SUZUKI XL7 HYBRID ใช้เทคโนโลยี Smart Hybrid จากซูซูกิ เป็นการทำงานระหว่างเครื่องยนต์กับ ISG พร้อมแบตเตอรี่ลิเธียมไออน ที่ช่วยในการประหยัดน้ำมัน และช่วยในเรื่องการออกตัวนุ่มนวล บำรุงรักษาง่ายไม่ต่างจากเครื่องยนต์เบนซิน และการรับประกันแบตเตอรี่ 5 ปี
SUZUKI XL7 HYBRID กระจังหน้าโครเมียมลายใหม่ ไฟหน้า LED รีเฟล็กเตอร์ และ Daytime Running Light และเสาอากาศแบบใหม่ ออกแบบด้านท้ายให้มีเส้นสายสะดุดตา ไฟท้าย LED แบบ Light Guides ติดตั้งสัญลักษณ์ Hybrid บริเวณประตูท้าย คงเอกลักษณ์ราวหลังคาสไตล์สปอร์ต
ภายในห้องโดยสารกว้างขวาง กับเบาะนั่งแบบ 3 แถว 7 ที่นั่ง ตกแต่งคอนโซลลายไม้ ผสมกับดีไซน์คอนโซลแบบสปอร์ต มาตรวัดพร้อมจอ LCD แสดงข้อมูลการขับขี่ Driving G-Force และอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิง
หน้าจอระบบสัมผัส ขนาด 10 นิ้ว ฟังก์ชันเอ็นเตอร์เทนเมนต์ รองรับการเชื่อมต่อ สะดวกกับแท่นชาร์จโทรศัพท์แบบไร้สาย พวงมาลัยเป็นทรง D-Shape แนวสปอร์ต มาพร้อมกับปุ่มควบคุมเครื่องเสียงและปุ่มสั่งการโทรศัพท์ เพิ่มความคล่องตัวให้กับการขับขี่ด้วยระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติหรือ Cruise Control
แพลตฟอร์ม HEARTECT ช่วยในการขับขี่ เทคโนโลยีความปลอดภัย กล้องมองภาพด้านหลัง ระบบเซ็นเซอร์ถอยหลังพร้อมสัญญานเตือนขณะถอยจอด ระบบ Hill Hold Control ช่วยออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน ระบบ Idling Stop ช่วยลดอัตราการสิ้นเปลืองขณะรถหยุดวิ่ง
นายวัลลภ ตรีฤกษ์งาม รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “SUZUKI XL7 คือหนึ่งในรถยนต์อเนกประสงค์ที่ได้รับความนิยมจากผู้บริโภค ด้วยความครบครัน ทั้งด้านความกว้างขวางภายในห้องโดยสาร อุปกรณ์อำนวยความสะดวกและระบบความปลอดภัยครบครัน รวมถึงสมรรถนะการขับขี่อันโดดเด่นที่พร้อมพาคุณไปพบกับประสบการณ์ใหม่ ๆ ในทุกเส้นทาง โดยนับตั้งแต่เดือนเปิดตัวครั้งแรกในเดือนกรกฎาคม 2563 ถึง เดือนกุมภาพันธ์ 2567 มียอดจำหน่ายรวมทั้งสิ้น 8,699 คัน ซึ่งการแนะนำรุ่นใหม่ในครั้งนี้ เชื่อมั่นว่าจะเข้ามาเพิ่มตัวเลขยอดขายให้เติบโตขึ้นมากกว่าเดิมอย่างแน่นอน”