โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้ท้าชิงตำแหน่งประธานาธิบดีจากพรรครีพับลิกัน ปิดเวทีหาเสียงครั้งสุดท้ายเมื่อค่ำวันจันทร์ที่ผ่านมา (4 พฤศจิกายน) ที่รัฐมิชิแกน โดยเขาขึ้นกล่าวต่อหน้าผู้สนับสนุนจำนวนมากว่า เขาจะลงโทษเม็กซิโกและจีนด้วยการขึ้นกำแพงภาษี จนกว่ารัฐบาลของทั้งสองประเทศจะช่วยหยุดไม่ให้ผู้อพยพหลั่งไหลเข้ามายังสหรัฐฯ
ก่อนหน้านั้น ในวันเดียวกัน ทรัมป์ยังไปขึ้นเวทีที่เมืองพิตส์เบิร์ก รัฐเพนซิลเวเนียอีกด้วย
ทรัมป์ยังบอกกับผู้สนับสนุนเขาด้วยว่า เขาจะปราบปรามการลักลอบค้ายาเสพติดตลอดแนวพรมแดนตอนใต้ของสหรัฐฯที่ติดกับเม็กซิโก ด้วยการขึ้นกำแพงภาษี โดยเขาจะขึ้นกำแพงภาษีสินค้าจากเม็กซิโก 25 เปอร์เซ็นต์ และจะทำแบบเดียวกันนี้กับจีน
ทรัมป์ยังโจมตีกมลา แฮร์ริส คู่แข่งด้วยว่า เธอจะพาความทุกข์ยากแสนสาหัสมาให้แก่เศรษฐกิจ ถ้าหากเธอได้รับเลือกตั้งและบอกด้วยว่าทุกคนรอมาสี่ปีเพื่อสิ่งนี้ และการที่ทุกคนโหวตให้ทรัมป์จะหมายความว่า สินค้าอุปโภคบริโภคจะถูกลง ค่าแรงจะเพิ่มขึ้น ท้องถนนจะปลอดภัยขึ้น ชุมชนจะร่ำรวยขึ้น และอนาคตก็จะสดใสยิ่งกว่าที่เคยเป็น
ขณะที่บรรดาผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งกำลังจะออกไปใช้สิทธิ์ สองผู้ท้าชิงได้ปิดแคมเปญหาเสียงที่ยาวนานหลายเดือนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยแฮร์ริสไปจบที่รัฐเพนซิลเวเนีย เพราะเธอพยายามอย่างยิ่งที่จะผลักดันหาคะแนนสนับสนุนในรัฐเพนซิลเวเนีย ซึ่งเป็นรัฐสมรภูมิที่สำคัญและมีคะแนน Electoral Vote มากที่สุดในบรรดา 7 รัฐสมรภูมิ คือ 19 คะแนน
โพลหลายสำนักชี้ว่า โดนัลด์ ทรัมป์ จากพรรครีพับลิกัน และแฮร์ริส มีคะแนนสูสีกันอย่างยิ่ง อย่างไรก็ตาม แม้จะยังไม่ทราบแน่ชัดว่าใครจะชนะเลือกตั้งครั้งนี้ แต่ก็ส่อแววว่า การเลือกตั้งในปีนี้อาจจะมีความวุ่นวาย เพราะทรัมป์ได้ส่งสัญญาณว่าเขาจะไม่ยอมรับความพ่ายแพ้เหมือนที่เขาเคยทำเมื่อปี 2020
ที่มา Reuters