กมลา แฮร์ริส รองประธานาธิบดีสหรัฐฯและผู้ท้าชิงตำแหน่งประธานาธิบดีจากพรรคแดโมแครต ขึ้นเวทีหาเสียงเมื่อค่ำวันที่ 30 ตุลาคมที่ผ่านมาที่เมืองเมดิสัน รัฐวิสคอนซิน โดยเธอผลักดันให้ผู้สนับสนุนออกมาใช้สิทธิ์เลือกตั้งล่วงหน้า ในการเลือกตั้งเธอมองว่า เป็นการเลือกตั้งที่จะส่งผลกระทบอย่างใหญ่หลวงตามมาครั้งหนึ่งในช่วงชีวิตของทุกคน นอกจากนี้ เธอยังโจมตีโดนัลด์ ทรัมป์ อดีตประธานาธิบดีและผู้ท้าชิงประธานาธิบดีสหรัฐฯจากพรรครีพับลิกันว่า เป็นคนเอาแน่เอานอนไม่ได้ และเขาก็จะมักจะจมอยู่กับความไม่พอใจของตนเองมากกว่าความต้องการของชาวอเมริกัน
ขณะเดียวกัน แฮร์ริสยังประกาศด้วยว่า เธอรักวัยรุ่นเจนซี เพราะเป็นวัยที่กระวนกระวายแสวงหาการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดี อีกทั้งยังเข้าใจวิกฤตสภาพอากาศ ซึ่งนำไปสู่การปกป้องโลกของเราในอนาคต
การหาเสียงระหว่างทรัมป์และแฮร์ริสดุเดือดอย่างหนักในช่วงสัปดาห์สุดท้าย โดยโพลของ Reuters/Ipsos เมื่อวันอังคารที่ผ่านมาชี้ว่า แฮร์ริสมีคะแนนนำทรัมป์อยู่ 44 ต่อ 43 เปอร์เซ็นต์จากผู้ลงทะเบียนเลือกตั้งทั่วประเทศ อย่างไรก็ตาม หลายโพลชี้ว่า ผลคะแนนความนิยมของทั้งสองคนใน 7 รัฐสวิงสเตทที่ทั้งคู่สูสีกันมากๆ ต้องไปวัดกันจริงที่วันเลือกตั้ง 5 พฤศจิกายน
ทั้งทรัมป์และแฮร์ริสต่างเร่งลงพื้นที่ในรัฐสวิงสเตท เพราะมีความสำคัญที่ทำให้ผู้คว้าชัยในรัฐนั้น ชนะเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีได้เลย อย่างเช่นที่รัฐวิสคอนซิน ทรัมป์เคยเอาชนะฮิลลารี คลินตัน จากพรรคแดโมแครตไปในปี 2016 ด้วยคะแนน 47.8 ต่อ 47 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งก็ทำให้ทรัมป์ชนะเลือกตั้ง ขณะที่ต่อมาในปี 2020 ทรัมป์แพ้ให้กับไบเดนด้วยคะแนน 48.9 ต่อ 49.6 เปอร์เซ็นต์ แล้วก็ทำให้เขาแพ้ ไม่สามารถกลับเข้ามาทำเนียบขาวได้อีกหนึ่งสมัย