Segment รถยนต์ เป็นการแบ่งแยกประเภทของรถ เพื่อให้สามารถเข้าใจได้ง่ายยิ่งขึ้น เนื่องจากขนาดของรถยนต์แต่ละประเภทนั้นแตกต่างกัน มาดูกันว่ามีความแตกต่างกันอย่างไร เราซอยยิบย่อยมาให้เข้าใจกันง่ายๆ ดังนี้
A-Segment หรือ Mini Car, Eco Car กำลังเครื่องยนต์น้อยที่สุด การจัดกลุ่ม Segment นี้อาจมีรถอีโค่คาร์ (Eco Car) ที่ตามกำหนดประเภทรถยนต์โดยคณะกรรมาธิการยุโรป (European Commission) กำหนดให้รถอีโค่คาร์ อยู่ใน Segment รถประเภท A Segment Car อ้างอิงตามขนาดตัวรถและขนาดความจุเครื่องยนต์เป็นตัวกำหนด โดยต้องมีขนาดเครื่องยนต์ระหว่าง 660 -1,000 ซีซี หรือ ขนาดต่ำกว่า 1,300 ซีซีลงไป รวมถึงต้องเหมาะกับการขับขี่ใช้งานในภายเมือง หรือรถ City Car รวมอยุ่ด้วย เนื่องจากขนาดของรถยต์ก็จะเล็กกระทัดรัดเด่นเรื่องการประหยัดน้ำมัน เช่น Honda Brio, Mitsubishi Mirage, Nissan March, Suzuki Celerio
B-Segment, Sub Compact เครื่องยนต์เพิ่มขึ้นมาอีกระดับ อยู่ที่ขนาด 1,500 ซีซี ไม่เกินนี้ ตัวรถใหญ่กว่าและภายในกว้างขวางกว่ารถยนต์ประเภท A Segment ซึ่งจะมีรถยนต์ Eco Car ที่มีขนาดเครื่องยนต์ประมาณ 1,200 ซีซี และรถยนต์ที่มีขนาดเครื่องยนต์มากกว่า 1,200 ซีซี แต่ไม่เกิน 1,500 ซีซี รวมอยู่ด้วย โดยส่วนใหญ่จะเรียกรถประเภทนี้ว่า City Car เช่น Honda City, Toyota Vios, Mazda2
C-Segment, Compact Car เครื่องยนต์ 1,600-2,000 ซีซี รถประเภทนี้ก็จะมีตัวถังที่ใหญ่กว่า B-Segment เป็นรถที่ครอบครัวนั่งได้กำลังพอดี ขนาดไม่เล็กและไม่ใหญ่จนเกินไป เป็นรถจะมีราคาที่สามารถจับต้องได้ด้วยระดับราคาล้านต้นๆ ขับไปได้ทุกที่ มีขนาดความยาวของรถประมาณ 4.4-4.75 เมตร รถยนต์ประเภทนี้เหมาะกับผู้โดยสาร 4 คนกำลังพอดี เช่น Toyota Corolla Altis, Honda Civic, Mazda3
D-Segment, MidSize เครื่องยนต์จะอยู่ที่ 2,200 ซีซี ขึ้นไป ภายในกว้างขวางและมีการใช้วัสดุตกแต่งที่หรูหรามากขึ้น เป็นรถประเภทรถยนต์ 4 ที่นั่ง ขนาดตัวรถยาวตั้งแต่ 4,500 มม. ขึ้นไป ทันสมัยแบบจัดเต็มด้วยฟังก์ชันและเทคโนโลยีต่างๆ สร้างความสะดวกสบายให้กับผู้ใช้งาน อีกทั้งยังมีสมรรถนะการขับขี่ที่ดี ทำให้ใช้งานได้แทบทุกสภาพการขับขี่บนท้องถนน แน่นอนว่ารถ D Segment จะมีความเหนือกว่ารถยนต์ A - C Segment ด้วยราคาที่แพงกว่าเช่นเดียวกัน เช่น Toyota Camry, Honda Accord, Mazda6
