ความเป็นส่วนตัวเด็ก สิทธิที่บางคนหลงลืม เพียงเพราะเป็น คุณแม่ซุปตาร์ คนดังอยู่ท่ามกลางสปอตไลท์ หน่ำซ้ำการที่ยึดมั่นรักษา Privacy ให้กับลูก กลับเป็นคอมเมนต์เชิงลบของชาวเน็ต
"ว่าฉันรักเธอโดยที่ไม่รู้จัก และฉันรักเธอตั้งแต่แรกพบหน้า มากมายจนข้างใน ต้องระบายออกมา ให้เธอได้ยิน" หนึ่งในบทเพลงรักจาก บอย โกสิยพงษ์ ที่เจ้าตัวเคยให้สัมภาษณ์ไว้ว่า เป็นเพลงที่แต่งให้กับลูกตั้งแต่ช่วงที่ยังตั้งครรภ์ จึงกลายเป็นอีกหนึ่งบทเพลงแทนใจ เมื่อหลายครอบครัวเริ่มต้นบทบาทใหม่ ด้วยการเติมเต็มความสมบูรณ์ให้กับครอบครัว ดังบทบาทที่ว่า มีสามีภรรยา ก็ต้องมีลูกเป็นโซ่ทองคล้องใจ เชื่อว่าคุณแม่หลายคนที่เข้าสู่ช่วงแรกของการตั้งครรภ์ เมื่อรู้ตัวว่ากำลังจะมีคนเดินทางมาร่วมชีวิตด้วย ต้องเริ่มต้นความรักตั้งแต่ในช่วง 9 เดือนอย่างแน่นอน
ความรักจากแม่ที่มีต่อลูก ถือเป็นหนึ่งในความสัมพันธ์ที่เป็นเรื่องปกติ โดยแนวคิดที่ยึดถือกันโดยไม่ทันรู้ตัว เมื่อได้เดินหน้าก้าวเข้าสู่บทบาทความเป็นแม่ เป็นความรักที่ไม่มีข้อแม้ และอาจเป็นเพราะคนที่กำลังอุ้มท้องเหล่านั้น ถูกลดบทบาทและเพิ่มหัวโขนความเป็นแม่ขึ้นมาโดยอัตโนมัติ จึงปฏิเสธไม่ได้เลยว่า "บางครั้งสิ่งที่แม่หลายคนแสดงออก เป็นความคลั่งไคล้หรือเห่อลูก"
การอวดลูก กลายเป็นหนึ่งในสิ่งนิยมทำภายในประเทศ ไม่ว่าจะอยู่ในตำแหน่ง หน้าที่ หรือการงานใด ล้วนแต่มีความภาคภูมิใจในบทบาทผู้อุ้มท้อง จนบางครั้งสะท้อนออกมาด้วยการเผยให้เห็นความเป็นไปของลูก ไม่เว้นแม้กระทั่ง แม่คนดัง ที่ต้องอาศัยอยู่ท่ามกลางสปอตไลท์
นั่นไม่ได้แปลว่าการอวดลูก การแสดงให้เห็นถึงความน่ารักของลูก หรือการภาคภูมิใจในตัวลูก เป็นเรื่องที่บุคคลเป็นพ่อแม่ไม่ควรทำ ยังคงถือเป็นเรื่องที่ควรทำอยู่ตลอด เพื่อเป็นอีกหนึ่งการพัฒนา Self-Esteem ให้ติดตัวเด็กไปตั้งแต่ยังเล็ก แต่เมื่อย้อนดูกันอีกครั้ง แม่หลายคนอาจอวดลูกด้วยวิธีการที่ไม่น่ารักอยู่บ้าง ด้วยการไม่คำนึงถึงความเป็นส่วนตัวของลูก
จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อเด็ก ๆ ค้นหาประวัติตัวเอง แล้วเจอข้อมูลที่พ่อแม่โพสต์บนออนไลน์
ข่าวนี้ถูกเผยแพร่เมื่อปี 2019 โดยเว็บไซต์ The Atlantic ที่ได้ระบุว่า เด็กสาววัย 11 ปีหลายคน ได้ทดลองค้นหาข้อมูลส่วนตัวของตัวเองบนโลกออนไลน์ และพบว่ามีข้อมูลบางส่วนที่พ่อแม่โพสต์ไป ตั้งแต่ก่อนหน้านี้และจนปัจจุบัน เป็นข้อมูลที่เธอไม่สะดวกใจที่จะให้เผยแพร่ ผลจากการค้นหาข้อมูลของตัวเองในครั้งนั้น ทำให้เด็กหลายคนรู้สึกไม่มีความสุข และคาดหวังว่าในครั้งต่อ ๆ ไป พ่อแม่จะขออนุญาตเธอก่อนการโพสต์ใดก็ตาม
