นายกุลิศ สมบัติศิริ ปลัดกระทรวงพลังงาน พร้อมด้วยนายบุญญนิตย์ วงศ์รักมิตร ผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) และหน่วยงานพันธมิตร ร่วมพิธีลงนามความร่วมมือโครงการฉลากประหยัดไฟฟ้าเบอร์ 5 พร้อมมอบโล่โครงการที่ปรึกษาพลังงาน และโครงการฉลากประหยัดไฟฟ้าเบอร์ 5 ณ ห้องออดิทอเรียม อาคาร 50 ปี กฟผ. สำนักงานใหญ่ จ.นนทบุรี เพื่อส่งเสริมและผลักดันให้เกิดการลดการใช้ไฟฟ้า อนุรักษ์พลังงาน ลดปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ มุ่งสู่พลังงานสะอาด และความเป็นกลางทางคาร์บอน ตามเป้าหมายของประเทศ
โดยมีหนึ่งในไฮไลต์คือ การเปิดตัวและติดฉลาก ‘ชุดนักเรียนเบอร์ 5’ อย่างเป็นทางการ
เนื่องจากชุดนักเรียนเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีปริมาณการผลิตและการซื้อจำนวนมากในแต่ละปี ทั้งยังมีการใช้ซ้ำ ซักรีดบ่อย กฟผ. จึงร่วมมือกับสถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอพัฒนามาตรฐานชุดนักเรียน เบอร์ 5 โดยมีคุณสมบัติพิเศษดังนี้
- สวมใส่สบาย
- ยับยาก ลดการรีดผ้า ลดใช้พลังงาน
- เทคโนโลยี CoolMode ช่วยลดอุณหภูมิขณะสวมใส่ลง 1-5 องศาเซลเซียส
ด้วยคุณสมบัติของผ้าที่ได้รับการรับรองฉลาก Cool Mode มีจุดเด่นด้านความคงทนของเนื้อผ้า ความปลอดภัยจากสีย้อมและสารเคมีตกค้าง และการสวมใส่แล้วเย็นสบายแม้อยู่ในห้องปรับอากาศที่มีอุณหภูมิ 25 องศาเซลเซียสได้โดยไม่อึดอัด ผนวกรวมกับคุณสมบัติการคืนตัวหลังการซัก ซึ่งผู้ประกอบการหลายรายได้พยายามพัฒนาเนื้อผ้าให้มีคุณสมบัติดังกล่าวครบถ้วน จนในปัจจุบันมีผ้าโครงสร้างต่าง ๆ ที่ได้รับการรับรองผ้าและเสื้อผ้าเบอร์ 5 ไม่ต่ำกว่า 100 โครงสร้าง มีทั้งที่เป็นผ้าทอ (woven fabric) และผ้าถัก (knitted fabric)
นอกจากนำมาผลิตเป็นชุดนักเรียนเบอร์ 5 แล้ว ยังมีผลิตภัณฑ์ที่เป็นเสื้อเชิ้ต เสื้อโปโล เสื้อกีฬา ชุดยูนิฟอร์ม และชุดนอน ซึ่งเมื่อผลิตภัณฑ์เหล่านี้ได้รับการติดฉลากประหยัดไฟฟ้าเบอร์ 5 แล้ว สามารถสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลิตภัณฑ์ได้สูงขึ้นเพราะตรงกับความต้องการของผู้บริโภคกลุ่มที่นิยมสินค้า Green Product สอดคล้องกับกระแสการอนุรักษ์พลังงานและการรณรงค์ให้ทุกคนหันมาให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อม