E Segment เป็นกลุ่มรถยนต์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุด มาพร้อมเทคโนโลยีที่อัดแน่น พละกำลังเครื่องยนต์แรง ในต่างประเทศเรียกว่า Full Size Car ซึ่งรถประเภทนี้จะเป็นที่นิยมอย่างมากในทวีป อเมริกา แต่เนื่องจากเป็นรถที่มีขนาดใหญ่ จึงทำให้รถยนต์ประเภท E- Segment นั้นมีราคาค่อนข้างสูง แต่ถ้าเทียบราคากับความหรูหราที่ให้มาก็เหมาะสม และรถยนต์ประเภท Full Size Car หรือ E- Segment นั้นโลดเล่นอยู่ในตลาดประเทศไทยสำหรับคนกระเป๋าหนักเท่านั้น เพราะราคาค่าตัวแรงพอสมควร เช่น Mercedes-Benz E-Class, BMW Series 5, Audi A6
Compact SUV, Crossover SUV ให้ทัศนวิศัยในการขับขี่ที่ดี เพราะตัวรถมีการยกสูงขึ้น มีความคล่องตัว แต่ก็ใช่ว่าจะลุยแบบสมบุกสมบันเท่ารถกับพวกรุ่นพี่อย่าง SUV ได้ รถยนต์ Crossover มักจะเป็นระบบขับเคลื่อน 2 ล้อ แต่มีเป็นบางรุ่น ที่เพิ่มระบบขับ 4 มาด้วย ใช้ในการเดินทางทั่วไป ที่ไม่ใช่ลุยหนักหนาถนนที่สาหัส เหมาะสำหรับรถครอบครัวในเมือง เช่น Toyota Corolla Cross, Nissan Kicks, Subaru XV, Honda HR-V, Mazda CX-30
Hatchback เป็นรถยนต์ที่มีความแตกต่างตรงบริเวณช่วงท้ายรถ ที่มีลักษณะตัดลาดลง มีให้เลือกทั้งแบบ 3 ประตูและ 5 ประตู นับจากประตูคนขับ คนนั่ง และฝากระโปรงหลังนับเป็นอีก 1 ประตู ด้านท้ายรถยังมีพื้นที่ให้บรรทุกสัมภาระเพิ่มเติมได้มากมาย สามารถพับเบาะแถวสองของรถได่ เพื่อช่วยในการเพิ่มพื้นที่ให้กว้างขึ้น ปรับแต่งการใช้งานได้หลากหลายรูปแบบ เช่น Honda City Hatchback, Mazda 2 Hatchback, Mazda 3 Fastback, Toyota Yaris Hatchback
MPV, Minivan รถ MPV หรือรถอเนกประสงค์ 7 ที่นั่ง ย่อมากจากคำว่า Multi Purpose Van จัดเป็นรถเอนกประสงค์ประเภทหนึ่งที่ออกแบบมารองรับผู้โดยสารได้จำนวนมาก โดยส่วนใหญ่แล้วรถ MPV จะสามารถนั่งได้ประมาณ 5-7 คน และยังมีพื้นที่พอสำหรับบรรทุกสัมภาระขนาดใหญ่ ถ้าจะมองว่ารถ MPV ก็คือมินิแวนที่เหมาะสำหรับครอบครัวที่มีสมาชิกหลายคนก็ไม่ผิดเลย เช่น Mitsubishi Xpander, Toyota Veloz, Toyota Sienta, Suzuki Ertiga, Suzuki XL7, Honda BR-V
Pick UP รถกระบะ หรือที่บางคนเรียกติดปากว่าปิกอัพ เป็นรถที่ออกแบบมาเพื่อรองรับงานบรรทุก หรือขนของต่างๆ ใช้งานสมบุกสมบัน มีทั้งแบบ 4 ประตู มีแคป และแบบหัวเดี่ยว ตัวถังให้เลือกทั้งแบบสูง เตี้ย มีพื้นที่โล่งด้านกระบะด้านท้ายไว้รองขนสัมภาระได้เป็นอย่างมาก และไม่มีหลังคา ส่วนใหญ่นิยมนำไปติด หรือดัดแปลง เช่น ประเภทหัวเดี่ยว นิยมนำไปบรรทุก ขนสัมภาระ และนำไปทำรถสาธารณะอย่างรถสองแถว เช่น Isuzu D-Max, Toyota Hilux Revo, Mazda BT-50, Nissan Navara, MG Extender, Ford Ranger, Mitsubishi Triton
