อดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้ท้าชิงจากพรรครีพับลิกัน ขึ้นเวทีหาเสียงที่รัฐเนวาดาเมื่อวานนี้ (31 ตุลาคม) ขณะที่เหลือเวลาอีกเพียง 5 วันก็จะถึงวันเลือกตั้งสหรัฐฯแล้ว โดยทรัมป์ได้บอกกับผู้สนับสนุนเขาว่า ตอนนี้ สหรัฐฯกลายเป็นประเทศที่ถูกยึดครองไปแล้ว ผู้อพยพเข้ามาหลายพันคนและพกพาอุปกรณ์ชนิดพิเศษแบบที่กองทัพใช้มาด้วย แต่เร็วๆนี้พวกเขาต้องเข้ายึดครองสหรัฐฯแน่ อีกไม่นาน ดังนั้นวันที่ 5 พฤศจิกายน ซึ่งเป็นวันเลือกตั้ง จึงจะเป็นวันประกาศอิสราภาพของสหรัฐฯ
ทรัมป์ยังโจมตีกมลา แฮร์ริส คู่แข่งว่า ยังคงให้ความช่วยเหลือและสนับสนุนกลุ่มลักลอบค้ามนุษย์ ลักลอบค้าเด็ก กลุ่มค้ายา และเครือข่ายอาชญากรรมบนโลกใบนี้ ไม่มีใครแย่กว่าเธออีกแล้ว
ทรัมป์ยังไปหยิบยกประเด็นเรื่องราวของนิโคลัส เควตส์ ทหารชาวอเมริกันอายุยังน้อย ที่ถูกสังหารในเม็กซิโกเมื่อไม่นานมานี้ โดยคาดว่า เป็นฝีมือของแก๊งค้ายาเสพติด และครอบครัวเควตส์ก็ปรากฏตัวในงานด้วย
ทรัมป์จัดงานหาเสียงครั้งนี้ที่เมืองเฮนเดอร์สัน รัฐเนวาดา หนึ่งในรัฐสมรภูมิที่สำคัญ ร่วมกับแอริโซนา จอร์เจีย นอร์ทแคโรไลนา วิสคอนซิน เพนซิลเวเนียและมิชิแกน แต่ถึงกระนั้น ทรัมป์ก็พยายามจะดึงคะแนนเสียงจากกลุ่ม Hispanic หรือคนที่พูดภาษาสเปนและโปรตุเกส เช่นเดียวกันกับแฮร์ริส
ด้านโพลทั่วประเทศของ Reuters/Ipsos ที่จัดทำขึ้นในเดือนนี้พบว่า ทรัมป์ได้รับคะแนนสนับสนุนจากผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งชาว Hispanic ที่ลงทะเบียนเอาไว้ 38 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งก็ถือว่าเพิ่มขึ้นจากเมื่อปี 2020 ที่ตอนนั้นคะแนนจากโพลของเขาอยู่ที่เพียง 32 เปอร์เซ็นต์ ส่วนแฮร์ริส ได้คะแนนสนับสนุนจากกลุ่ม Hispanic 50 เปอร์เซ็นต์ แต่ถือว่าน้อยกว่าเมื่อปี 2020 ที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดนเคยได้คะแนนสูงถึง 54 เปอร์เซ็นต์
ที่มา Reuters