OMODA & JAECOO ภายใต้ Chery Automobile บริษัทด้านเทคโนโลยียานยนต์ชั้นนำระดับโลกสัญชาติจีน ได้แถลงกลยุทธ์การพัฒนาผลิตภัณฑ์ระดับโลก ด้วยแนวคิด “NEW ENERGY, NEW ECO, NEW ERA” หรือ “พลังงานใหม่ ระบบนิเวศใหม่ แห่งยุคใหม่” OMODA & JAECOO ได้เผยทิศทางรถยนต์ 2 รุ่นใหม่อย่าง “OMODA 7” และ “JAECOO 8” รถยนต์พรีเมียมออฟโรด และประกาศกลยุทธ์ทางธุรกิจ 2030 อย่างเป็นทางการ รองรับเป้าหมายยอดขายทะยานสู่ 1.5 ล้านคัน
ระยะเวลาไม่ถึงปี OMODA & JAECOO ขยายตลาดทั่วโลกอย่างรวดเร็วกว่า 40 แห่ง และได้เข้าสู่ภูมิภาคต่าง ๆ อาทิ เม็กซิโก สเปน ชิลี และคาซัคสถาน พร้อมกับการสร้างเครือข่ายผู้แทนจำหน่ายกว่า 873 รายทั่วโลก ด้วยยอดขายรถยนต์กว่า 160,000 คัน ทั่วโลกภายในหนึ่งปี ขึ้นแท่นกลายเป็นแบรนด์รถยนต์ที่เติบโตเร็วที่สุดในตลาดโลก
กลยุทธ์ของแบรนด์ในปี 2030 จะขยายตลาด สร้างเครือข่าย พัฒนาแบรนด์และไลน์อัพผลิตภัณฑ์ รวมไปถึงกลยุทธ์การสร้างระบบนิเวศของผู้ขับขี่แบบครบวงจร วางตำแหน่งของแบรนด์ให้ต่างจากแบรนด์ดั้งเดิมอื่น ๆ โดยมีเป้าหมายเจาะตลาดในกลุ่มประเทศที่มีกฎระเบียบสูงและท้าทายอย่างยุโรป ด้วยการดีไซน์รูปโฉมภายนอกของรถยนต์ที่ตอบสนองความต้องการของตลาด มีระบบการจัดการที่มีประสิทธิภาพ และมีความสามารถปรับตัวในระดับโลก ซึ่งจะช่วยให้ทำยอดขาย 1.5 ล้านคัน และชิงส่วนแบ่งทางการตลาด 10% ในอุตสาหกรรมยานยนต์โลกได้
ในด้านกลยุทธ์ผลิตภัณฑ์ OMODA & JAECOO ยังคงมุ่งเน้นการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่แตกต่าง โดยในอีก 2 – 3 ปีข้างหน้า พัฒนาไลน์อัพผลิตภัณฑ์รุ่นเรือธงและดาวเด่น ทั้งแบรนด์ OMODA ที่เตรียมจะเปิดตัวรถยนต์รุ่น OMODA 7 และ OMODA 3 และแบรนด์ JAECOO ที่จะเปิดตัว JAECOO 8 และ JAECOO 5 พร้อม ๆ กัน รถยนต์พลังงานหมุนเวียนของ OMODA & JAECOO จะสามารถครองส่วนแบ่งทางการตลาดต่าง ๆ ได้
สำหรับกิจกรรมต่าง ๆ ในระดับโลก สร้างการมีส่วนร่วมของลูกค้า ผ่านเทศกาลดนตรีระดับโลก การแข่งขัน Refitting Competition ที่รวบรวมศิลปินมาสร้างสรรค์ไอเดียตกแต่งรถยนต์ โครงการด้านสิ่งแวดล้อม การจัดทัวร์ออฟโรดทั่วโลก การจัดประกวดค้นหา “MR. J.” ซึ่งกิจกรรมเหล่านี้ได้รับความสนใจและชื่นชอบจากแฟน ๆ กว่า 5.2 ล้านคน ใน 80 ประเทศทั่วโลก และทำให้แบรนด์โตเร็วที่สุดในแง่ของการเป็นที่รู้จักในระดับทั่วโลก
OMODA & JAECOO ใช้รถยนต์รุ่นเรือธงเป็นส่วนหนึ่งในกิจกรรมต่าง ๆ ระดับโลก อาทิ กิจกรรมด้านกีฬาและอีสปอร์ต (E-Sports) กับกลุ่ม LOHAS หรือกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่มีไลฟ์สไตล์ในแบบส่งเสริมทั้งสุขภาพกายและใจ รวมถึงใส่ใจสิ่งแวดล้อม
