ทำความรู้จัก BAScii หลักสูตรใหม่ของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เรียนอะไร ทำไมค่าเทอมแพงถึง 5 แสนบาท!
BAScii หรือ Bachelor of Arts and Science in Integrated Innovation หลักสูตรศิลปศาสตรบัณฑิตและวิทยาศาสตรบัณฑิต สาขานวัตกรรมบูรณาการ เป็นคณะน้องใหม่สายอินเตอร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ปัจจุบันมีนักศึกษาแล้ว 6 รุ่น ซึ่งกำลังเป็นที่สนใจของนักเรียน นักศึกษารุ่นใหม่ วันนี้จะพาไปทำความรู้จักถึงเนื้อหาของการเรียน การสอบเข้า ค่าเทอม และอาชีพหลังจบการศึกษา
BAScii "นวัตกรรมบูรณาการ" เป็นหลักสูตรนานาชาติที่เน้นการบูรณาการความรู้ด้านศิลปะและวิทยาศาสตร์ โดยมุ่งเน้นที่นวัตกรรม เทคโนโลยี และความเป็นผู้ประกอบการ หลักสูตรนี้เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการสร้างความเปลี่ยนแปลงด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรมเพื่อพัฒนาสังคมในบริบทนานาชาติ โดยมีเป้าหมายเพื่อพัฒนานักศึกษาให้เป็น "Global Citizens" และผู้นำด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรม
เป็นหลักสูตรที่ให้อิสระกับผู้เรียนได้เรียนรู้ในหัวข้อที่ตนเองสนใจแบบ "สหสาขา" แตกต่างจากการเรียนแบบเดิมๆ ที่จะเน้นในเรื่องใดเรื่องหนึ่งไปเลย เช่น ชอบวิทยาศาสตร์และชอบในเรื่องศิลปะการดีไซน์ ชอบเทคโนโลยีแต่สนใจในเรื่องสุขภาพและสิ่งแวดล้อม นักศึกษาสามารถเอาความถนัดและความชอบมารวมกันในหลักสูตรนี้ได้ สอดคล้องการทำงานของโลกปัจจุบันที่ไม่ได้มองหาคนที่เก่งเพียงด้านเดียวอีกต่อไป แต่มองหาคนที่มีความรู้รอบด้าน มีความริเริ่มสร้างสรรค์ มีความรู้เรื่องเทคโนโลยี เป็นผู้นำ สามารถที่จะนำพาธุรกิจหรือองค์กรไปสู่เป้าหมายที่วางไว้ได้รองรับกับโลกวันนี้ที่มีความผันผวนรวดเร็ว
หลักสูตรของ BAScii มีเนื้อหาการเรียนเกี่ยวกับ สังคมศึกษา ศิลปศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และการออกแบบ จะเน้นให้นิสิตได้ริเริ่มนวัตกรรมใหม่ๆ ตามความถนัด โดยให้นิสิตเชื่อมั่นว่าสิ่งเหล่านี้จะช่วยพัฒนาและสร้างผลกระทบต่อประเทศและในระดับโลกได้ องค์ประกอบหลักสูตรจะถูกแบ่งเป็น Core Course และ Specialization
• Core Courses บังคับลงเรียนในช่วงปี 1 – 3 ประกอบด้วยวิชาพื้นฐานทั่วไป (General Education Courses) วิชาหลักด้านธุรกิจ (Core Business) และวิชาหลักด้านเทคโนโลยี (Core Technology)
• Specializations มี 3 สาขาให้นักศึกษาเลือกตามความสนใจ ได้แก่ Health & Wellbeing กลุ่มสุขภาวะและการอยู่ดีมีสุข, Smart City and Sustainable Development กลุ่มเมืองอัจฉริยะและการพัฒนาอย่างยั่งยืน, และ Applied Digital Intelligence กลุ่มปัญญาดิจิทัลเชิงประยุกต์
• Free Elective Courses นักศึกษาสามารถเลือกเรียนวิชาอื่นๆ ที่สนใจเพิ่มเติมได้
ผู้สมัครสามารถเป็นได้ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติที่ถือหนังสือเดินทางต่างประเทศ ต้องสำเร็จการศึกษาชั้นมัธยมปลาย หรือเทียบเท่า
Early Round: ช่วงเดือนธันวาคม
Admission Round: ช่วงเดือนกุมภาพันธ์
สามารถสมัครออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ของคณะ โดยอัปโหลดเอกสารตามกำหนดการ รอประกาศผู้มีสิทธิสอบข้อเขียนและสัมภาษณ์ จากนั้นจึงสอบข้อเขียนและสัมภาษณ์
ผลคะแนน BAScii กำหนดจะมี 3 ส่วนหลักๆ คือ
1.วุฒิการศึกษามัธยมปลายหรือเทียบเท่า (High School Equivalency)
• วุฒิม.6
• GED
• IGCSE/ A level
• วุฒิ ม.ปลายนานาชาติอื่นๆ
2. ผลคะแนนความสามารถด้านภาษาอังกฤษ (English Test)
• TOEFL (Paper-based) ≥ 550
• TOEFL (Internet-based) ≥ 80
