Tencent รายได้ไตรมาสแรกเพิ่ม 11% อานิสงส์ยอดใช้จ่ายออนไลน์-เล่นเกมพุ่ง

Tencent กวาดรายได้ไตรมาสแรกกว่า 1.5 แสนล้านหยวน หรือราว 5.61 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 11% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า อานิสงส์การเปิดประเทศของจีนที่ทำให้มีการบริโภคและใช้จ่ายออนไลน์เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะรายได้จากธุรกิจเกม สะท้อนศักยภาพในการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีน 

คอนเทนต์แนะนำ

ที่สุดแห่งปี 2567 "พิธีสวนสนามและถวายสัตย์ปฏิญาณตนของทหารรักษาพระองค์"

ที่สุดแห่งปี 2567 ย้อนรอย 10 เหตุการณ์สำคัญด้านสิ่งแวดล้อมในประเทศไทย

ทีมชาติไทย ต่อเวลาเฉือน ฟิลิปปินส์ ทะลุป้องกันแชมป์อาเซียนคัพ2024

จากรายงานผลประกอบการของ Tencent พบรายได้ของธุรกิจหลักของ Tencent เพิ่มขึ้นทั้งหมด โดยบริษัทกวาดรายได้ไปทั้งหมด 1.5 แสนล้านหยวน เป็นกำไรจากการประกอบการ 4.84 หมื่นล้านหยวน หรือราว 2.36 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 32% จากปีก่อนหน้า โดยสามารถแบ่งได้เป็นรายได้จาก 4 ธุรกิจ ดังนี้

1. ธุรกิจภาคบริการ ซึ่งประกอบไปด้วย 

• โซเชียลเน็ตเวิร์ค เช่น WeChat และ QQ ทำรายได้ไปทั้งหมด 1.51 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 6% จากปีก่อนหน้า
• ธุรกิจเกมภายในประเทศ เช่น Fortnite และ League of Legends ทำรายได้ไปทั้งหมด 1.71 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 6% จากปีก่อนหน้า 
• ธุรกิจเกมนอกประเทศ เช่น PUBG และ Valorant ทำรายได้ไปทั้งหมด 6.4 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 25% จากปีก่อนหน้า

1. ธุรกิจโฆษณาออนไลน์ ทำรายได้ได้ทั้งหมด 1.02 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 17% จากปีก่อนหน้า
2. ธุรกิจเทคโนโลยีทางการเงินและบริการสำหรับธุรกิจ เช่น WeChat Pay และ Cloud ทำรายได้ทั้งหมด 2.38 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 14% จากปีก่อนหน้า 
3. ธุรกิจอื่นๆ ทำรายได้ไปทั้งหมด 4.9 พันล้านบาท ลดลง 50% จากปีก่อนหน้า 

Tencent รายงานว่าปัจจัยสำคัญที่ทำให้รายได้ในไตรมาสแรกเพิ่มขึ้นคือการเปิดประเทศของจีน ที่ทำให้ประชาชนออกมาจับจ่ายใช้สอย รวมไปถึงใช้บริการทางการเงินมากขึ้น โดยธุรกิจที่ทำรายได้ให้ Tencent มากที่สุดก็คือ ‘ธุรกิจเกม’ ทั้งภายในและภายนอกประเทศ 

ธุรกิจเกมฟื้น หลังรัฐบาลคลายความเข้มงวดในการควบคุมลง

ในช่วงปี 2021 รัฐบาลจีนได้เข้ามาควบคุมวงการเกมมากขึ้นด้วยการออกกฎหมายควบคุมเวลาเล่นเกมของผู้เล่นอายุต่ำกว่า 18 ปี รวมไปถึงเข้าไปตรวจสอบเนื้อหาของเกมอย่างเข้มงวดให้ไม่มีเนื้อเนื้อหาเกมที่ "สร้างความรุนแรง" หรือมีความ "ลามกอนาจาร" และลบระบบที่ชักจูงให้เด็กใช้เงินกับเกมเพื่อเพิ่มความสามารถของเกม เพราะมองว่าเป็นการมอมเมาเยาวชนให้ใช้เงินไปกับเรื่องที่ไม่สมควร

กฎเหล่านี้ทำให้บริษัทเกมของจีนประสบปัญหาเป็นอย่างมาก เพราะนอกจากจะทำให้ราคาหุ้นลดลงแล้ว การออกเกมใหม่ๆ หรือการทำการตลาดก็เป็นไปได้ยากลำบากมากขึ้นเพราะมีกฎเกณฑ์มากมาย

โดยจากการรายงานของ CNBC กฎเกณฑ์เหล่านี้ทำให้มูลค่าของ Tencent ลดลง 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 3.43 ล้านล้านบาท ไม่สามารถออกเกมใหม่ได้ และพบรายได้ลดลงจากการที่เยาวชนอายุต่ำกว่า 18 ปีซึ่งเป็นแหล่งรายได้ 0.7% ของรายได้ทั้งหมดของธุรกิจเกมภายในประเทศ ถูกจำกัดชั่วโมงการเล่นเกม 

อย่างไรก็ตาม รัฐบาลจีนก็มีท่าทีผ่อนปรนกับบริษัทเทคโนโลยี เช่น Alibaba, Tencent, Didi รวมไปถึงบริษัทเกมภายในประเทศมากขึ้นหลังเปิดประเทศเพราะมองว่าต้องเร่งกระตุ้นให้บริษัทเหล่านี้ช่วยในการฟื้นฟูเศรษฐกิจของจีนซึ่งซบเซาลงอย่างมากในช่วงที่รัฐบาลจีนมีการใช้นโยบาย Zero-Covid อย่างเข้มงวด

ท่าทีที่อ่อนลงนี้ทำให้รายได้จากธุรกิจเกมของ Tencent เพิ่มขึ้น รวมไปถึงธุรกิจเกมภายนอกประเทศที่เติบโตถึง 25% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า จากเกมดังมากมายที่อยู่ภายใต้การดูแลของ Tencent เช่น Valorant และ PUBG

นอกจากนี้ Tencent ยังประกาศอีกด้วยว่าทางบริษัทกำลังลงทุนเพื่อพัฒนา ‘ปัญญาประดิษฐ์’ หรือ AI ของตัวเอง และเชื่อว่าความสามารถของ AI จะช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้าและบริการของ Tencent ต่อไปในอนาคต 

ที่มา: CNBC, Tencent