จากกรณีวันที่ 14 มิ.ย. 63 เวลา 07.00 น. พ.ต.ท.วินัย มหาวงศ์สนันท์ รองผู้กำกับการสืบสวน สภ.ตาคลี ได้รับแจ้งว่ามีผู้พบศพ คนถูกฆาตกรรมภายในสระน้ำ บริเวณหลังโรงสี หมู่ที่ 7 ต.หนองหม้อ อ.ตาคลี จ.นครสวรรค์ จึงเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมกับพนักงานสอบสวน ทีมตำรวจฝ่ายสืบสวน หน่วยพิสูจน์หลักฐาน แพทย์เวรโรงพยาบาล และเจ้าหน้าที่อาสาหน่วยบรรเทาสาธารณภัย มูลนิธิการกุศลตาคลี
พบศพนายอุดม ฉัตรเท อายุ 45 ปี ซึ่งเมื่อวันที่ 13 มิ.ย. 63 พี่ชายของผู้เสียชีวิตได้มาแจ้งความไว้ว่า นายอุดมได้หายตัวไป จึงคาดว่าน่าจะถูกฆ่าตาย แล้วนำร่างมาทิ้งที่สระน้ำจุดเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่อาสาหน่วยบรรเทาสาธารณภัยระดมทีมนักประดาน้ำงมค้นหา
กระทั่งเช้าวันนี้ พบเจอศพลอยติดอยู่ที่ริมสระ ในสภาพศีรษะมีร่องรอยถูกทุบตีด้วยของแข็ง และที่ลำคอมีรอยคล้ายถูกเชือกรัด ที่บริเวณทุ่งนา ห่างจากจุดสระน้ำไปประมาณ 200 เมตร พบท่อนเหล็ก 1 ท่อน ถูกโยนทิ้งไว้ริมคันนา เจ้าหน้าที่จึงได้เก็บเอามาตรวจสอบ ก่อนจะมีการนำร่างของผู้เสียชีวิตส่งไปตรวจอย่างระเอียดที่นิติเวช โรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์
ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางมาที่จุดเกิดเหตุ บริเวณสระน้ำหลังโรงสี หมู่ที่ 7 ต.หนองหม้อ อ.ตาคลี จ.นครสวรรค์ มีรอยที่ผู้ก่อเหตุ ลากผู้เสียชีวิตอยู่ที่พื้น หลังใช้ท่อนเหล็กตีบริเวณศีรษะ และลากลงน้ำเพื่ออำพรางศพ
นายอุดร ฉัตรเขา อายุ 47 ปี พี่ชายผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า เหตุเกิดวันที่ 13 มิ.ย.63 เวลาประมาณ 17.00 น. นายอาทร หรือ อึ่ง ผู้ก่อเหตุ เดินมาหาน้องชายตนเองที่หน้าบ้าน ก่อนเรียกพากันเดินไปที่บ้านของนายอึ่ง ที่อยู่ห่างจากบ้านของตนเองไปประมาณ 50 เมตร ซึ่งปกติน้องชายตนเป็นคนพิการทางสมองช้า
แม่ของตนเอง ด้วยความเป็นห่วงน้องชาย จึงเดินไปตามหาน้องที่บ้านของนายอึ่ง เพราะปกติแล้วนายอึ่งมักจะชวนน้องชายตน กับนายเอ มาเสพยาเสพติดที่บ้านของนายอึ่ง และนายอึ่งเวลาเมายาเสพติดมักจะทำร้ายร่างกายน้องชายบ่อยครั้ง กระทั่งเวลาผ่านไป 15 นาที นายอึ่ง ได้มาหาตนเองที่บ้าน บอกว่าให้ไปตามแม่ของตนเองกลับ อย่าให้ไปวุ่นวายในบ้านของนายอึ่งอีก ซึ่งแม่ของตนเองเดินกลับมาก็บอกว่าไม่พบน้องชาย นายอึ่งก็ทำเป็นไม่เดือดร้อน บอกว่าเห็นน้องชายเดินหายไปทางโรงสีหลังบ้าน ตนเองจึงออกมาตามหาแต่ก็ไม่พบ
ตนจึงโทรแจ้งตำรวจและนักประดาน้ำ ช่วยทำการค้นหานานกว่า 3 ชม. ไม่พบตัวน้องชาย กระทั่งรุ่งเช้าที่ผ่านมา พบร่างของน้องชาย ลอยอืดติดอยู่ริมขอบสระ จึงมั่นใจได้ว่าผู้ก่อเหตุน่าจะเป็นนายอึ่ง และนายเอ ที่เรียกน้องชายไปพบเป็นคนสุดท้าย
เบื่องต้น ตำรวจสอบถามทั้ง 2 คน ยอมรับสารภาพว่าร่วมมือกันฆ่าน้องชายของตนเองจริง เพราะนายอึ่งเกิดความหมั่นไส้น้องชาย
หลังจากที่น้องชายรวมถึงนายอึ่งและนายเอได้เสพยาเสพติดกันจนเมาได้ที่ จึงได้วางแผนให้นายเอถือท่อนเหล็กไปรอที่สระน้ำ ในทุ่งนาก่อนที่นายอึ่งจะออกอุบายหลอกพาน้องชายตนเดินไปที่จุดนัดหมาย ใช้ท่อนเหล็กฟาดไปที่ศีรษะของน้องชายจนล้มนอนแน่นิ่ง แล้วลากร่างไปโยนทิ้งสระน้ำ
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่แจ้งข้อกล่าวหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นจนถึงแก่ความตาย ก่อนส่งให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย
Advertisement