กินให้ดีด้วยเทรนด์อาหารเพื่อสุขภาพต้อนรับปี 2025 โดย “แม็กซีน อินทิพร”

หากพูดถึงสายสุขภาพที่คอยสรรหาเคล็ดลับการดูแลสุขภาพออกมาเล่าเรื่องราว ตลอดจนการกินจนได้ชื่อว่าเป็นมิสผัก สามารถกินผักได้ทุกชนิดบนโลกใบนี้ สำหรับ แม็กซีน อินทิพร แต้มสุขิน อดีตนักแสดงที่ผันตัวมาเป็น Content Creator สายสุขภาพและไลฟ์สไตล์

อมรินทร์ออนไลน์ จับเข่าคุยกับแม็กซีน อินทิพร ว่าด้วยเรื่องกินอย่างไรให้สุขภาพดี และเทรนด์อาหารเพื่อสุขภาพต้อนรับปี 2025 ที่กำลังจะมาถึง พร้อมเมนูสุขภาพที่เจ้าตัวแนะนำถึงผู้อ่านทุกท่านที่กำลังได้อ่านบทความนี้ กินต้อนรับสุขภาพดีๆ เริ่มต้นปีใหม่ 2025 เพื่อให้ทุกคนมีสุขภาพดีไปด้วยกัน

3 เทรนด์อาหารเพื่อสุขภาพต้อนรับปี 2025

สำหรับเทรนด์อาหารเพื่อสุขภาพในปี 2025 นะคะ แม็กมองเห็น 3 เทรนด์ใหญ่ๆ ค่ะ เทรนด์แรกก็คือเทรนด์ของ "อาหารที่จะดูแลลำไส้" มันมีบทวิจัยว่าลำไส้คือสมองที่สอง 70% ของภูมิคุ้มกันอยู่ที่ลำไส้ หรือแม้กระทั่ง 90% ของสารที่เรียกว่า เซโรโทนิน (Serotonin) ที่ควบคุมเรื่องของอารมณ์ ความอยากอาหาร ควบคุมเกี่ยวกับการนอน 90% ถูกผลิตในลำไส้ ฉะนั้นกลับมามองสิ่งที่มันเบสิคที่สุด ก็คือพื้นฐานของการจะมีสุขภาพดีได้ เราต้องมีสุขภาพลำไส้ที่แข็งแรง อันนี้ก็เลยมองว่าเป็นเทรนด์ที่หนึ่ง

อธิบายอย่างนี้ก่อนค่ะว่า ในลำไส้ของเราเขามีทั้งไวรัส แบคทีเรีย เชื้อรา จุลินทรีย์ ซึ่งจุลินทรีย์ก็จะเป็นจุลินทรีย์ที่ดีกับจุลินทรีย์ไม่ดี ที่เขาเรียกว่าจุลินทรีย์ก่อโรค ฉะนั้นอันนี้ขอบอกก่อนนิดนึงว่าบางคนที่มีภาวะเชื้อราอาจจะไม่ได้กินผักหรือผลไม้ได้เหมือนกับคนที่จุลินทรีย์เสียสมดุล แต่ถ้าให้พูดโดยทั่วไปแล้วกันนะคะ เราควรพยายามที่จะกินอาหารให้หลากหลาย ผักผลไม้ให้หลากสี อย่างที่เขาบอกว่าให้กิน eat the rainbow หรือกินอาหารให้ครบสีตามสายรุ้ง แม็กมองว่าเป็นเรื่องสำคัญ แล้วเติมของหมักดองในทุกมื้อได้ก็จะดี อย่างการเติมโพรไบโอติกส์ในทุกมื้ออาหาร ไม่ว่าจะเป็นโยเกิร์ต , คีเฟอร์ , นัตโต๊ะ , กิมจิ , มิโซะ ของไทยเราก็มีถั่วเน่า กะปิ ต่างๆ เหล่านี้ก็เป็นการเติมโพรไบโอติกส์หรือจุลินทรีย์ดีให้กับลำไส้เรา

ส่วนเทรนด์ที่สองที่แม็กมองเห็นก็คือ เรื่องของความ "Personalize หรือความเฉพาะบุคคลมากขึ้น" ตอนที่เราโตมาเราก็จะอ่านจากบทความจากอินเทอร์เน็ตหรือศึกษามาว่า ต้องกินอาหารแบบนี้ สูตรนี้ๆ แต่สิ่งที่เราเรียนรู้และคนก็เริ่มเห็นอย่างชัดเจนก็คือ มันไม่มีสิ่งที่เรียกว่า One size fits all แต่ละคนมีความต้องการ ความไม่สมดุลที่ไม่เหมือนกัน ฉะนั้นสิ่งที่สำคัญคือ หนึ่งเรากลับมาฟังร่างกายตัวเอง และสองอาหารที่ดีสำหรับคนอื่น ไม่ใช่จะดีสำหรับเราเสมอไป เราเป็นหมอที่ดีที่สุดสำหรับตัวเอง คนที่รักษาและปรับสมดุลที่ดีที่สุดก็คือตัวเรา

