เปิดจุดเริ่มต้นโรคปริศนาในคองโก เสียชีวิตใน 48 ชม.หลังจากเริ่มมีอาการ
คองโก เกิดโรคประหลาด ดับแล้ว 53 ราย ส่วนใหญ่ตายใน 48 ชั่วโมงหลังมีอาการ นักวิจัยติดตามไปจนเจอเหตุน่าสงสัย ต้นตอการระบาด
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
วันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2568 สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่าเกิด โรคปริศนาคร่าชีวิตผู้คนไปแล้ว 53 ราย ในภูมิภาคทางตะวันตกเฉียงเหนือ ของ สาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก ทั้งนี้การเสียชีวิตเกิดขึ้นภายใน 48 ชั่วโมงหลังจากเริ่มมีอาการ ตามรายงานจากองค์การอนามัยโลก (WHO) ซึ่งระบุว่า การระบาดนี้ถือเป็นภัยคุกคามด้านสาธารณสุขที่สำคัญ
ตั้งแต่เดือนมกราคมที่ผ่านมา มีรายงานผู้ป่วยที่มีอาการไข้ อาเจียน ท้องเสีย ปวดกล้ามเนื้อ ปวดหัว และอ่อนเพลีย รวมทั้งสิ้น 431 รายจาก WHO สำนักงานแอฟริกา โดยโรคนี้เชื่อว่าเริ่มระบาดในหมู่บ้านสองแห่งในจังหวัดเอคูอาตูร์ (Équateur) และมีอัตราการเสียชีวิตถึง 12.3% ตามรายงานจาก WHO
Washingtonpost รายงานว่า นักวิจัยติดตามต้นกำเนิดของการระบาดไปยังหมู่บ้านโบโลโก (Boloko) ซึ่งเด็ก 3 คนที่มีอายุต่ำกว่า 5 ปีเสียชีวิตหลังจากกินซากค้างคาว โดยเด็กทั้งสามมีอาการคล้ายกับ ไข้เลือดออกอาการรุนแรง เช่น เลือดออกจากจมูกและอาเจียนเป็นเลือด ก่อนจะเสียชีวิตระหว่างวันที่ 10 ถึง 13 มกราคม
หลังจากการเสียชีวิตของเด็กทั้งสาม มีเด็กอีก 4 คนในช่วงอายุ 5 ถึง 18 ปีจากหมู่บ้านเดียวกันเสียชีวิต โดยในวันที่ 27 มกราคม มีผู้ป่วยทั้งหมด 10 ราย และเสียชีวิต 7 รายจากโบโลโก และมีผู้ป่วยจากหมู่บ้านดานดา (Danda) อีก 2 รายและเสียชีวิต 1 ราย
ไม่นานหลังจากนั้น การระบาดครั้งที่สองของโรคปริศนานี้ได้เกิดขึ้นที่หมู่บ้านโบมาต (Bomate) โดยในช่วงกลางเดือนกุมภาพันธ์ นักวิจัยได้ระบุว่ามีผู้ป่วย 419 รายและมีผู้เสียชีวิต 45 รายจากที่นั่น
นักวิจัยได้ส่งตัวอย่างจากผู้ป่วยทั้งหมด 18 รายไปตรวจที่สถาบันวิจัยชีวการแพทย์แห่งชาติในเมืองกินชาซา (Kinshasa) ของคองโก และผลการตรวจทั้งหมดแสดงว่าไม่พบเชื้อของโรคไข้เลือดออกที่รู้จัก เช่น อีโบลาและมาร์บวร์ก และ "การทดสอบในห้องปฏิบัติการเพิ่มเติมเป็นสิ่งสำคัญเพื่อระบุสาเหตุของโรค" ตามรายงานของ WHO ซึ่งระบุว่าการระบาดทั้งสองอาจไม่ได้เชื่อมโยงกัน
เจ้าหน้าที่สาธารณสุขชี้ให้เห็นว่า การระบาดในพื้นที่ห่างไกลและโครงสร้างพื้นฐานด้านการดูแลสุขภาพที่อ่อนแอในประเทศ เพิ่มความเสี่ยงในการแพร่กระจายต่อไป ซึ่งต้องยกระดับสูงทันทีด้านสาธารณสุขเพื่อควบคุมการระบาดนี้
ในเดือนธันวาคมที่ผ่านมา โรคปริศนาซึ่งมีอาการคล้ายไข้หวัดได้คร่าชีวิตผู้คนหลายสิบคนในภูมิภาคทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศ และนักวิจัยได้สรุปว่าโรคนี้น่าจะเป็นการติดเชื้อทางเดินหายใจเฉียบพลันที่มีภาวะแทรกซ้อนจากมาลาเรีย ซึ่งมีอาการทวีความรุนแรงจากภาวะทุพโภชนาการรุนแรง (ภาวะทุพโภชนาการ คือ ภาวะที่ร่างกายที่บริโภคอาหารและได้รับสารอาหารไม่เหมาะสมทั้งปริมาณและความครบถ้วนของอาหาร)
ไมเคิล เฮด นักวิจัยอาวุโสด้านสุขภาพโลกจากมหาวิทยาลัยเซาแธมป์ตันในสหราชอาณาจักร กล่าวในอีเมลว่า การระบาดของโรคที่ไม่รู้จักหรือโรคที่ยังไม่สามารถระบุชื่อได้นั้น "จะเกิดขึ้นหลายครั้งทั่วโลก" "การเกิดโรคใหม่จริงๆ อย่างที่เราเห็นจากโควิด-19 นั้นหายากมาก" เฮดกล่าว "ส่วนใหญ่จะเป็นเชื้อโรคที่เรารู้จักกันดีแต่ยังไม่สามารถวินิจฉัยในกรณีการระบาดนี้"
แต่ "เฮด" ยังแสดงความกังวลเกี่ยวกับการระบาดล่าสุดในคองโก โดยเน้นถึงการที่โครงสร้างพื้นฐานด้านการดูแลสุขภาพในประเทศ "ทำให้การตอบสนองด้านสาธารณสุขเป็นเรื่องที่ซับซ้อนยิ่งขึ้น"
"โดยปกติแล้ว การระบาดเช่นนี้จะถูกควบคุมได้ในระยะเวลาที่รวดเร็ว" เขากล่าว "แต่ที่นี่มันน่ากังวลที่เรามีผู้ป่วยหลายร้อยรายและผู้เสียชีวิตกว่า 50 คน โดยมีอาการคล้ายไข้เลือดออกแพร่หลายในผู้ป่วย"
ในขณะที่เจ้าหน้าที่สาธารณสุขกำลังรับมือกับโรคนี้ในฝั่งตะวันตกของประเทศ โรงพยาบาลในส่วนตะวันออกของประเทศกำลังเผชิญกับความยากลำบาก ตามรายงานของ WHO โดยนายกรัฐมนตรีของคองโกได้รายงานว่าในปีนี้มีผู้เสียชีวิตกว่า 7,000 คนจากความรุนแรงของการโจมตีจากกลุ่มกบฏ M23 ที่ได้รับการสนับสนุนจากรวันดา ซึ่งพยายามยึดพื้นที่ที่อุดมไปด้วยแร่มีค่า
Advertisement
