สิ่งสำคัญในการขับขี่อย่างปลอดภัยของรถยนต์ ก็คือ เรื่องของลมยาง การรักษาความดันลมยางให้ถูกต้อง การเติมลมยางต่ำกว่ามาตรฐานมีผลทำให้แก้มยางขยับตัวมากกว่าปกติ เกิดความร้อนสูงตามส่วนต่างๆ ภายใน จนเกิดความเสียหายไม่สามารถซ่อมแซมได้และทำให้ยางชำรุดในที่สุด ความเสียหายที่เกิดจากการเติมลมยางต่ำกว่ามาตรฐาน อาจไม่เกิดขึ้นในทันทีทันใด แต่อาจเกิดขึ้นเมื่อใช้รถไประยะหนึ่งแล้ว ถึงแม้จะหันกลับไปใช้ความดันลมยางที่ถูกต้องก็ตาม หากเติมลมยางถูกต้องอาจจะเป็นการช่วยประหยัดน้ำมันลงได้อีกด้วย
ค่ามาตรฐานคร่าวๆ ดูตามความเหมาะสม ไม่แข็งหรืออ่อนจนเกินไป คำนวณจากน้ำหนักบรรทุกเป็นเกณฑ์ และสติ๊กเกอร์ข้างรถเป็นหลัก ดังนี้
รถเก๋งขนาดเล็ก ค่าลมยางอยู่ที่ 30-32 PSI (ปอนด์/ตารางนิ้ว)
รถเก๋งมาตรฐาน ค่าลมยางอยู่ที่ 32-35 PSI (ปอนด์/ตารางนิ้ว)
รถเก๋งขนาดกลางถึงใหญ่ ค่าลมยางอยู่ที่ 30-35 PSI (ปอนด์/ตารางนิ้ว)
รถเอสยูวี พีพีวี รถอเนกประสงค์ ค่าลมยางอยู่ที่ 30-35 PSI ขนสัมภาระ 35-40 PSI (ปอนด์/ตารางนิ้ว)
รถรถกระบะ ค่าลมยางอยู่ที่ 35-40 PSI (ปอนด์/ตารางนิ้ว) ขนสัมภาระ 40-50 PSI (ปอนด์/ตารางนิ้ว)
รถตู้บรรทุก ค่าลมยางอยู่ที่ 40-55 PSI (ปอนด์/ตารางนิ้ว)
การเติมลมสูงกว่ามาตรฐาน เรียกว่า แข็ง หรือ ตึงเกินไป อาจทำให้ยางถูกกระแทกได้ง่าย และยังทำให้รถวิ่งสะเทือนกว่าปกติ การยึดเกาะถนนไม่ดีเท่าที่ควร หากไปเจอฝนระหว่างทาง ทำให้เบรกไม่อยู่ และลื่นไถลได้ง่าย หากตกหลุม ตกบ่อแรงๆ อาจะทำให้เกิดยางระเบิดได้
การเติมลมยางต่ำกว่ามาตรฐานนั้น แน่นอนว่าต้องมีข้อเสีย นอกจากออกตัวช้าแล้ว จะทำให้รู้สึกรับรู้ได้ถึงช่วงล่าง เหยียบคันเร่งไม่ขึ้น เหมือนจะมีความนุ่มนวลแต่ไม่ใช่ เรียกว่า ย้วย ยวบยาบมากกว่า ซึ่งส่งผลเสียอย่างมากต่อยาง ยิ่งลมยางอ่อนมากขณะเดินทาง อาจะทำเกิดความร้อนขึ้นแก้มยางบิดตัว อันตรายยิ่งกว่านั้นถึงขั้นยางระเบิดได้ทีเดียว
ห้ามปล่อยลมยางเวลายางร้อน ควรใช้เครื่องมือวัดความดันสมมาตรฐาน เติมลมปริมาณที่ระบุในคู่มือรถหรือป้ายบริเวณข้างประตูด้านคนขับ การเติมลมสูงหรือต่ำกว่ามาตรฐานทำให้การบังคับขับขี่เปลี่ยนแปลงไปด้วย ไม่ควรเติมลมเกินกว่าที่สติ๊กเกอร์รถยนต์ระบุไว้
ควรตรวจสอบความดันลมยางรวมทั้งยางอะไหล่อย่างสม่ำเสมออย่างน้อยเดือนละครั้ง โดยเฉพาะก่อนการเดินทางไกล ควรให้ยางเย็นตัวลงขณะตรวจ (หลังจากเลิกใช้รถแล้วไม่น้อยกว่า 3 ชั่วโมง หรือวิ่งมาไม่เกิน 2 กิโลเมตร)
หากจะเติมให้พอดีเรียกว่า เป๊ะปัง ควรเติมลมยางตามที่รถยนต์ระบุไว้ จะเป็นสติ๊กเกอร์ด้านข้างของประตูฝั่งผู้ขับขี่แสดงถึงแรงดันลมยางตามมาตรฐานของรถยนต์คันนั้นๆ ติดไว้
ลมยางไนโตรเจน คือ ลมที่ประกอบไปด้วยไนโตรเจนกว่า 93% การเติมลมยางไนโตรเจนทำให้ยางมีการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิน้อยลง การขยายตัวของยางก็น้อยลงเช่นกัน ทำให้โอกาสในการเกิดยางระเบิดน้อย ขับขี่ได้นุ่มนวลกว่าลมยางธรรมดา เพราะแรงดันนั้นคงที่ ประหยัดน้ำมัน ยืดอายุการใช้งานของยาง เกาะถนน เหมาะกับทุกสภาพอากาศ แต่มีจุดเติมน้อย และหากใช้ร่วมกับลมยางธรรมดาก็ไม่ก่อให้เกิดประสิทธิภาพ เรียกว่า กลายเป็นลมธรรมดาไปเลย หากใครที่สนใจจะเติมลมยางชนิดนี้ แนะนำให้เอาลมธรรมดาออกเสียก่อนจะเติม มีราคาค่าเติมอยู่ที่ประมาณ 100 บาท