สร้างช่องทางการสื่อสารผ่าน “Virtual Live Broadcast” ที่จะสร้างการมีส่วนร่วมกับสื่อมวลชนและลูกค้าทั่วโลก ปัจจุบัน OMODA & JAECOO ได้จัดกิจกรรมไปแล้ว 276 ครั้ง กับ 1,998 สื่อ ใน 30 ประเทศทั่วโลก และเพื่อรับมือกับการพัฒนาในอนาคตที่จะเชื่อมโยงเสมือนจริงและโลกแห่งความจริงเข้าด้วยกัน
OMODA & JAECOO ได้ร่วมมือกับ AiMOGA พัฒนา “MORNINE” หุ่นยนต์ไบโอนิคเดินได้ตัวแรกของโลก ซึ่งเกิดขึ้นจากการพัฒนาเทคโนโลยีและฟังก์ชันการทำงานที่หลากหลาย จนสามารถกลายเป็นเพื่อนร่วมทางที่ชาญฉลาดในทุกบ้าน และเชื่อมโยงโลกเสมือนให้กลายเป็นจริงขึ้นมา
ล่าสุด OMODA ภายใต้คอนเซ็ปต์ “O-UNIVERSE” แนวคิดการตลาดบนโลกเสมือนที่เชื่อมโลกจริงและโลกเสมือนของผู้ขับขี่เข้าด้วยกัน ได้ปล่อยไมโครฟิล์มซีรีส์เกี่ยวกับระบบนิเวศการขับขี่ 2 ตอน เผยแพร่สู่ 80 ประเทศทั่วโลก และมียอดผู้รับชมสูงถึง 2 พันล้านครั้ง ซึ่ง OMODA จะเดินหน้าผลิตไมโครฟิล์มซีรีส์นี้ต่อไป เข้าถึงคนรุ่นใหม่
สำหรับ JAECOO ที่เกิดขึ้นจากปรัชญาของแบรนด์ “From Classic, Beyond Classic” มุ่งพัฒนารถยนต์ออฟโรดพร้อมกับการเป็นผู้นำพลิกโฉมนวัตกรรมที่สร้างประสบการณ์การขับขี่ออฟโรด อาทิ เทคโนโลยีการควบคุมเวกเตอร์ AWD เพิ่มขีดความสามารถในการขับขี่แบบสมบุกสมบันให้กับ JAECOO 7 และ JAECOO 8 ที่ทำให้ JAECOO ยังคงเป็นแบรนด์ที่พัฒนายนตรกรรมด้วยเทคโนโลยี
OMODA & JAECOO ได้เปิดตัวแพลตฟอร์ม “GREEN OJ” ที่จะมาสนับสนุนกิจกรรมสาธารณะด้านความยั่งยืนของแบรนด์ อาทิ การอนุรักษ์พื้นที่ชุ่มน้ำ การคุ้มครองพืชพรรณ การอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพและมหาสมุทร ผ่านการพัฒนานวัตกรรมเทคโนโลยีด้านพลังงานใหม่และระบบขับเคลื่อนที่มีประสิทธิภาพ ด้วยเป้าหมายที่จะทำงานร่วมกับพาร์ทเนอร์ในระดับโลกในการปกป้องโลกของเราและนำไปสู่อนาคตที่ยั่งยืน
ในปี 2024 นี้ OMODA & JAECOO มุ่งขยายแบรนด์ทั้งในด้านแฟชั่น เทคโนโลยี และอนาคต ด้วยการสร้างระบบนิเวศ “Ultra Futuristic Tech LIFE” ซึ่งผสมผสานระหว่าง “Tech Life” “Fashion Life” และ “Off-Road Life” เข้าด้วยกัน ในขณะเดียวกัน OMODA & JAECOO ยังคงค้นหาและสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ มุ่งพัฒนาระบบนิเวศที่ครอบคลุมเพื่อรองรับความต้องการที่หลากหลาย และสร้างสรรค์ไลฟ์สไตล์แห่งอนาคตร่วมกับผู้ขับขี่ต่อไป
นอกจากนี้ OMODA & JAECOO ยังคงมุ่งมั่นขยายฐานกลุ่มลูกค้าให้กว้างมากยิ่งขึ้น โดยแบรนด์ JAECOO กำลังพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์การใช้งานในระบบนิเวศการขับขี่ อาทิ เสื้อแจ็คเก็ตและอุปกรณ์แคมป์ปิ้ง และอุปกรณ์จ่ายไฟ V2L ของรุ่นออฟโรด ที่จะทำให้ผู้ใช้งานสนุกและเพลิดเพลินกับการขับขี่