PPV ย่อมาจากคำว่า Pick-Up Passenger Vehicle รถยนต์กระบะดัดแปลงให้คล้ายกับแนวเอสยูวี ใช้พื้นฐานของรถกระบะ นำมาปรับปรุงใหม่ รถ PPV เป็นการนำเอารถกระบะรุ่นที่มีทั้งขับระบบขับเคลื่อน 2 ล้อและ 4 ล้อ หรือรุ่นยกสูงมาดัดแปลงให้กลายเป็นรถยนต์โดยสารแบบครอบครัว จุดเด่นของรถประเภทนี้อยู่ที่ พื้นที่ภายในห้องโดยสารนั้นสามารถรองรับได้สูงสุด 7 ที่นั่ง ปรับที่นั่งดัดแปลงให้ขนสัมภาระได้มาก เช่น Isuzu MU-X, Ford Everest, Mitsubishi Pajero Sport, Toyota Fortuner, Nissan Terra
SUV รถยอดฮิตในปัจจุบัน รถยนต์อเนกประสงค์ครอบคลุมทุกการใช้งาน การโดยสาร ขนของ หรือเดินทางไกล ด้วยรูปร่างของตัวรถที่มีขนาดใหญ่ กว้าง สูง มีสมรรถนะและกำลังเครื่องยนต์ที่แรงกว่ารถยนต์ทั่วไป ซึ่งเป็นรถที่มีคุณสมบัติครอบคลุมทุกการใช้งาน สะดวกใช้ในการเดินทาง นั่งสบาย ไม่เมื่อยล้า ด้วยรูปร่างสวยงาม ห้องโดยสารมีพื้นที่กว้างขวาง ฟังก์ชันครบ และตัวรถยกสูงกว่ารถยนต์ทั่วไป ให้ทัศนวิสัยในการขับขี่ดี และยังสามารถขับขี่ไปในพื้นที่ ที่ลุยได้ เช่นพื้นที่ขุรขะ มีช่วงล่างที่นุ่มนวล เช่น Mazda CX-5, Honda CR-V, Volvo XC40, Subaru Forester
VAN รถตู้ สำหรับรถประเภทนี้จะมีจุดเด่นที่หลังคาสูงใหญ่ ให้ความสะดวกสบายในการโดยสาร มาพร้อมกับประตูสไลด์ทำให้ง่ายต่อการเข้า – ออก ภายในห้องโดยสารยังสามารถปรับเบาะได้ และตัวรถยังมีการยกสูงด้วย ทำให้คล่องตัวต่อการเข้าออก เป็นรถที่ออกแบบมาเพื่อการรองรับผู้โดยสารจำนวนมาก อีกทั้งยังเหมาะกับเป็นรถครอบครัวด้วย ไปได้ด้วยกันหมดบ้านเลยทีเดียว เช่น Toyota Majesty, Hyundai Staria, KIA Carnival, Volkswagen Caravelle
Coupe, Cabrio เป็นรถยนต์ทรงสปอร์ตที่มีเพีบง 2 ประตูเท่านั้น ออกแบบหลังคาให้มีความลาดช่วงท้าย รถยนต์ประเภทนี้มีให้เลือกทั้งแบบ 2 ที่นั่งหรือ 4 ที่นั่งตามขนาดของตัวถัง โดยส่วนใหญ่แล้วเป็นรถแนวสปอร์ตที่สามารถเปิดประทุนรับลมได้ (Convertible) นอกจากนี้ยังมีบางรุ่นที่สามารถถอดหลังคายกออกได้ด้วย เช่น BMW Z4, Audi TT, MAZDA MX-5, Porsche 718
Supercar, Hypercar รถยนต์ประเภทนี้หลายๆ คนรู้จักกันเป็นอย่างดี จะเป็นรถทรงสปอร์ตที่เน้นในเรื่องของสมรรถนะแบบเต็มๆ และจะมีเครื่องยนต์ขนาด 6 สูบขึ้นไป ส่วน Hypercar มีพละกำลังและสมรรถนะสูง โดยจะมีแรงม้าของรถเกิน 700 - 800 แรงม้า แต่ก็จะมีบางรุ่นที่มีแรงม้าถึง 1,000 แรงม้าไปเลยมี สามารถทำความเร็วได้ถึง 400 กม./ชม. อีกด้วย เรียกว่ามือไม่ถึง ตังไม่มีอย่าขับเลยจะดีกว่า เช่น Lamborghini Huracan, Porsche 911, Koenigsegg Agera RS, Bugatti Chiron Super Sport