ที่แม็กบอกว่าเราต้องฟังร่างกายตัวเองเนี่ย คือกินอาหารให้ครบรส เปรี้ยว หวาน เค็ม มัน ฝาด ฉุน ซึ่งอาหารที่มีความสมดุลด้วยตัวเขาเอง จะเป็นอาหารที่อยู่ตรงกลางมากที่สุดที่กินแล้วมีผลกระทบน้อยที่สุด สมมติบางคนบอกว่าเป็นคนที่ธาตุเย็น มือเท้าเย็นอยู่แล้ว ชอบมากเลยฟัก-กินแตง แต่ร่างกายเราเย็นอยู่แล้ว หรือให้กินผักสดอาจจะไม่เหมาะกับเขา แม็กก็เลยอยากแนะนำในเรื่องของรสที่ทำให้สร้างความสมดุลและมีความตรงกลาง เช่นสมมติ ข้าวยำหรือว่าแกงส้ม มื้อนี้มันจะมีความสมดุลของมันเอง ไม่ร้อนเกินไปไม่เย็นเกินไปแล้วทานได้ทุกคน

และเทรนด์ที่สามที่แม็กเห็นเกี่ยวกับอาหารสุขภาพสำหรับปีหน้า จะเป็นเรื่องของ "ความยั่งยืน" ที่มาเพิ่มขึ้น ไม่ใช่แค่กินอาหารที่ดีกับตัวเราเพื่อรักษาสมดุลแต่ว่าต้องดีกับโลกด้วย เพราะสุดท้ายการที่เราดูแลโลกเท่ากับว่าเราดูแลตัวเอง เพราะอาหารที่เรากินมันมาจากโลก แม็กเชื่อเสมอว่าอาหารที่มาจากภายในประเทศเราเหมาะที่สุดสำหรับเราฉะนั้นหนึ่งเป็นอาหารตามฤดูกาล จากเกษตรกรท้องถิ่น ก็เป็นหนึ่งในวิธีที่เราสามารถช่วยโลกของเราในเรื่อง ของการลดปริมาณรวมของก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และก๊าซเรือนกระจกอื่นๆ แล้วก็สนับสนุนคนไทย สนับสนุนผลิตภัณฑ์ไทยค่ะ

2025 เทรนด์อาหารเพื่อสุขภาพจะยิ่งโตขึ้น เพราะคนยังสนใจดูแลสุขภาพ

แน่นอนเลยค่ะ แม็กคิดว่ามันมาถึงจุดที่เรารู้อยู่แล้วว่าถ้าสมมุติวันนี้เรามีเงินหรือเราประสบความสำเร็จมาก ความมั่งคั่งที่มันไม่มีสุขภาพที่ดี มันไม่มีประโยชน์เลยถูกไหมคะ ก็เริ่มมีการรับรู้กันมากขึ้นแล้ว แม็กคิดว่าด้วยเทคโนโลยีการส่งเสริมและสนับสนุนให้คนเข้าถึงการดูแลสุขภาพได้มากขึ้น ฉะนั้นมันจะยิ่งเติบโตขึ้นเรื่อยๆ เมื่อเช้าเพิ่งอ่านบทความอยู่เหมือนกันค่ะว่าปีหน้าเขามองว่าธุรกิจอาหารจะโต 63% เพราะฉะนั้นเราจะเห็นว่าเทรนด์สุขภาพมาแรงแน่นอน ยังคงมาแรงอยู่และสองคนจะเลือกรักษาสุขภาพด้วยอาหารนะคะ

ทริคการกินอาหารเพื่อให้ได้สุขภาพดี

เรากินอาหารปกติทั่วไปเลย ไม่ได้อยากจะใช้คำจำกัดว่าเป็นอาหารคลีน เพราะเวลาใครพูดถึงอาหารคลีน คำแรกที่มันจะเด้งขึ้นมาในหัวคือ ไม่อร่อย กินยาก ฝืดคอ ถูกไหมคะ ฉะนั้นเราอาจจะต้องปรับการรับรู้นิดหนึ่งว่า อาหารที่ดีต่อสุขภาพไม่จำเป็นต้องเป็นอาหารคลีน แต่เราจะมีวิธีการปรับการกินยังไง

