โลก และอาหาสุขภาพ โดยโซนนี้จะเปิดตั้งแต่วันที่ 24 ก.ย.
- โซน Planet Kids - เป็นสนามเด็กเล่น ที่เปิดโอกาสให้ผู้เข้าชมได้สัมผัสกับประสบการณ์ใหม่ และเรียนรู้เรื่องการพัฒนาอย่างยั่งยืนด้วยความสนุกสนานและได้รับสาระไปพร้อมกัน
- โซน Sustainable Marketplace - รวบรวมร้านค้าจากชุมชนกว่า 200 ร้าน ดีไซเนอร์รักษ์โลกนวัตกรรมด้านสิ่งแวดล้อม และร้านค้าชุมชน