ฉีดฟิลเลอร์ปาก ให้ปากอวบอิ่มสวยเป็นธรรมชาติ เหมาะกับใคร? ควรรู้อะไรบ้าง?

15 ส.ค. 66

ปฎิเสธไม่ได้เลยว่าเทรนด์ความงามของริมฝีปาก ฮิตข้ามปีไม่แพ้เทรนด์ความงามของรูปหน้า หรือบริเวณส่วนอื่นของใบหน้าเลยเชียวล่ะ ซึ่งหนึ่งในตัวช่วยที่ทำให้ริมฝีปากสวยตามสมัยนิยม ก็คือฉีดฟิลเลอร์ที่สามารถช่วยเติมเต็มความอิ่มฟูให้ริมฝีปากอย่างที่สาวๆ สมัยนี้นิยมทำ แต่รู้หรือไม่ว่า แท้จริงแล้ว ฟิลเลอร์ปาก ยังแก้ปัญหาได้ในอีกหลายปัญหา

ซึ่งบทความนี้ จะมาเจาะลึกกันเลยว่าการฉีดฟิลเลอร์ปากมีกี่แบบ ฉีดแล้วดีจริงไหม อันตรายหรือไม่ ไปจนถึงข้อสงสัยทั้งก่อน และหลังฉีด เพื่อให้ผู้ที่กำลังตัดสินใจเข้ารับบริการฟิลเลอร์ปาก ได้เข้าใจ และปฎิบัติตัวอย่างถูกวิธี รับรองเลยว่า ถ้ารู้ข้อมูลทั้งหมดนี้แล้วล่ะก็ การฉีดฟิลเลอร์ปาก ในครั้งนี้ ต้องให้ผลลัพธ์ที่ดี ปลอดภัยกับผู้เข้ารับบริการอย่างแน่นอน

close-up-woman-getting-botox-

ใครที่เหมาะกับการ ฉีดฟิลเลอร์ปาก

ฟิลเลอร์ปาก เป็นการหัตถการที่ฉีดสารเติมเต็มเพื่อแก้ปัญหาปากได้ดีและให้ผลลัพธ์ที่เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาดังนี้

  • ผู้ที่มีปากบาง จากกรรมพันธุ์ หรืออายุที่เยอะขึ้น
  • ผู้ที่มีริ้วรอยปาก แห้งแตก อันเนื่องมาจากอายุที่เยอะขึ้น
  • ผู้ที่มีเนื้อปากไม่เท่ากัน
  • ผู้ที่ต้องการเติมแต่งริมฝีปากให้อวบอิ่ม ตามเทรนด์ความงาม
  • ผู้ที่มีริ้วรอยปาก ทาลิปสติกแล้วเนื้อลิปตกเป็นร่อง ไม่เรียบเนียน
  • ผู้ที่ต้องการจัดทรงปากให้เป็นรูปกระจับ โดยไม่อยากศัลยกรรมตัดแต่งเนื้อปาก
  • ผู้ที่ต้องการแก้ไขภาพรวมของหน้าให้ดูสดใส ร่าเริง อันเนื่องมาจากมีมุมปากที่งุ้มลง

ทรงปากที่คนไทยนิยมฉีดฟิลเลอร์ปาก มีแบบไหนบ้าง

327610

สำหรับทรงปากในช่วง 3 - 4 ปีที่ผ่านมา คนไทย โดยเฉพาะสาวๆ ไทยชื่นชอบและนิยมฉีดฟิลเลอร์ปาก เพื่อปรับทรงปากตามเทรนด์มี 2 สไตล์ดังนี้

  1. ทรงปากสายฝอ (ดาราฝรั่ง)

    เป็นการฉีดฟิลเลอร์ตกแต่งทรงปากให้อวบอิ่มมากๆ และได้รูปหนาตั้งแต่ริมฝีปากไปจนเนื้อปาก เพื่อให้รูปปากเด่นชัดใหญ่ขึ้นกว่าปกติ ซึ่งนิยมในสาวไทย ที่ชื่นชอบการแต่งหน้าสไตล์สาวชาวตะวันตก เน้นแต่งหน้าแบบคมเข้ม สีสันฉูดฉาด

  2. ทรงปากสายเกา (ดาราเกาหลี)