หนึ่งเลยแม็กว่าลำดับการกินค่อนข้างสำคัญ อยากให้มีไฟเบอร์หรือผักในทุกมื้ออาหาร เริ่มต้นมื้อด้วยผัก ตามด้วยโปรตีนกับไขมัน ต่อไปค่อยเป็นประเภทคาร์โบไฮเดรตซึ่งก็คือน้ำตาล ที่แม็กแนะนำการกินไฟเบอร์ก่อน เพราะไฟเบอร์เป็นสิ่งที่ย่อยง่าย จะทำให้ร่างกายย่อยอาหารได้ดีขึ้น การดูดซึมดีขึ้นขับถ่ายก็ดีขึ้น

ทริคที่สองง่ายๆ สำหรับสาวๆ ที่ชอบกินขนมหวาน อันนี้แม็กแนะนำว่าให้ทานน้ำส้มสายชูแบบหมัก ไม่ใช่ที่ผ่านการกลั่นนะคะ ของเมืองนอกใช้แอปเปิ้ลไซเดอร์ แต่ของเมืองไทยเรามีน้ำส้มสายชูหมักเยอะแยะมากมายเลย ไม่ว่าจะจาก มังคุด แก้ว มังกร กล้วย มะพร้าว มีให้เลือกเยอะแยะมาก หนึ่งช้อนโต๊ะกับน้ำประมาณครึ่งแก้ว ดื่มก่อนที่จะทานของที่เป็นแป้งหรือว่าน้ำตาลซัก 15 นาที ก็จะช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้ดี ยกเว้นในกรณีใครที่เป็นมีภาวะเรื่องของเชื้อราในลำไส้หรือว่าเป็นโรคกรดไหลย้อน วิธีนี้ไม่แนะนำนะคะ คิดว่าสองทริคนี้น่าจะนำไปใช้ได้

อย่างที่สามคือถ้าเราเป็นคนที่ชอบทานน้ำตาล มีความโหยหาน้ำหวานๆ การทานโปรตีนให้เพียงพอหรือทดแทนมื้ออาหารตอนบ่ายด้วยอะไรที่มีความเป็นโปรตีนก็จะทำให้เราลดการอยากกินจุกจิกไปค่ะ

ลดน้ำตาล..ดีกับสุขภาพโดยเฉพาะสาวๆ

แม็กว่าเป็นการสร้างความตระหนักมากกว่า เพราะจริงๆ แล้ว ทุกวันนี้ไม่ว่าเราจะกินอะไร เราไปซื้อของซื้อเครื่องดื่มในซุปเปอร์ พวกเครื่องดื่มมีปริมาณน้ำตาลแฝงเยอะมากๆ เลย อันนี้แม็กมองว่ามันเป็นการตระหนักรู้นิดหนึ่ง เพราะว่าน้ำตาลเป็นสิ่งที่ร่างกายเขาชอบอยู่แล้ว เพราะมันคือพลังงานที่เอาไปใช้ได้เลย

อาหารที่อย่างที่แม็กบอกไปว่าในลำไส้เรามีจุลินทรีย์ดีกับจุลินทรีย์ก่อโรคใช่ไหมคะ อาหารที่มีน้ำตาลสูงก็เท่ากับว่าเราไปป้อนหรือให้อาหารกับจุลินทรีย์ก่อโรค มันก็ทำให้มีผลกระทบค่อนข้างเยอะ หแล้วมันมีหลายผลวิจัยเลยที่บอกว่าการที่เรากินน้ำตาลเยอะ หรือว่าเรามีภาวะน้ำตาลสวิงหรือน้ำตาลในเลือดที่พุ่งสูง มันทำให้มีปัญหาเรื่องของไม่สดใส ตื่นมาไม่สดใส เรื่องริ้วรอย หรือว่านอนหลับไม่ดี แต่ด้วยอุตสาหกรรมทั่วไปในทุกวันนี้ มันก็มีสิ่งที่มีน้ำตาลเยอะก็อาจจะขอให้ช่วยอ่านฉลากข้างหลังแล้วก็มีความตระหนักไว้อยู่หลังหัวเวลาจะซื้ออะไร ก็จะดีต่อร่างกายค่ะ

