บุหรี่ไฟฟ้า ไอระเหยเล็กกว่า PM 2.5 พาสารอันตรายเข้าลึก ทำลายปอดหาย

บุหรี่ไฟฟ้า ไอระเหยเล็กกว่า PM 2.5 พาสารอันตรายเข้าลึก สาเหตุปอดหาย เปิดข้อมูลน่าตกใจ เด็กประถมเริ่มริลองเพราะคนในครอบครัวแนะนำ

สืบเนื่องจากข่าวสะเทือนสังคม เด็ก ป.6 อาการวิกฤต ปอดหายเกือบหมด ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ สาเหตุจากการสูบบุหรี่ไฟฟ้า - ดื่มน้ำท่อม ตั้งแต่ 10 ขวบ อึ้งซ้ำ ร้านจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าและน้ำท่อมขายอยู่หน้าโรงเรียนของเด็กนักเรียนที่ป่วยโคม่า โดยเปิดขายมา 2 ปีแล้ว แต่ครูไม่รู้

ปัญหาบุหรี่ไฟฟ้าในเด็กเยาวชน ข้อมูล ณ วันที่ 28 ก.พ. 2567 จาก สถาบันส่งเสริมสุขภาพไทย มูลนิธิสาธารณสุขแห่งชาติ เผยข้อมูลที่น่าตกใจเกี่ยวกับประเด็น บุหรี่ไฟฟ้า ในเด็กวัยประถม ดังนี้

สาเหตุที่เด็กประถม สูบบุหรี่ไฟฟ้า

- 60% เกิดจากความอยากรู้อยากลอง

- 20% รู้สึกว่าเท่และใช้ตามโซเชียลมีเดีย

- 15% ครอบครัวแนะนำให้สูบ

- เด็ก ป.4- ป.6 เคยลองบุหรี่ไฟฟ้า 43%

- สถานการณ์การสูบบุหรี่ของเด็ก อายุ 13-15 ปี ตั้งแต่ปี 2019-2022 เกือบ 1 ใน 5 ของเด็ก ม.ต้น ประเทศไทย สูบบุหรี่เพิ่มขึ้น 17.6%

- แหล่งที่มาของบุหรี่ไฟฟ้า เด็กประถมได้มาจากเพื่อน ครอบครัว และในชุมชน 73%

- นักเรียนหญิงมากกว่านักเรียนชาย

- เด็กเริ่มสูบตั้งแต่เริ่มเข้า ป.4

- ผลวิจัยจาก 44 ชิ้น สรุปว่าบุหรี่ไฟฟ้าไม่ช่วยเลิกบุหรี่ และบุหรี่ไฟฟ้าทำให้คนที่เลิกบุหรี่ไปแล้วกลับมาติดบุหรี่ใหม่เพิ่มขึ้น 5 เท่า

ในบุหรี่ไฟฟ้ามีอะไร ?

ผลการศึกษาวิจัยของมหาวิทยาลัยมินนิโซตา สหรัฐอเมริกา พบสารฟอร์มาลดีไฮด์ ซึ่งเป็นสารก่อมะเร็ง (Carcinogen) ในน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า โดยสารฟอร์มาลดีไฮด์สามารถแทรกซึมลึกเข้าสู่ระบบทางเดินหายใจ เพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคทางเดินหายใจเรื้อรัง เสี่ยงเกิดมะเร็ง รวมถึงเสี่ยงเกิดการระคายเคืองต่อดวงตาและผิวหนังได้

ข้อมูลจาก สสส. ระบุว่า ควันหอมๆจากบุหรี่ไฟฟ้าที่เราเห็นจริงๆแล้วไม่ใช่ควัน แต่มันคือ "ละอองฝอยของน้ำมันระเหย" ซึ่งมีขนาดอนุภาคที่เล็กเทียบเท่า หรือเล็กกว่า PM2.5 จึงสามารถนำพาสารเคมีอันตรายต่างๆ เข้าสู่ร่างกายได้ง่าย เร็ว ลึก ทำร้ายปอด และยังเดินทางต่อไปยังอวัยวะสำคัญอื่น ได้ในระยะเวลา 20 วินาที ปากและลำคอ: ทันที (0-1 วินาที) ปอด: 1-5 วินาที หัวใจและระบบหลอดเลือด: 10-30 วินาที สมอง: 10-20 วินาที