    เน้นการฉีดฟิลเลอร์พี่เติมเต็มรูปปากให้ดูได้รูปอย่างเป็นธรรมชาติ โดยจะเน้นฉีดเติมบริเวณเนื้อกลางปาก เพื่อให้ดูอวบอิ่ม นุ่มฟู ได้รับความนิยมสูง อีกทั้งทรงปากสายเกายังแก้ปัญหาในผู้ที่มีปากบาง ต้องการเพิ่มวอลุ่มให้กับริมฝีปากได้อีกด้วย

ฉีดฟิลเลอร์ปาก มีข้อดี - ข้อเสีย อะไร

ข้อดี

  • เห็นผลลัพธ์ทันที หลังฉีดฟิลเลอร์ปาก
  • ไม่ต้องพักฟื้น ไม่ต้องใช้ระยะเวลาดูแลรักษาแผล เพราะไม่ใช่การผ่าตัดศัลยกรรมปาก
  • สามารถใช้ชีวิตได้ปกติ หรือไปทำกิจกรรมต่างๆ ได้ทันที หลังจากฉีดฟิลเลอร์ปาก
  • ช่วยให้การทาลิปสติกได้เนียนสวยมากยิ่งขึ้น
  • สามารถแก้ไขได้ หากหลังฉีดฟิลเลอร์ปาก แล้วไม่ชอบทรง ก็สามารถฉีดสลายฟิลเลอร์ได้ หรือต้องการปรับแต่ง ก็ฉีดฟิลเลอร์เพิ่มเติมเข้าไปได้อีก
  • ราคาถูกกว่าการทำศัลยกรรมผ่าตัดแต่งริมฝีปาก

ข้อเสีย

  • ไม่ให้ผลลัพธ์แบบถาวร เนื่องจากฟิลเลอร์เป็นสารเติมเต็มประเภทไฮยาลูรอนิก ที่สามารถย่อยสลายเองได้ตามกระบวนการธรรมชาติของร่างกายเรา ระยะเวลาการคงตัว ขึ้นอยู่กับยี่ห้อ/ชนิดฟิลเลอร์ที่ใช้ฉีดอีกด้วย
  • งดอาหารร้อนจัด หลังฉีดฟิลเลอร์ปากเสร็จใหม่ๆ เพราะอาจทำให้ฟิลเลอร์สลายเร็วขึ้น

ฉีดฟิลเลอร์ปาก ทำให้ปากเน่าไหม อันตรายหรือไม่

before-after-female-lip-fille

การฉีดฟิลเลอร์ปาก เป็นการทำหัตถการที่ปลอดภัย ให้ผลลัพธ์หลังทำทันที ถือว่าเป็นการเสริมความงามในชั่วพริบตาเลยก็ว่าได้ และไม่ได้ทำให้ปากเน่า ไม่อันตรายอย่างที่ใครกำลังเข้าใจผิดกันอยู่

ยิ่งในยุคสมัยนี้ เทคโนโลยีและนวัตกรรมด้านความงามก้าวไกลไปมากๆ มีทางเลือกที่ดี ให้กับผู้ต้องการฉีดฟิลเลอร์ปากอย่างมากมายตามความเหมาะสม ตามงบประมาณเงินในกระเป๋า แต่สิ่งที่ผู้เข้ารับบริการต้องคำนึงคือ ต้องฉีดกับคลินิกเสริมความงามที่น่าเชื่อถือ เปิดอย่างถูกต้องตามกฎหมาย และมีแพทย์ที่เชี่ยวชาญในการฉีดฟิลเลอร์โดยเฉพาะ อยู่ประจำคลินิกเพื่อให้บริการคนไข้ รวมถึงฟิลเลอร์ที่ฉีดต้องได้มาตรฐาน ผ่านการตรวจสอบ อย.ไทย

ฉีดฟิลเลอร์ปาก อยู่ได้นานแค่ไหน?

