Mitsubishi มิตซูบิชิ มอเตอร์ส คอร์ปอเรชั่น (มิตซูบิชิ มอเตอร์ส) ประกาศความสำเร็จ จากการที่ ออล-นิว มิตซูบิชิ ไทรทัน รถกระบะขนาด 1 ตัน ได้รับการรับรองมาตรฐานความปลอดภัยระดับสูงสุด 5 ดาว จาก ANCAP (Australasian New Car Assessment Program) ปี 2567 ซึ่งเป็นการทดสอบเพื่อประเมินสมรรถนะด้านความปลอดภัยของยานยนต์รุ่นใหม่ ที่จำหน่ายในประเทศออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ โดย ออล-นิว ไทรทัน เป็นรถกระบะดับเบิ้ลแค็บ 4 ประตูรุ่นแรกที่ได้รับการรับรองมาตรฐานความปลอดภัยสูงสุดในการทดสอบประจำปี 2566 – 2568 ต่อเนื่องจากการที่ ออล-นิว ไทรทัน ได้รับการรับรองมาตรฐานความปลอดภัยระดับสูงสุด 5 ดาว จากการทดสอบการชนของรถยนต์ใหม่ โดย ASEAN NCAP ในปี 2566 ซึ่งเป็นการทดสอบเพื่อประเมินสมรรถนะด้านความปลอดภัยของยานยนต์รุ่นใหม่ ที่ออกจำหน่ายในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในเดือนธันวาคม 2566 ที่ผ่านมา
ออล-นิว ไทรทัน โครงสร้างตัวถังนิรภัย RISE (Reinforced Impact Safety Evolution) ที่มีความแข็งแกร่งสูง สามารถรองรับแรงปะทะและลดการยุบตัวของห้องโดยสาร เมื่อเกิดอุบัติเหตุเพื่อให้เกิดการเปลี่ยนสภาพน้อยที่สุด พร้อมด้วยเข็มขัดนิรภัยและถุงลมนิรภัย SRS 8 ตำแหน่ง (สำหรับรุ่นดับเบิ้ล แค็บ ที่จำหน่ายในออสเตรเลีย) ออกแบบมาเพื่อปกป้องผู้โดยสารด้วยระดับความปลอดภัยขั้นสูง เสริมด้วยระบบความปลอดภัยเพื่อยกระดับสมรรถนะความปลอดภัยในการป้องกันการเกิดอุบัติเหตุ อาทิ ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว (ASC - Active Stability Control) ที่ช่วยควบคุมการลื่นไถลออกนอกเส้นทาง ในสภาวะที่รถเสียสมดุล และ ระบบช่วยชะลอความเร็ว (FCM - Forward Collision Mitigation) ที่มีการตรวจจับคนเดินถนนและผู้ขับขี่จักรยานยนต์ ซึ่งถูกติดตั้งให้เป็นอุปกรณ์มาตรฐานในทุกรุ่นย่อย
ออล-นิว ไทรทัน กระบะขนาด 1 ตัน ของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส มีต้นกำเนิดมาจากรถรุ่น ฟอร์เต้ (Forte) ที่เปิดตัวออกสู่ตลาดในปี 2521 ผลิตมาอย่างต่อเนื่องยาวนานกว่า 45 ปี มากกว่า 5 เจนเนอเรชั่น ด้วยจำนวนการผลิตกว่า 5.7 ล้านคัน ที่จัดจำหน่ายในกว่า 150 ประเทศทั่วโลก และกลายเป็นรถรุ่นสำคัญในเชิงกลยุทธ์ระดับโลกของ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส
“พลังแกร่งคู่ใจสายลุย” (Power for Adventure) ออล-นิว ไทรทัน พัฒนาดีไซน์ภายในและภายนอก ไปจนถึงแชสซีส์ใหม่ เฟรมหรือโครงรถแบบขั้นบันไดใหม่ และเครื่องยนต์ใหม่ โดยได้รับการเปิดตัวครั้งแรกที่ประเทศไทย ซึ่งเป็นฐานการผลิตในเดือนกรกฎาคม 2566 ก่อนที่จะเปิดตัวที่ประเทศฟิลิปปินส์ ในเดือนมกราคมที่ผ่านมา ตามด้วยประเทศญี่ปุ่นในเดือนกุมภาพันธ์ รวมถึงออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ในเดือนมีนาคม และมีกำหนดที่จะเปิดตัวในกว่า 100 ประเทศทั่วโลก