ทำไมคุณถึงต้องการครีมกันแดดในฤดูหนาว ? จากผลการศึกษาล่าสุดที่ตีพิมพ์โดย สถาบันสุขภาพแห่งชาติ และบทความของแพทย์หลายแหล่งอ้างอิง มีคำตอบให้แล้ว พร้อมวิธีเลือกครีมกันแดดให้เหมาะสมกับหน้าหนาว
จากผลการศึกษาล่าสุดที่ตีพิมพ์โดย สถาบันสุขภาพแห่งชาติ จากเว็บไซต์หอสมุดแพทย์แห่งชาติอเมริกัน พบว่ามีเพียงประมาณ 13.5% ของชาวอเมริกันที่ทาครีมกันแดดเป็นประจำทุกวัน อย่างไรก็ตาม ดวงอาทิตย์ก่อให้เกิดรังสี UV ที่เป็นอันตรายตลอดทั้งปี แม้ในวันที่มีเมฆมากและในช่วงฤดูหนาวก็ตาม
เพิ่มริ้วรอยก่อนวัย
แม้ว่ารังสีดวงอาทิตย์อาจไม่รุนแรงต่อผิวของคุณในช่วงอากาศหนาวเย็น แต่รังสีอัลตราไวโอเลต (UV) ยังคงทำร้ายผิวของคุณและทำให้เกิดความเสียหายและริ้วรอยก่อนวัย
เพิ่มความเสี่ยงของโรคมะเร็งผิวหนัง
การไม่ทาครีมกันแดดในฤดูหนาวจะเพิ่มความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งผิวหนัง รังสียูวีเป็นอันตรายเนื่องจากชั้นโอโซนมีความบางที่สุด การศึกษาบางชิ้นแสดงให้เห็นว่า สภาวะที่มีเมฆมากอาจขยายรังสี UV ที่เป็นอันตรายเมื่อรังสีดวงอาทิตย์สะท้อนอยู่ในเมฆ
วิธีเลือกครีมกันแดดให้เหมาะกับหน้าหนาว
Innovative Dermatology เว็บไซต์ที่ก่อตั้งขึ้นในปี 2554 โดยแพทย์ผิวหนังที่ผ่านการรับรองจากคณะกรรมการที่ได้รับการยกย่องในระดับสากล นพ. Seemal R. Desai, MD, FAAD เผยว่า
ไม่ว่าสีผิวจะเป็นอย่างไร สิ่งสำคัญคือต้องใช้ครีมกันแดดในวงกว้างที่ป้องกันรังสี UVA และ UVB พร้อมค่า SPF 30 ขั้นต่ำในการปกป้อง ซึ่งปิดกั้นแสงแดดได้ 97 เปอร์เซ็นต์ แต่หากคุณต้องทำกิจกรรมนอกอาคาร คุณอาจต้องใช้ครีมกันแดดที่กันน้ำและกันเหงื่อ ที่มีค่า SPF 50
ซึ่งตรงกับบทความของ นพ. ไพศิษฐ์ ตระกูลก้องสมุท โรงพยาบาลสมติเวช ที่เผยว่า แม้หน้าหนาวก็ควรทาครีมกันแดดเพื่อป้องกันแดดที่อาจก่อให้เกิดอนุมูลอิสระหรือการอักเสบของผิวหนัง ควรมีค่าการปกป้องทั้งรังสี UVA และ UVB
โดย SPF ควรเลือกที่มากกว่า 30 (ปัจจุบัน มีถึง SPF 50) ส่วน PA ที่แสดงค่าการปกป้องรังสี UVA นั้น ควรเลือกมากกว่า 3+ (ปัจจุบันมีมากสุด 4+) จึงจะให้ค่าการปกป้องที่มีประสิทธิภาพ / ในเครื่องสำอางที่มาจากฝั่งยุโรป จะใช้ PPD ระบุการปกป้องรังสียูวีเอ จึงควรเลือกที่ค่า PPD มากกว่า 8 ขึ้นไป
Advertisement