โดยปกติแล้วระยะเวลาในการคงผลลัพธ์ของฟิลเลอร์ปากจะอยู่ที่ 6 - 1 ปี ทั้งนี้ขึ้นอยู่ยี่ห้อ/ชนิดฟิลเลอร์ที่ฉีดเข้าไป

ข้อควรรู้ก่อนฉีดฟิลเลอร์ปาก

สำหรับผู้ที่สนใจฉีดฟิลเลอร์ปาก เพราะต้องการแก้ไขปัญหาปากของตัวเอง หรืออยากมีรูปปากแบบไอดอลที่ตัวเองชื่นชอบ สิ่งที่ต้องคำนึงถึง หรือข้อควรรู้ก่อนฉีดฟิลเลอร์ปาก มีดังนี้

  • ฟิลเลอร์ปาก ไม่ได้อยู่ถาวรฉะนั้นแล้ว หากฉีดฟิลเลอร์ปากแล้ว เมื่อฟิลเลอร์สลายออกหมด และต้องการคงรูปปากให้สวยไว้ จะต้องเข้ารับการฉีดเติมอีกครั้ง
  • ฉีดด้วยฟิลเลอร์แท้เท่านั้น ที่สามารถให้ผลลัพธ์ปลอดภัยอยากสวยแต่ต้องการของถูก โดยเลือกใช้ฟิลเลอร์ราคาถูก หรือฟิลเลอร์หิ้วเอง ที่อวดอ้างสรรพคุณว่าเป็นของแท้ ไม่มีอยู่จริง เพราะฟิลเลอร์แท้ ที่ผ่านมาตรฐานความปลอดภัยของอย.ไทย จะเป็นฟิลเลอร์ชนิดสลายเองได้ หรือสารเติมเต็มประเภทไฮยาลูรอนิก (Hyaluronic Acid : HA) เท่านั้น เพราะให้ความปลอดภัย และเมื่อฉีดเข้าไปร่างกายเราไม่ต่อต้าน อีกทั้งยังสลายเองได้ไม่ทิ้งสิ่งตกค้างใดๆ ในร่างกาย

    ซึ่งบรรจุภัณฑ์ของฟิลเลอร์แท้ จะต้องมีเลขทะเบียน อย.ไทย และชื่อบริษัทผู้ผลิต - ชื่อบริษัทที่นำเข้า รวมถึงเลข lot ตรงกัน 4 จุดคือ เลข lot ที่กล่อง เลข lot ที่ซอง เลข lot ที่สติกเกอร์ เลข lot ที่หลอด

    อีกทั้งผู้ที่สามารถครอบครองและดำเนินการ หรือลงมือฉีดฟิลเลอร์แท้ได้ จะต้องเป็นแพทย์ที่ถูกต้องตามกฎหมายเท่านั้น
  • เช็กสุขภาพตัวเอง ก่อนฉีดฟิลเลอร์ปาก แม้ว่าการทำหัตถการความงามด้วยการเติมเต็มฟิลเลอร์ปาก ไม่ใช่การผ่าตัดใหญ่ แทบจะไม่มีผลข้างเคียงต่อร่างกาย แต่ทั้งนี้ยังมีกลุ่มผู้ที่ต้องระมัดระวัง และควรปรึกษาแพทย์ก่อนเข้ารับบริการดังนี้
    - ผู้ที่มีประวัติแพ้ยาชา
    - ผู้ที่มีประวัติแพ้สารเติมเต็มประเภทไฮยาลูรอนิก
    - ผู้ที่มีปัญหาเลือดหยุดไหลช้า
    - คุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์ หรือกำลังให้นมบุตร
  • ก่อนฉีดฟิลเลอร์ปาก ควรดูแลตัวเอง และงดทำสิ่งเหล่านี้
    งดผลัดเซลล์ผิวบริเวณริมฝีปาก ก่อนฉีดฟิลเลอร์ปาก 1 สัปดาห์
    - งดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ / สูบบุหรี่ ก่อนฉีดฟิลเลอร์ปาก อย่างน้อย 1 วัน
    - งดกินวิตามิน/อาหารเสริม อันมีผลต่อการทำให้เลือดหยุดช้า เช่น กลุ่มวิตามินอี น้ำมันต่างๆ หรือยาแก้ปวด ก่อนฉีดฟิลเลอร์ปาก 1 สัปดาห์

ข้อควรระวัง-การดูแลตัวเอง หลังฉีดฟิลเลอร์ปาก

เมื่อเข้ารับบริการฉีดฟิลเลอร์ปากแล้ว แม้ว่าจะไม่ต้องพักฟื้น หรือดูแลรักษาแผลเพราะไม่ใช่การผ่าตัดศัลยกรรมปาก แต่ก็มีข้อควรระวัง และแนวทางการดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์ปากดังนี้

