วันที่ 2 ธ.ค.67 นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม พบพนักงานสอบสวน ปปป. เพื่อร้องทุกข์กล่าวโทษ อัยการจังหวัดนนทบุรี กับพวก และอัยการภาค 1 กับพวก ที่ทำคดีน้องแตงโม ในความผิดฐาน "เป็นเจ้าพนักงานตามมาตรา 157 ,164 และ 200"
นายอัจฉริยะ ระบุว่า สืบเนื่องจากผลของคำพิพากษาของศาลอาญาในคดีที่ 21 ตำรวจคณะพนักงานสืบสวนสอบสวนของตำรวจนนทบุรี ที่ได้มีการฟ้องตนกับพวก ในข้อหาหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา และได้มีการสืบพยานจนสามารถพิสูจน์ความจริงได้ว่า น้องแตงโมไม่ได้ตกท้ายเรือ แล้วก็ไม่ได้เกิดจากใบพัดเรือ แล้วก็มีการแก้ไข GPS ของตำรวจชุดทำคดี มีการสร้างพยานหลักฐานอันเป็นเท็จ ไม่ว่าจะเป็นเส้นผม วัตถุพยานอื่นๆ รวมทั้งสิ่งที่มีการฟ้องไปยังพนักงานอัยการจังหวัดนนทบุรี ซึ่งเป็นการกระทำโดยมิชอบด้วยกฎหมาย
และจากการที่เรารวบรวมพยานหลักฐานมาตลอดระยะเวลาเกือบ 3 ปี ก็ได้ข้อยุติ แล้วจากคำพิพากษาของศาลว่าพนักงานอัยกา จังหวัดนนทบุรี แล้วก็คณะคณะพนักงานอัยการภาค 1 ในการชั่งน้ำหนักพยานหลักฐานที่ทำคดีน้องแตงโม รับฟังข้อเท็จจริงที่ผิดพลาดคลาดเคลื่อน ไม่ชั่งน้ำหนักพยานหลักฐานว่าพยานหลักฐานของผู้กล่าวหากับผู้ต้องหา หลักฐานใดมีน้ำหนักน่าเชื่อถือรับฟังได้มากกว่ากัน ไม่พิสูจน์ความจริงให้เป็นที่ยุติ ทำคำฟ้องยื่นต่อศาลชี้ขาดคดีโดยไม่ยึดตามพยานหลักฐานที่เกิดขึ้นจริง ขัดแย้งกับพยานหลักฐานอย่างชัดแจ้ง โดยใช้ดุลยพินิจชอบด้วยกฎหมาย เอื้อประโยชน์ให้กับผู้ต้องหาทั้ง 5 คนบนเรือให้พ้นผิด หรือรับโทษน้อยกว่าความผิด อันเป็นความผิดฐานปฏิบัติหน้าที่หรือละเว้นการปฎิบัติหน้าที่โดยทุจริต ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157,164 และมาตรา 200
วันนี้จึงมาร้องทุกข์กล่าวโทษ ต่อคณะพนักงานอัยการทั้งนนทบุรีและภาค 1 ที่ทำคดีของแตงโมเมื่อปี 2565 ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นอธิบดี หรือไม่ว่าจะเป็นคณะพนักงานอัยการ คนใดก็ตามที่อยู่ในสำนวน ตนไม่รู้ว่าคณะอัยการที่ทำคดีนี้กี่ท่าน แต่ชรู้ว่ามีตัวเอกอยู่คนหนึ่ง เป็นอัยการที่อยู่บนฟ้า คนนี้เป็นตัวหลัก ซึ่งค่อนข้างที่จะชัดเจนว่าเป็นบุคคลที่จะต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย
นอกจากนี้นายอัจฉริยะ ยังระบุว่าวันนี้มีหลักฐานเป็นคำฟ้องของคณะพนักงานสอบสวนของอัยการจังหวัดนนทบุรี ที่ฟ้องผู้ต้องหาบนเรือทั้ง 5 คน ที่เจตนาทำคดีนี้เป็นประมาทอย่างเดียว แล้วก็ยังมีคำฟ้องที่ระบุยืนยันว่าน้องแตงโมบาดแผลเกิดจากใบพัดเรือ ซึ่งไม่เป็นความจริง เป็นความเท็จ ศาลอาญาได้มีคำพิพากษาพิสูจน์ความจริงมาแล้ว
"ซึ่งการเสียชีวิตของน้องแตงโม เรายืนยันว่าจากผลทั้งหมด เรายืนยันว่ามีผู้มีบุคคลทำให้น้องแตงโมเสียชีวิต แล้วก็มีการจับน้องแตงโมโยนน้ำ ไม่ใช่เกิดจากการตกท้ายเรือ และบาดแผลจากที่ศาลมีคำสั่งพิพากษา เกิดจากของมีคม กรีดตามยาว ไม่ได้เกิดจากใบพัดเรือแน่นอน"
การเก็บพยานหลักฐานเส้นผม 3 เส้น พนักงานสืบสวนสอบสวนเอาแพทเทิร์นในคดีลุงพลมาใช้ ในคดีลุงพลก็มีเส้นผม 3 เส้นที่สามารถเอาผิดลุงพลได้
แต่คดีนี้ตำรวจใช้หลักฐานเส้นผม 3 เส้น แต่เป็นเจตนาช่วยเหลือคนบนเรือ โดยบอกว่าเส้นผม 3 เส้นไปอยู่บริเวณท้ายเรือ แล้วอ้างว่าน้องแตงโมตกท้ายเรือ เพื่อให้ตรงกับคำให้การของคนบนเรือ
นอกจากนี้นายอัจฉริยะ ยังได้ระบุถึงคดีของทนายตั้ม ษิทรา เบี้ยบังเกิด ว่าอยากจะฝากถึงทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ ไม่รู้จริงอย่าพูดมากเลย ทำไมมายกเลิกพยานของคดีแตงโมดีกว่า อาจารย์เป็นทนายความโจทก์ร่วมของแม่แตงโม แต่มายกเลิกพยานสำคัญที่เป็นหมอ ที่สามารถบอกได้ว่าแตงโมบาดแผลเกิดจากของมีคม ไม่ได้เกิดจากใบพัดเรือ แต่อาจารย์ทำหนังสือยกเลิกพยาน มันหมายความว่ายังไง
และคดีของทนายตั้ม ไม่ว่าจะเป็นทนายความคนไหนก็ช่วยไม่ได้ เพราะขณะนี้อาจารย์เดชายังไม่รู้เลยว่า คดีของทนายตั้มเป็นคดีนอกราชอาณาจักรเพราะมีการโอนเงินมาจากต่างประเทศ จะต้องให้อัยการสูงสุด เข้าร่วมการสอบสวน ซึ่งพนักงานสอบสวนกองปราบปราม ได้ส่งสำนวนคดีของทนายตั้ม ไปยังสำนักงานคดีอัยการสูงสุดไปแล้ว ดังนั้นอาจารย์เดชา ถ้าไม่รู้จริงอย่าพูดเลยอายเขาเปล่าๆ มันเสียชื่อถ้าไม่รู้จริง
Advertisement