การสูบบุหรี่ไฟฟ้า แม้จะไม่มีควันที่เกิดจากการเผาไหม้เหมือนบุหรี่ธรรมดา แต่ยังคงมีสารเคมีที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพได้ โดยเฉพาะเมื่อสารนิโคตินและสารเคมีอื่นๆ ที่ใช้ในของเหลว (e-liquid) ถูกสูดดมเข้าไป

บุหรี่ไฟฟ้าทําให้เกิดโรคอะไรบ้าง

ปัญหาหัวใจและหลอดเลือด : นิโคตินเป็นสารที่สามารถเพิ่มอัตราการเต้นของหัวใจและความดันโลหิต ทำให้เพิ่มความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด เช่น โรคหลอดเลือดสมองหรือโรคหัวใจขาดเลือด

โรคปอดและทางเดินหายใจ : การสูบบุหรี่ไฟฟ้าอาจทำให้เกิดการระคายเคืองในทางเดินหายใจและเพิ่มความเสี่ยงในการเป็นโรคปอดต่างๆ เช่น โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง (COPD), โรคหลอดลมอักเสบ, และการระคายเคืองที่ปอด

การเสพติดนิโคติน : นิโคตินเป็นสารที่มีคุณสมบัติในการเสพติด ทำให้ผู้สูบบุหรี่ไฟฟ้าอาจเสี่ยงที่จะพัฒนาการเสพติดนิโคติน และทำให้ยากที่จะหยุดสูบได้

มะเร็ง : แม้ว่าในบุหรี่ไฟฟ้าจะไม่มีสารก่อมะเร็งจากการเผาไหม้เช่นในบุหรี่ธรรมดา แต่บางส่วนของสารเคมีในน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าก็อาจมีสารที่เป็นอันตรายและอาจกระตุ้นการเกิดมะเร็งในระยะยาวได้

ผลกระทบต่อสมอง : นิโคตินมีผลต่อการพัฒนาของสมอง โดยเฉพาะในวัยรุ่น ซึ่งอาจส่งผลให้มีปัญหาด้านความจำและการเรียนรู้ และเสี่ยงต่อการพัฒนาโรคทางจิตเวชในอนาคต

การระคายเคืองในช่องปากและฟัน : การสูบบุหรี่ไฟฟ้าอาจทำให้เกิดการระคายเคืองในช่องปาก เช่น แผลในปาก, เหงือกอักเสบ หรือโรคฟันผุ เนื่องจากสารเคมีที่อยู่ในน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า

ผลกระทบต่อระบบภูมิคุ้มกัน : สารเคมีบางชนิดที่ใช้ในบุหรี่ไฟฟ้าอาจมีผลต่อระบบภูมิคุ้มกันและทำให้ร่างกายเสี่ยงต่อการติดเชื้อต่างๆ

บุหรี่ไฟฟ้าผิดกฎหมายแต่เข้าถึงง่าย

ประเทศไทยมีกฎหมายห้ามการนำเข้าและการจำหน่าบุหรี่ไฟฟ้า ซึ่งเป็นมาตรฐานสำคัญในการควบคุมการใช้บุหรี่ไฟฟ้าในประเทศ โดยกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับบุหรี่ไฟฟ้าฉบับแรกคือ ประกาศกระทรวงพาณิชย์ เรื่อง กำหนดให้บารากู่และบารากู่ไฟฟ้า หรือ บุหรี่ไฟฟ้าเป็นสินค้าต้องห้ามในการนำเข้ามาในราชอาณาจักร พ.ศ.2557 ซึ่งกำหนดให้บุหรี่ไฟฟ้า รวมถึงน้ำยาและสารหรือสารสกัดที่ใช้เพื่อเป็นแหล่งกำเนิดควันหรือไอประกอบการสูบเป็นสินค้าต้องห้าม ในการนำเข้ามาในราชอาณาจักร อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบัน ยังคงพบว่ามีการลักลอบจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้า โดยเฉพาะช่องทางซื้อขายทางออนไลน์

พิษภัยของบุหรี่ไฟฟ้าเป็นสิ่งที่ภาครัฐฯ เอกชน สื่อมวลชน ร่วมกันรณรงค์มาอย่างต่อเนื่องเพื่อให้ประชาชน โดยเฉพาะเด็กและเยาวชนรู้เท่าทันและตระหนักถึงผลกระทบต่อสุขภาพ