  • ควรมีวินัยในการกินยาตามที่แพทย์ให้มาหลังเข้ารับบริการฉีดฟิลเลอร์ปาก ตามเวลาที่แพทย์สั่ง ให้ถูกต้องครบถ้วน
  • หลีกเลี่ยงการสัมผัสแรงๆ เช่น การบีบ ดึง กด บริเวณปาก หลังฉีดฟิลเลอร์ปากมา เพื่อป้องกันการอักเสบที่มากขึ้น และเป็นผลทำให้มีอาการบวมมากกว่าปกติได้ อีกทั้งในช่วงแรกของการฉีดฟิลเลอร์ต้องให้เวลาในการเซตตัวฟิลเลอร์ ดังนั้นการไม่ไปสัมผัสหรือรบกวนจะดีที่สุด
  • หลีกเลี่ยงไม่ให้บริเวณปาก โดนความร้อน ทั้งของกิน น้ำดื่ม หรือแสงแดดจัด เพื่อลดอาการบวม และไม่ขัดขวางการเซตตัวของฟิลเลอร์
  • ดื่มน้ำเปล่าให้เยอะๆ หลังฉีดฟิลเลอร์ปาก เพื่อให้ฟิลเลอร์เซตตัวได้อิ่มฟู และเพิ่มความอวบอิ่มน้ำให้กับริมฝีปากได้ดีมากขึ้น
  • 2-3 วันแรกหลังฉีด ควรนอนหงาย ยกหัวสูงให้มากกว่าระดับหน้าอก ไม่นอนตะแคง เพื่อให้ไม่เกิดความเสี่ยงบริเวณปากโดนกดทับ
  • งดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 2 สัปดาห์ หลังฉีด เพราะจะทำให้เสี่ยงเกิดการบวมน้ำ ซึ่งจะยิ่งทำให้บริเวณที่เพิ่งฉีดฟิลเลอร์ปากมาบวมหนักกว่าเดิม

ฟิลเลอร์ปาก ที่นิยมนำมาฉีด มียี่ห้ออะไรบ้าง

สำหรับฟิลเลอร์ปาก ที่แพทย์แนะนำใช้ในการฉีดฟิลเลอร์ปาก เนื่องจากมีคุณสมบัติที่เหมาะสม ไม่ว่าจะเป็นการปั้นและแต่งทรงได้ดี อีกทั้งยังมีความยืดหยุ่นดูเป็นธรรมชาติที่สุด รวมถึงต้องมีคุณสมบัติเด่น คือสามารถฟูตัวขึ้น เพื่อเติมเต็มร่องปากได้อย่างดี ซึ่งคุณสมบัติทั้งหมดนี้ เหมาะกับฟิลเลอร์แท้ ที่ผ่านอย.ไทย มียี่ห้อ/รุ่นดังนี้

  1. Restylane มี 4 รุ่นดังนี้
  • Restylane รุ่น Kysse
  • Restylane รุ่น Volyme
  • Restylane รุ่น Refyne
  • Restylane รุ่น Vital Light
  1. Juvederm มี 4 รุ่นดังนี้
  • Juvederm รุ่น Ultra Plus
  • Juvederm รุ่น Voluma
  • Juvederm รุ่น Volume
  • Juvederm รุ่น Volite
  1. Belotero มี 1 รุ่นดังนี้
  • Belotero รุ่น Volume
  1. Neuramis มี 5 รุ่นดังนี้
  • Neuramis รุ่น Deep Classic
  • Neuramis รุ่น Deep Lidocaine
  • Neuramis รุ่น Volume Lidocaine
  • Neuramis รุ่น Light Lidocaine
  • Neuramis รุ่น Lidocaine

361088771_849177740107671_297

แนะนำโปรโมชั่นฉีดฟิลเลอร์ครั้งแรกของกังนัมคลินิกที่ชวนคุณฉีดฟิลเลอร์ Neuramis ราคาเดียว CC แรกเพียงราคา 1,999 บาท แถมฟรี aura booster หน้าใส 2 เข็ม ฟรียาชา ฟรีเข็มทู่!!!