• IELTS ≥ 6.5
• SAT (Evidence-Based Reading & Writing) ≥ 500
• ACT English ≥ 37
• CU-TEP ≥ 100
• Duolingo English Test ≥ 105
• China Gaokao English ≥ 110
• HKDSE English ≥ level 4
• General Scholastic Ability Test (GSAT หรือ Xue Ce) ≥ 12 หรือ TELC ‘B’ grade
3. ผลสอบวิชาคณิตศาสตร์ (Math Test)
• SAT (Math) ≥ 600
• IB Diploma HL Math ≥ 5
• ACT Math ≥ 25
• A-Level Math ≥ Grade B
• CU-AAT Math ≥ 580
• Online Mathematics Placement Test (OMPT-B) ≥ 65%
• China Gaokao Math ≥ 70
• HKDSE Math ≥ Level 4
• General Scholastic Ability Test (GSAT or Xue Ce) ≥ 10
นอกจากนี้ต้องยื่น E-Portfolio ที่แสดงความสามารถ ประสบการณ์ ความสำเร็จ และทักษะต่างๆ โดยไม่เกิน 10 หน้า * Aptitude Test และการสัมภาษณ์ ผู้สมัครจะต้องแสดงความสามารถในการวิเคราะห์เชิงเหตุผล การแก้ปัญหา และความคิดสร้างสรรค์ด้านเทคโนโลยีและธุรกิจ
BAScii เป็นหลักสูตรนานาชาติ จึงมีค่าเทอมที่ค่อนข้างสูง ค่าเทอมโดยประมาณอยู่ที่ 221,000 บาทต่อเทอม (ไม่รวมค่าธรรมเนียมอื่นๆ) และอาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมในภาคฤดูร้อน อย่างไรก็ตาม ในคลิปของไอดี swipesvibes ซึ่งเป็นนักศึกษา BAScii บอกว่าค่าเทอมรวมแล้วอยู่ที่ปีละ 5 แสนบาท อย่างไรก็ตาม ค่าเล่าเรียนอาจมีการเปลี่ยนแปลงในแต่ละปี ควรตรวจสอบข้อมูลกับทางคณะโดยตรง
เนื่องจากหลักสูตรนี้ถูกออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์การเปลี่ยนผ่านทางเทคโนโลยีและนวัตกรรมของโลกสมัยใหม่ที่ผันผวนรวดเร็ว ทำให้ผู้ที่จบจาก BAScii มักจะทำงานเกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี การสร้างธุรกิจ Start Up การลงทุน ในระดับนานาชาติ นอกจากนี้ยังสามารถทำงานในสายที่เกี่ยวข้อง เช่น การพัฒนานวัตกรรม การจัดการเทคโนโลยี การวางแผนกลยุทธ์ในองค์กรในด้านความยั่งยืนหรือเทคโนโลยี เป็นต้น โดยมีตัวอย่างอาชีพ ดังนี้
• Entrepreneur ผู้ประกอบการ
• Start-Up Founder ผู้ก่อตั้งสตาร์ตอัพ
• Technopreneur ผู้ประกอบการทางธุรกิจเทคโนโลยี
• Innovation Entrepreneur ผู้ประกอบการด้านนวัตกรรม
• Digital / IT Specialist ผู้เชี่ยวชาญด้านดิจิทัล/ไอที
• Technology Innovator ผู้ริเริ่มเทคโนโลยี
• Integration Specialist ผู้เชี่ยวชาญด้านบูรณาการ
• Robotics Specialist ผู้เชี่ยวชาญด้านหุ่นยนต์
• Chief Productivity Officer ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายผลิต
• Digital Transformation Specialist ผู้เชี่ยวชาญด้านการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัล
• Innovation Designer / Planner นักออกแบบ/นักวางแผนนวัตกรรม
• Machine Learning Specialist ผู้เชี่ยวชาญด้าน Machine Learning
• AI Research Scientist นักวิทยาศาสตร์วิจัย AI
• Innovative Product Designer นักออกแบบผลิตภัณฑ์นวัตกรรม
• Industry 4.0 Specialist ผู้เชี่ยวชาญด้านอุตสาหกรรม 4.0
• Pharmaceutical Cosmetics Innovator ผู้ผลิตเวชสำอาง
• Autonomous Transportation Specialist ผู้เชี่ยวชาญด้านการขนส่งอัตโนมัติ
• Health Innovator ผู้สร้างนวัตกรรมด้านสุขภาพ
• Medical Entrepreneur ผู้ประกอบการด้านการแพทย์
• Climate Change Analyst นักวิเคราะห์การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
• Smart City Designer/Planner นักออกแบบ/นักวางแผนเมืองอัจฉริยะ
• Wholeness Mentor ที่ปรึกษาด้านองค์รวม
• Data Scientist นักวิทยาศาสตร์ข้อมูล
ติดต่อสอบถามข้อมูลและรายละเอียด
Website
Advertisement