เด็กคนหนึ่งให้สัมภาษณ์ว่าเธอรู้สึกหงุดหงิดที่ข้อมูลถูกเผยแพร่โดยไม่ได้ยินยอม ทั้งที่เธอไม่มีโซเชียลมีเดียส่วนตัวเป็นของตัวเอง แต่กลับพบข้อมูลของตัวเองทั้งหมด ไม่เว้นแม้กระทั่งเรื่องส่วนตัวในไดอารี่ของเธอ หรือสถิติว่ายน้ำ ก็กลายเป็นข้อมูลที่หลายคนสามารถหาอ่านได้ เพียงแค่นิ้วคลิกหนึ่งครั้ง อีกทั้งข้อมูลส่วนตัวเหล่านี้ ถึงแม้จะไม่ใช่เรื่องที่น่าอายแต่อย่างใด มันเป็นความอยากอวดลูกของครอบครัวเธอ แต่เธอเป็นกังวลว่าหากเพื่อนในวัยเดียวกันมาเห็น อาจจะกลายเป็นเรื่องที่ถูกล้อเลียนจนทำให้เธอไม่รู้สึกสนุกกับโรงเรียนก็เป็นได้
บทบาทของความเป็นแม่ที่เป็นคนดัง แต่ยึดมั่นรักษา Privacy ให้ลูก
เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ อาจจะยังเป็นเรื่องที่ดูไม่มีอะไรมากในสังคมไทยบ้านเรา เพราะในเมื่อก็มีคุณพ่อคุณแม่ที่เป็นดารา นักแสดง อินฟลูเอนเซอร์หลายคน หรือที่เรียกอีกอย่างว่า คุณแม่ซุปตาร์ ที่มีการแสดงให้เห็นถึงหน้าตาของลูกตนเอง บางรายอาจมีการติดตามพัฒนาการด้วยการจัดทำเป็น Vlog เลยด้วยซ้ำ และเมื่อหลังคลอดบางครอบครัวก็ยังอวดโฉมลูกน้อยของตัวเองบนโซเชียลมีเดีย ทั้งนี้ยังคงยืนยันว่าเป็นเรื่องที่ไม่ผิดหากพ่อแม่พร้อมที่จะดูแลลูกน้อย แต่แล้วถ้าข้อมูลเหล่านี้กลายร่างเป็น Digital footprint ที่เด็กเห็นเมื่อโตขึ้น และไม่ได้รู้สึกยินยอมกับมันละ จะทำอย่างไร
ปุ้มปุ้ย พรรณทิพา - กวินท์ ดูวาล
ย้อนกลับไปที่ครอบครัว คุณแม่ซุปตาร์ อย่าง ปุ้มปุ้ย พรรณทิพา และกวินท์ ดูวาล คู่รักที่เริ่มต้นด้วยการตั้งมั่นว่าจะไม่โพสต์รูปของลูกชายลงโซเชียลมีเดีย โดยตั้งใจว่าจะไม่มีใครได้เห็นหน้าลูก จนกว่าจะสามารถสื่อสารได้ และจำเป็นที่จะต้องขออนุญาตลูกชายก่อน แต่เมื่อครบ 1 ปีของลูกชาย ได้มีการเปิดเผยหน้าตาของลูกชายลงในอินสตาแกรมส่วนตัว โดยเธอได้เปิดเผยในภายหลังว่า สาเหตุที่เปิดเผยเพราะตนเองเป็นคนเปิดเผยเอง ยังดีกว่าถ้าหากมีคนมาเผยแพร่โดยที่ไม่ยินยอม
ระหว่างนั้นที่แสดงจุดยืนดังกล่าวมีกระแสดราม่าจำนวนไม่น้อยที่ถาโถมไปยังครอบครัวนี้ เกิดเป็นการวิจารณ์อย่างสนุกปาก โดยที่ไม่ได้เห็นใจว่า คอมเมนต์ที่พิมพ์ลงไปบนแอคเคาท์ของเธอ จะกลายเป็นสิ่งทรอม่าของครอบครัว นอกจากนี้แล้วเมื่อตอนเผิดเผยหน้าลูกชาย ก็ยังไม่วายมีการตั้งคำถามว่า "น้องอายุ 1 ขวบ สามารถบอกความต้องการได้แล้ว อัจฉริยะจัง"
เชอรีน ณัฐจารี