อ่านข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับฟิลเลอร์ Neuramis ได้ที่ : https://www.gangnamconsult.com/neuramis-filler/

หลังฉีดฟิลเลอร์ปาก กินของเผ็ดได้ไหม

ไม่ควรกินเผ็ดมากจนเกินไป หรือกินเป็ด จนทำให้ปากมีอาการร้อน หรือบวม เพราะจะทำให้อาการบวมเข็มหลังฉีดฟิลเลอร์ปากเพิ่มมากขึ้นกว่าปกติ

359475492_849177763441002_717

ฉีดฟิลเลอร์ปาก อย่างไรให้ปลอดภัย

  • เครื่องมือแพทย์ไม่สะอาด

เกิดจากเครื่องมือแพทย์ที่ทำการฉีดฟิลเลอร์ของไม่มีความสะอาดถูกหลักอนามัย

102200

  • ฉีดโดยฟิลเลอร์ปลอม ไม่ได้มาตรฐาน

ประเภทของฟิลเลอร์ที่เสี่ยงต่อผิวหนังต่อต้าน และทำให้เกิดการแพ้ ไปจนถึงทำให้เกิดการอักเสบ ผิวหนังพุพองเป็นหนองได้ ก็คือการที่ฉีดเอาฟิลเลอร์ปลอม หรือฟิลเลอร์ที่มีส่วนผสมของพลาสติก หรือสารแปลกปลอม ที่ร่างกายต่อต้านเข้าไป จึงทำให้เกิดผลเสียตามมา และต้องเข้ารับการแก้ไขโดยด่วน

  • ผู้เข้ารับบริการแพ้ฟิลเลอร์

แม้จะเป็นฟิลเลอร์แท้ แต่บางคนก็แพ้ได้เช่นกัน ซึ่งอาการแพ้ฟิลเลอร์อาจเริ่มจากอาการบวมที่มากกว่าปกติ มากกว่าการบวมเข็ม คือจะมีอาการปวด และผิวหนังเริ่มเปลี่ยนสีเข้มขึ้น หากปล่อยไว้เช่นนั้น อาจทำให้ผิวหนังบริเวณปากต่อต้านฟิลเลอร์ ด้วยการสร้างเม็ดเลือดขาวมาต่อสู้กับฟิลเลอร์ จนเกิดภาวะหนองตามมาได้

หลังฉีดฟิลเลอร์ปาก ทาลิปสติกได้หรือไม่

close-up-portrait-beautiful-w

หลังฉีดฟิลเลอร์ปาก ไม่ควรสัมผัสบริเวณปาก ทั้งแบบ กด บีบ หรือดึง ฉะนั้นแล้วการทาลิปสติกควรหลีกเลี่ยงไปก่อน และจะสามารถทาได้อีกทีหลังฉีดไปแล้วประมาณ 2 วัน ถึงจะดีที่สุด เพื่อไม่ให้เกิดการกระทบกระเทือน จนทำให้การบวมที่เกิดจากเข็มอักเสบมากกว่าเดิม อีกทั้งไม่ไปรบกวนการเซตตัวของฟิลลเอร์ที่เพิ่งเข้าไปสู่ชั้นผิวหนังได้ไม่นาน

สรุป

แม้ว่าการฉีดฟิลเลอร์ปาก จะเป็นการทำหัตถการที่ง่ายดาย และให้ผลลัพธ์รวดเร็วท่วงทันกับการแก้ปัญหาริมฝีปาก ไปจนถึงทันเทรนด์ฮิตรูปปากร่วมสมัยแบบสุดๆ แต่ถึงอย่างนั้นการคำนึงถึงความปลอดภัยก็ยังต้องเป็นอันดับต้นๆ ของการเสริมความงาม ดังนั้นแล้ว หากมองถึงความคุ้มค่าทั้งเรื่องผลลัพธ์ที่ชัดเจน ถูกใจตามเทรนด์ และให้มีผลข้างเคียงน้อย ปลอดภัยสูง ก็ต้อง กังนัมคลินิก ที่พร้อมดูแล และจบทุกปัญหาริมฝีปาก ด้วยฟิลเลอร์แท้คุณภาพดี ซึ่งหากใครสนใจ สามารถติดต่อได้ที่ Line: @gangnamclinic เพื่อนัดหมาย/ ปรึกษา และขอรับบริการ

advertisement

ข่าวยอดนิยม

ไลฟ์สไตล์ ล่าสุด