วันนี้ (1 พ.ย. 2565) คงไม่มีประเด็นไหนร้อนแรงไปกว่าปรากฎการณ์โชว์รูมแตกของค่ายรถยนต์ไฟฟ้าอย่าง BYD อีกแล้ว ตั้งแต่ช่วงค่ำของคืนวานที่ผ่านมาจนถึงช่วงเช้าของวันนี้ มีกลุ่มผู้คนทยอยจับจองพื้นที่หน้าโชว์รูม BYD กันอย่างคึกคัก เพื่อต่อคิวแย่งชิงสิทธิ์การเป็นเจ้าของรถยนต์ไฟฟ้า BYD ATTO3 ที่ทำการเปิดจองวันนี้อย่างเป็นทางการเป็นวันแรก เราลองไปวิเคราะห์เหตุผลโชว์รูมแตกกันว่าเกิดจากสาเหตุอะไร?
1.ความต้องการรถยนต์พลังงานไฟฟ้าในประเทศไทยกำลังเข้าสู่จุดพีค
ทุกอย่างหากมีการเปลี่ยนแปลงมักต้องใช้เวลาจนกว่าคนจะเริ่มเปิดใจยอมรับสิ่งใหม่ๆ รถยนต์ไฟฟ้าก็เช่นกัน เราจะเห็นได้จากกระแสการใช้ไฟฟ้าเป็นพลังงานทดแทนการใช้น้ำมันในรถยนต์เป็นที่พูดถึงกันมา
ยาวนานหลายปี จนมาในปี 2565 กระแสรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยเข้าขั้นสุกงอม โดยเฉพาะการรุกตลาดของยานยนต์ไฟฟ้าสัญชาติจีนอย่างจริงจัง ทำให้คนไทยเริ่มมองเห็นอนาคตของการเปลี่ยนมาสู่ยุค
ของรถยนต์พลังงานไฟฟ้าได้ชัดเจนขึ้น นำไปสู่จุดของการยอมรับและพร้อมที่จะเปลี่ยน
2.สถานะการณ์รอรถส่งมอบข้ามปี
โควิด 19 ส่งผลกระทบไปทั่วโลกในทุกๆ วงการ ไม่เว้นแม้กระทั่งอุตสาหกรรมยานยนต์ ค่ายรถต่างๆ ล้วนได้รับผลกระทบในกระบวนการผลิตและส่งมอบอย่างถ้วนหน้า ปรากฎการณ์รอรถข้ามชาติเกิดขึ้นกับทุกค่ายทุกแบรนด์ มีผู้คนออกมาบ่นบนโลกโซเชียลไม่เว้นวันถึงความเหนื่อยหน่ายในการรอรถที่จองเอาไว้ และเมื่อ BYD เคยประกาศชัดเจนว่าภายในปีนี้ ATTO3 มีเป้าที่พร้อมส่งมอบสูงถึง 5,000 คัน นั่นจึงกลายเป็นเหมือนส่งต่อความหวังให้กับผู้ที่ต้องการได้รถในระยะเวลาที่ไม่นานเกินไปนัก
3.BYD ATTO3 ทำราคามาดี
แน่นอนที่ต้องยกเครดิตให้กับทาง BYD ด้วยเช่นกัน หลังทำการเปิดตัว ATTO3 ได้สร้างกระแสการพูดถึงในระดับที่ดี ด้วยการดีไซน์ของรถทั้งภายนอก ภายใน และเทคโนโลยีทันสมัยต่างๆ ที่สำคัญราคาของ
ATTO3 1,199,900 บาท ถือว่ากำหนดมาได้ถูกต้องโดนใจใครหลายคน ให้ความเห็นไปในทางเดียวกันว่าเป็นตัวเลขที่เหมาะสมมีความคุ้มค่า
4.แบรนด์ใหม่ ใครๆ ก็ชื่นชอบ
ปฎิเสธไม่ได้เลยว่าคนเรามักชอบอะไรใหม่ๆ เสมอ แม้กระทั่งแบรนด์รถยนต์ก็เช่นกัน หากยิ่งเป็นแบรนด์ระดับโลกมีโปรไฟล์พรีเมียม และเข้ามาทำตลาดในไทยด้วยแล้วละก็ มักได้รับการตอบรับแบบท่วมท้น
จนเป็นเรื่องปกติ หากย้อนความจำกันไปสักหน่อยก็จะพอจำกันได้ถึงบรรยากาศเมื่อตอน GWM เข้ามาทำตลาดใหม่ๆ ก็ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากชาวไทยเช่นกัน ถ้าอยากให้เห็นภาพชัดขึ้นอีกนิด
ลองนึกถึง IKEA เข้ามาเปิดใหม่ๆ ในบ้านเรานั่นแหละครับ
5.จองแบบ Walk-In ภาพคนต่อคิวเลยชัดเจน
การจองรถในช่วงหลัง จะมีช่องทางออนไลน์เป็นอีกหนึ่งช่องทางสำคัญเพื่อให้ผู้สนใจสามารถจองรถได้ง่ายดายมากยิ่งขึ้น หรือแม้กระทั่งค่ายรถอย่าง Audi ก็เคยเปิดจองผ่านทางแอปฯ ชอปปิ้งชื่อดังมาแล้ว แต่ในรอบนี้ทาง BYD ได้ให้ความเห็นไว้ว่าการจองรถผ่านช่องทางเหล่านั้นทำให้เกิดการเสียโอกาสกับผู้ที่ต้องการรถจริงๆ เนื่องจากเป็นรูปแบบการจองที่มีคิวหลุดเยอะมากเกินไป จึงเลือกที่จะให้เปิดรับจองด้วยวิธีการ Walk-In หรือมาที่โชว์รูมเท่านั้น
ที่กล่าวมาเป็นเพียง 5 เหตุผลบางส่วนที่ลองถอดออกมาถึงความเป็นไปได้สำหรับสาเหตุปรากฎการณ์โชว์รูมแตกในวันนี้ แต่โดยหลักๆ แล้วผมมองว่าตลาดยานยนต์พลังงานไฟฟ้าในบ้านเราเริ่มโตขึ้นอย่างรวดเร็ว และเป็นที่ยอมรับของผู้บริโภคมากขึ้น เรียกได้ว่าคนเริ่มไม่กลัวการเปลี่ยนมาใช้รถไฟฟ้าแล้วนั่นเอง แต่ก็ต้องยืนอยู่บนความคุ้มค่าที่จะทำให้ตัดสินใจซื้อด้วยครับ
เคยมีผลของการศึกษาพฤติกรรมออกมาว่าคนถึง 47% หรือเกือบครึ่งหนึ่งเลยทีเดียวพร้อมที่จะเลือกรถที่มีเทคโนโลยีที่ทันสมัยมากกว่าที่จะเลือกรถจากแบรนด์ที่ตัวเองคุ้นชิน คำว่า Brand Loyalty อาจมีบทบาทน้อยลงแล้วในยุคนี้ โดยเฉพาะในอุตสากรรมยานยนต์ที่มีผู้เล่นหน้าใหม่มากมายเกิดขึ้นมาให้เลือกครับ
ขอบคุณภาพจาก : Blink Drive