บางวันก็รู้สึกเหมือนตัวเองเป็นตัวประกอบในหนังแอคชั่นที่ไม่รู้จะจบตอนไหน บทไม่ต้องเขียนเยอะ แค่ตื่นเช้ามา แบตเหลือ 12% หาตู้ไม่เจอ สัญญาณเน็ตไม่ดี แอปล่ม พอไม่ล่ม จองได้ ไปถึงที่ชาร์จ ไหงมีคนจอดรถทิ้งไว้แบบไม่รู้ร้อนรู้หนาว เหมือนโลกทั้งใบพยายามจะบอกว่า “กลับไปใช้น้ำมันเถอะ” วันนี้มันอาจจะไม่ใช่วันของเรา
บางทีมันก็เหนื่อยนะ เหนื่อยแบบไม่ต้องมีใครเข้าใจ แค่อยากนั่งเฉยๆ ในรถ เปิดแอร์ แล้วหลับตาสักพัก…แต่พอคิดว่าแบตมันจะหมด ถ้าแอร์เปิดนานเกินไป ก็ต้องตื่นขึ้นมาเป็นนักสู้หน้าตู้ชาร์จต่อไป…พรุ่งนี้จะต้องเตรียมให้พร้อม จองให้เรียบร้อย จะต้องไม่มีใครมาจอดขวาง
แก้ปัญหาให้ตัวเองอย่างไรดี
ก่อนอื่นเลย…ขอจับมือแน่น ๆ เพราะเข้าใจดีว่าการเป็น “นักสู้หน้าตู้ชาร์จ” มันทั้งเหนื่อย ทั้งกดดัน แล้วก็ไม่มีคู่มือรับมือแบบเป๊ะ ๆ ด้วย แต่ถ้าให้แนะนำก็ลองดูตามนี้
ไม่มีใครผิดที่รู้สึก "เหนื่อย" เพราะการขับรถไฟฟ้าในยุคนี้ มันไม่ใช่แค่เรื่องสิ่งแวดล้อม แต่มันคือการฝ่าฟันฝุ่นควันกับสุขภาพ
อยากให้รู้ว่าคุณไม่ได้สู้คนเดียว วันนี้ไม่เจอ พรุ่งนี้ก็ขอให้เจอตู้ที่ชาร์จได้ตั้งแต่รอบแรก ที่สำคัญที่สุด ขอให้คนก่อนหน้าไม่จอดรถคา จอดทิ้งไว้ ขอให้เจอคนมีน้ำใจ ขอให้ชีวิตง่ายขึ้นนิดนึงสักวันก็ยังดี ชีวิตคงไม่ได้แย่ทุกวันซะหน่อย
คนใช้รถยนต์ไฟฟ้าส่วนใหญ่อาจจะไม่ได้เจอกับปัญหานี้ เพราะทุกวันนี้ระบบพัฒนาไปไกล ตู้ชาร์จมีมากมาย และเตรียมตัวมาอย่างดี แต่คนที่เจอปัญหาก็ลองดูวิธีที่ทำให้ตัวเองใช้รถยนต์ไฟฟ้าได้อย่างสะดวก และสบายใจมากขึ้น