Mazda มาสด้า ปรับนโยบายบริการหลังการขายครั้งใหญ่ เพื่อมอบความพึงพอใจสูงสุดให้กับลูกค้า Mazda Family โดยได้ปรับอัตราค่าแรงมาตรฐานใหม่ทั่วประเทศเป็น 600 บาทต่อชั่วโมง สำหรับโชว์รูมในต่างจังหวัด และ 680 บาทต่อชั่วโมง สำหรับกรุงเทพฯ และปริมณฑล เพื่อให้ลูกค้าทั่วประเทศได้รับความมั่นใจในค่าใช้จ่ายที่โปร่งใสและเป็นธรรมเมื่อนำรถเข้ารับบริการ
มาสด้ายังเปิดตัวโปรแกรมพิเศษ Mazda Warranty Plus เพื่อขยายการรับประกันคุณภาพอะไหล่จาก 3 ปี เป็น 5 ปี หรือ 150,000 กิโลเมตร (แล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน) โดยครอบคลุมอะไหล่สำคัญ เช่น เครื่องยนต์ท่อนตรง เกียร์อัตโนมัติและเกียร์ธรรมดา เทอร์โบชาร์จเจอร์ และคาปาซิเตอร์ สำหรับรถยนต์ที่มีอายุไม่เกิน 5 ปี และต้องมีประวัติการเช็กระยะตามกำหนดอย่างสม่ำเสมอทุก 6 เดือน หรือทุก 10,000 กิโลเมตร
นายศราวุฒิ บรรยงค์กุล ผู้อำนวยการฝ่ายบริการลูกค้า บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า มาสด้ามุ่งมั่นในการส่งมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับลูกค้า โดยในปีงบประมาณ 2568 จะขับเคลื่อนงานบริการหลังการขายด้วยกลยุทธ์หลักที่เรียกว่า 4C ได้แก่ Credibility (ความน่าเชื่อถือ), Convenience (ความสะดวกสบาย), Customer Care (การดูแลเอาใจใส่) และ Cost of Ownership (การลดภาระค่าใช้จ่ายของลูกค้า) ซึ่งทั้งหมดพัฒนาขึ้นจากแนวทาง Customer-Centric ที่ยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลาง
เพื่อให้ทุกนโยบายเป็นจริง มาสด้าได้รวบรวมความคิดเห็นของลูกค้ามาปรับปรุงการให้บริการอย่างต่อเนื่อง ทั้งในด้านคุณภาพ อะไหล่ การซ่อมบำรุง และประสบการณ์ในศูนย์บริการ โดยลูกค้าสามารถตรวจสอบอัตราค่าแรงตามพื้นที่ และเงื่อนไขของโปรแกรม Mazda Warranty Plus ได้ที่เว็บไซต์มาสด้า หรือแพลตฟอร์ม Mazda Sky Journey (Line Official Account: @skyjourney) ซึ่งสามารถใช้จองคิวนัดหมายล่วงหน้าเข้ารับบริการได้อีกด้วย