อีกหนึ่งคนบันเทิงไทยที่ไม่ค่อยเปิดเผยหน้าของลูกให้เห็นโดยตรง จริงอยู่ที่เมื่อช่วงแรกของการคลอด ตัวเชอรีนเองได้มีการถ่ายภาพโปรไฟล์ลูก สมัยที่ลูกยังเป็นเด็กอ่อนหลังคลอดไว้ และเผยแพร่ลงบนอินสตาแกรมส่วนตัวของเธอ แต่เมื่อลูกสาวของเธอเริ่มโตขึ้นเรื่อย ๆ เธอใช้วิธีลงรูปถ่ายที่เปลี่ยนไป จากเดิมที่เคยเห็นหน้าตรง ๆ แบบชัดเจน เธอใช้วิธีเห็นเพียงเสี้ยวหน้า ด้านข้าง หรือด้านหลัง จุดที่ทำให้เห็นว่าเธอเปลี่ยนไปอย่างชัดเจนคือ การถ่ายภาพหมู่ร่วมกันของเธอกับเพื่อน ๆ ที่มีลูกน้อย ลูกสาวของเธอคือคนเดียว ที่ถูกถ่ายในท่าทางหันหลังและเห็นหน้าไม่ชัดเจน
เชอรีนอาจไม่ได้เปิดเผยวิธีหรือแนวคิดอย่างชัดเจน แต่เมื่อก่อนหน้าที่ที่เธอได้ออกมาเปิดปากเล่าถึง ชีวิตครอบครัวเธอและอดีตสามี เธอได้ให้สัมภาษณ์ว่าเดิมทีเรื่องนี้ไม่อยากให้เป็นข่าว เพราะว่าไม่อยากให้กลายเป็นเหตุการณ์ที่กระทบกับลูกในอนาคต ตลอดการสัมภาษณ์นั้นจะเห็นได้ว่า เธอนึกถึงลูกมาโดยตลอด การที่ไม่อยากให้ลูกเธอกลายเป็นที่จับตามองจากสังคม ไม่ว่าจะเป็นการเลี่ยงไม่ลงรูปที่เห็นหน้าลูกชัดเจน หรือตัวเธอเองไม่อยากเป็นข่าว ล้วนเป็นหนึ่งในขั้นตอนการรักษา Privacy ให้กับลูก
คิมแทฮี - เรน (จองจีฮุน)
คู่รักคนดังแห่งเกาหลีใต้อย่างนักแสดงสาว คิมแทฮี และนักร้อง เรน ถือเป็นหนึ่งในคู่รักต้นแบบที่รักษาความเป็นส่วนตัวให้กับลูกสาวขั้นสุดยอด เพราะจนป่านนี้ปี 2024 แฟนคลับยังไม่เคยมีใครเห็นหน้าตาของลูกสาวทั้ง 2 คน หรือมีการเปิดเผยหน้าตาอย่างชัดเจน มีเพียงแค่การนำเสนอข่าวเรื่องการซื้อสังคมหรือคุณภาพชีวิตเพื่อลูกเท่านั้น
ย้อนกลับไปเมื่อปี 2017 ทั้งคู่ได้เข้าพิธีวิวาห์กันและให้กำเนิดลูกคนโตในเดือนตุลาคม ก่อนที่จะให้กำเนิดลูกสาวคนเล็กในปี 2019 ต่อมา ตลอดเวลาที่ผ่านมาตั้งแต่ 2017-2024 ทุกคนในวงการบันเทิงเกาหลีและแม้กระทั่งแฟนคลับ ต่างรับรู้ว่าคู่รักนี้มีพยานรักด้วยกันถึง 2 คน คนที่เคยได้เห็นรูปมีเพียงแต่คนสนิทของทั้งคู่เท่านั้น
เมื่อพูดถึงความน่ารักของคู่รักซูปตาร์นี้ ในฝั่งของคิมแทฮีอาจจะไม่ได้เห็นมากเท่าไรนัก นอกจากการที่เธอกลับมารับงานแสดงอีกครั้งเมื่อปี 2023 หลังจากที่พักงานแสดงผันตัวไปเป็นคุณแม่ กลับกันแฟนคลับได้เห็นความเป็นคุณพ่อคลั่งรักผ่านทางเรนเสียมากกว่า ไม่ว่าจะเป็นการอวดลูกโดยไม่เปิดหน้าผ่านรายการ หรือการเปิดเผยเรือนหอที่อาศัยแต่ไม่ให้ทุกคนรบกวนครอบครัว แต่สิ่งที่ประทับใจจากการรักษาความเป็นส่วนตัวให้ลูกที่สุดคือ เขาตัดสินใจปิดกล้องการถ่ายทำ พร้อมกับบอกว่าต่อไปนี้เป็นเวลาของครอบครัว ไม่สะดวกที่จะให้เผยแพร่หรือออกอากาศ
เบลก ไลฟ์ลีย์ (Blake Lively) - ไรอัน เรย์โนลด์ (Ryan Reynolds)