อย่างตัวแม็กเองเคยลองทำชาเลนจ์ไม่ทานน้ำตาลแบบ 7 วัน สำหรับแม็กรู้สึกว่าหนึ่งคือรูปร่างดี ขึ้นสำหรับบางคนพยายามลดน้ำหนัก น้ำตาลก็จะเป็นหนึ่งในวิธีที่จะทำให้กระบวนการลดมันเห็นผลเร็วขึ้น บวกกับการกินอาหารให้ครบหมวดหมู่ โปรตีนเพียงพอบวกกับการออกกำลังกาย แล้วก็อย่างที่บอกมันไม่หงุดหงิดค่ะ ถ้าเราเจอผู้หญิงที่ชอบกินชานมไข่มุกทุกวัน เขาหยุดกินหนึ่งวันเขาจะบอกว่าน้ำตาลตก ไม่ไหวแล้ว จะเป็นลม ปวดหัวมึนหัว เป็นไมเกรน ฉะนั้นถ้าสามารถลดได้โดยที่ไม่มีเอฟเฟกต์ อาการเหล่านี้ก็จะค่อยๆ ดีขึ้นค่ะ

โภชนาการที่ยั่งยืน เริ่มต้นที่การฟังร่างกายตัวเอง

โภชนาการที่ยั่งยืนสำหรับแม็กคือการฟังร่างกายตัวเองค่ะ อย่างที่บอกมันไม่มี one size fits all เพราะฉะนั้นโภชนาการที่ที่สุดคือโภชนาการที่เราลอง ทดลองแล้ว สังเกตร่างกายตัวเอง นี่คือความยั่งยืนที่สุดเลย แล้วมันจะทำให้ไม่ท้อค่ะว่าฉันต้องกินอะไร ฉันต้องตามเทรนด์ เทรนด์โน้นบอกว่าดีเทรนด์อันนี้บอกว่าอะไร เทรนด์เดียวที่เราต้องตามคือเทรนด์ตัวเอง ให้เหมาะกับตัวเอง ฟังร่างกายตัวเอง เราอาจจะกินสิ่งนี้แล้วดีกับเรา แต่ไม่เหมาะกับคนอื่น สมมติเขาบอกว่าโยเกิร์ตกินแล้วดีมาก แต่เรากินแล้วมีสิวขึ้น หรือเราพูดไม่ได้เลยว่าบางทีบางภาวะที่เขาบอกว่ากินผักเยอะๆ แล้วดี แต่บางคนก็เป็นโรคบางโรคที่กินผักเยอะไม่ได้ ฉะนั้นแม็กถึงบอกว่าอะไรที่มันยั่งยืนสุดคือเรากินแล้วเรารู้สึกดี เท่านั้นเอง สิ่งที่ยั่งยืนคืออะไรที่เราทำแล้วทำตลอดไป ไม่ใช่ว่าเรากินอาหารที่ผัดโดยน้ำอย่างเดียวแล้วมันไม่มีความสุข การกินอาหารมันต้องมีความสุข ดังนั้นโภชนาการที่ยังยืนคือโภชนาการที่ทำให้เรารู้สึกดีกับตัวเองและเรามีความสุขค่ะ

แนะนำเมนูเพื่อสุขภาพต้อนรับปี 2025

แม็กอยากจะแนะนำเมนูเมี่ยงค่ะ เพราะอาจจะมีหลายคนที่ไม่ได้ถนัดการกินผักมาก หรือว่ากำลังเริ่มต้นกินผัก เมี่ยงเป็นการเปิดโอกาสที่ดีสำหรับคนอยากเริ่ม เพื่อที่จะเอาผักที่ตัวเองอาจจะคุ้นเคยอยู่แล้วมาผสมกับสมุนไพรหลายๆ อย่างที่เราอาจจะอยากลอง ใส่โปรตีนที่ชอบ มีน้ำราดที่รสชาติอร่อย ก็จะทำให้การกินผักและการสุขภาพดีง่ายขึ้น ก็เป็นการเข้าไปสู่การมีสุขภาพดีในปี 2025 ได้ง่ายขึ้น

และอีกอย่างคือโดยธรรมชาติของเมี่ยง เป็นอีกหนึ่งเมนูที่มีความครบรสนะคะ สมุนไพรที่ใส่ก็จะมีความฉุนความฝาด เปรี้ยว หวาน เค็ม ขม พอมันครบรสมันก็จะทำให้เรารู้สึกไม่โหยหาอย่างอื่น หลังจากที่เรากินมื้ออาหารที่สมบูรณ์แบบนี้ จึงคิดว่าเมี่ยงน่าจะเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับใครที่อยากเริ่มต้นมีสุขภาพดีในปีใหม่ 2025 ด้วยเมนูอาหารง่ายๆ ค่ะ