จากผลการทดสอบในงานวิจัยเสื้อนักเรียนเบอร์ 5 โดยใช้เตารีดขนาด 1,800 W ปรับไฟปานกลาง เริ่มต้นที่ความยับเท่ากันและหยุดวัดพลังงานเมื่อผ้าทั้ง 2 เรียบในระดับเดียวกัน พบว่า เสื้อต้นแบบเบอร์ 5 ใช้พลังงานในการรีดเพียง 0.55 หน่วย เมื่อเทียบกับเสื้อนักเรียนปกติใช้ 0.91 หน่วย จึงช่วยประหยัดเวลาในการรีดผ้าตัวละ 2 นาที คิดเป็นการประหยัดพลังงานไฟฟ้าได้ถึงปีละ 7.75 ล้านหน่วย หรือประมาณปีละ 31 ล้านบาท และลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ถึง 3,709 ตัน/ปี โดย กฟผ.ได้ทำวิจัยมาตรฐานเสื้อและแจกให้กับนักเรียนในพื้นที่ใน อ.บางกรวย ในปีนี้แล้วจำนวน 300 ตัวได้ทดลองใส่ ซึ่งขณะนี้ได้มาตรฐานและมีบริษัทสนใจผลิตและแต่ยังไม่มีการจัดจำหน่ายอย่างเป็นทางการ
พร้อมกับลงนามความร่วมมือโครงการฉลากประหยัดไฟฟ้าเบอร์ 5 ระหว่าง กฟผ. กับบริษัทผู้ประกอบการ โดยได้ประกาศเชิญชวนผู้ผลิต ผู้จำหน่าย ผู้นำเข้า สมัครเข้าร่วมโครงการฯ พร้อมร่วมกันกำหนดมาตรฐานการทดสอบและเกณฑ์ประสิทธิภาพเบอร์ 5 เป็นที่เรียบร้อย ซึ่งจะดำเนินการทดสอบเพื่อติดฉลากเบอร์ 5 และเริ่มวางจำหน่ายตั้งแต่เดือนเมษายน 2566 เป็นต้นไป รวม 43 ราย 3 ผลิตภัณฑ์ ได้แก่
- เครื่องอัดประจุยานยนต์ไฟฟ้า 2 ประเภท เครื่องอัดประจุไฟฟ้ากระแสสลับ แบบชาร์จปกติ ที่ใช้ ในบ้านประชาชนทั่วไป และเครื่องอัดประจุไฟฟ้ากระแสตรง หรือแบบชาร์จเร็ว ที่มีให้บริการตามสถานีชาร์จ และสถานที่ชุมชนต่าง ๆ
- แบตเตอรี่จักรยานยนต์ไฟฟ้า ซึ่งเป็นแบตเตอรี่ลิเทียมไอออน สำหรับใช้ในการขับเคลื่อนโมเปดไฟฟ้า และรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า ที่ออกแบบให้สามารถถอดออกจากตัวรถได้
- เครื่องปรับอากาศแบบแยกส่วนหลายชุดระบบปรับน้ำยาแปรผัน เป็นเครื่องปรับอากาศที่มี ชุดคอยล์ร้อน 1 ชุด ต่อกับชุดคอยล์เย็นภายในห้องหลายชุด เหมาะสำหรับใช้ในอาคาร และสำนักงานทั่วไป
ทั้งนี้ กฟผ. ได้ดำเนินงานจัดการด้านการใช้ไฟฟ้า หรือ DSM ด้วยกลยุทธ์ 3 อ. ได้แก่
- อ. ที่ 1 อุปกรณ์ประหยัดไฟฟ้าเบอร์ 5
- อ. ที่ 2 อาคารและอุตสาหกรรมประสิทธิภาพพลังงานสูง
- และ อ. ที่ 3 อุปนิสัยการใช้พลังงานคุ้มค่าและปลอดภัย
เพื่อส่งเสริมให้ผู้ใช้ไฟฟ้าทั่วประเทศ ทั้งหน่วยงานภาครัฐ ภาคธุรกิจ ภาคอุตสาหกรรม และภาคที่อยู่อาศัย ใช้ไฟฟ้าอย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยมาตรการต่าง ๆ ที่เหมาะสมและคุ้มค่า ส่งผลให้ลดการใช้พลังงานไฟฟ้าได้เกือบ 35,000 ล้านหน่วย คิดเป็นการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ ถึง 16.4 ล้านตัน