คู่รักคนดังฮอลลีวูดที่แสนจะน่าอิจฉา เบลก ไลฟ์ลีย์ และไรอัน เรย์โนลด์ นักแสดงนำชื่อดังจากภาพยนตร์ Deadpool คู่รักลูก 4 ที่จวบจนปัจจุบันถึงจะเปิดเผยหน้าของลูก แต่เมื่อครั้งที่ยังเป็นเบบี๋กลับได้รับเกราะกำบังอย่างสุดยอด ครอบครัวนี้อาจรับได้เมื่อเขาและเธอเป็นคนพาลูกไปออกงาน ที่จำเป็นจะต้องเปิดหน้าและถ่ายรูป แต่เมื่อเป็นกรณีที่ถูกติดตาม แอบถ่าย หรือเผยแพร่ภาพโดยที่ไม่ยินยอม อันนี้จะเป็นอีกเรื่อง
เมื่อปี 2021 ที่ผ่านมา เบลก ไลฟ์ลีย์ เคยออกมาเปิดเผยถึงการโดยคุกคามจากปาปารัสซี่ เมื่อครั้งที่เธอพาลูกสาวทั้ง 3 คนออกไปเที่ยว ส่วนตัวของไรอัน เรย์โนลด์เองก็รู้สึกว่า รูปถ่ายเหล่านั้นละเมิดความเป็นส่วนตัวของลูกสาว เพราะมันไม่ได้ถูกยินยอมที่จะให้โชว์ แถมในช่วงเดือนตุลาคมในปีเดียวกัน ยังมีการโพสต์รูปถ่ายของลูกสาวของทั้งคู่ โดยที่เป็นบัญชีที่ไม่รู้จัก เบลกได้ประกาศอย่างชัดเจนถึงเรื่องที่เกิดขึ้นว่า "เรื่องนี้ครอบครัวอื่นอาจรู้สึกโอเคไม่เป็นไร มีคนรักมีคนชื่นชมจะดีกว่า แต่สำหรับครอบครัวเราไม่ใช่แบบนั้น ของให้ลบรูปภาพที่ไม่ได้รับความยินยอมเหล่านั้นออก"
เจสสิก้า บีล (Jessica Biel) - จัสติน ทิมเบอร์เลค (Justin Timberlake)
อีกหนึ่งคู่รักอมตะอย่าง เจสสิก้า บีล และจัสติน ทิมเบอร์เลค คู่รักที่สุดยอดผู้รักษาความเป็น Privacy ของลูก ถึงแม้ทั้งคู่ต่างเป็นคนดังทีทำงานหนัก ดูเหมือนไม่น่าจะมีเวลาในการใส่ใจเหล่านั้น แต่ว่าภาพที่ลงของทั้งสองคนหากเป็นรูปที่มีลูกติดไปด้วยนั้น ส่วนใหญ่ถ้าไม่เป็นด้านหลังไปเลย ก็จะมีการปิดบังด้วยสติ๊กเกอร์อยู่ตลอดเวลา
เมื่อปี 2021 ที่ผ่านมา ได้มีการเปิดเผยถึงสาเหตุว่า ทำไมทั้งคู่ถึงได้พยายามในการปิดบังขนาดนี้ "ฉันพยายามมีสติสัมปชัญญะในการใช้ชีวิตเป็นอย่างมา เพื่อไม่ให้ดูเหมือนกับว่าเปิดเผยต่อสาธารณะมากเกินไป แต่ที่ตระหนักได้แน่ชัดคือการดูแลลูก ๆ ควรที่จะดูแลเพื่อให้เป็นเด็กได้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้" นั่นจึงเป็นสาเหตุที่ว่าถึงแม้ว่าจะโดนกระแสหรือคอมเมนต์ในเชิงลบมาเพียงไหน พวกเขาทั้งคู่ก็ยังคงยึดมั่นในวิถีของตน
เพราะบางครั้งคนที่เปลี่ยนจากบทบาทการเป็นลูก สลับขึ้นมาเป็นแม่ ทั้งที่ตนเองยังอยู่ท่ามกลางสปอตไลท์ รู้ตัวดีอยู่แล้วว่ามีข้อดี ข้อเสีย หรือโทษอย่างไรบ้าง และเกราะกำบัง กำแพงความแข็งแกร่งในใจไม่เท่ากัน การเปิดเผยหน้าตาของลูกน้อยจะเป็นเรื่องที่ดี หรือเป็นเรื่องที่แย่ ย่อมไม่มีใครคาดเดาได้ แต่สิ่งหนึ่งที่แม่คนดัวท่ามกลางสปอตไลท์มีเหมือนกันก็คือ หากเมื่อใดที่เรื่องของลูกหลุดออกไปสู่สาธารณชนโดยที่ไม่ได้ยินยอม การเตรียมตัววีนและเอาผิดคนที่ทำเรื่องแบบนั้น เป็นเหมือนกันหมดทั่วทุกมุมโลก
ที่มา : sheknows (sheknows.com) / The Atlantic (theatlantic.com)
