จากกรณีพบศพคนงาน เสียชีวิตปริศนา 5 รายในบ่อโรงงานปลาร้า อำเภอหล่มสัก จังหวัดเพชรบูรณ์ เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม ตำรวจยังคงเร่งตรวจสอบหาสาเหตุที่แท้จริง ว่า เกิดจากอะไร โดยยังไม่ตัดประเด็นใดทิ้ง ทั้งกรณีสูดดมแก๊สพิษ และถูกฆาตกรรม
วันนี้ (11ธ.ค.67) ตำรวจสภ.หล่มสัก , เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน , กรมควบคุมโรค , รวมถึงเจ้าหน้าที่อบต.หนองไขว่ ได้นำกำลังเข้าตรวจสอบโรงงานปลาร้าที่เกิดเหตุ โดยได้นัดหมายให้นายราชัย ส่งจิตต์สวัสดิ์ หรือ เฮียชัย เจ้าของโรงงาน เข้าร่วมตรวจสอบและชี้แจงถึงรายละเอียดต่างๆภายในโรงงาน โดยเฉพาะส่วนของอาคารที่เป็นโรงหมักปลาร้า จุดเกิดเหตุ
โดย “เฮียชัย” ได้พาเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบในโรงมักปลาร้าที่เกิดเหตุ เนื้อที่ประมาณ 486 ตารางเมตร โดยก่อนการเข้าตรวจสอบพนักงานสอบสวนสภ.หล่มสัก ได้อธิบายรายละเอียดของเหตุการณ์ ให้เจ้าหน้าที่กรมควบคุมโรคฟัง ระบุว่า เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 9 ธันวาคม โดยเมื่อเวลา 17 นาฬิกา พยานซึ่งเป็นคนส่งปลาร้าได้พบศพ จึงแจ้งให้เจ้าของโรงงานทราบ ก่อนจะมีการแจ้งตำรวจ
จากนั้นเมื่อตำรวจเข้ามาตรวจสอบก็พบมีผู้เสียชีวิต 5 ราย จึงประสานให้กองพิสูจน์หลักฐานเข้ามาตรวจเก็บพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุ เบื้องต้นจากการตรวจสอบกล้องวงจรปิด พบ ดูได้แบบเรียลไทม์เท่านั้น ตำรวจจึงยังไม่ตัดประเด็นใดทิ้งรวมทั้งข้อสงสัยเรื่องการฆาตกรรม
ขณะที่ต่อมาได้ทำการเปิดหลังคาเพื่อระบายอากาศระหว่างการกู้ศพ และได้ส่งศพไปชันสูตรที่โรงพยาบาลเพชรบูรณ์ เบื้องต้นแพทย์ตั้งข้อสังเกตเรื่องสภาพศพมีสีเขียวคล้ำ อาจเกิดจากการสูดดมแก๊สพิษเข้าไป จึงต้องใช้ความระมัดระวังในการเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุในวันนี้
เมื่อเจ้าหน้าที่เข้าทำการตรวจสอบภายในอาคารโรงหมักปลาร้า พบภายในมีทั้งบ่อปูนกว้าง 2 เมตร ยาว 2 เมตร ลึก 2.4 เมตร กว่า 10 บ่อ ทั้งยังมีโอ่งมังกรสำหรับหมักปลาร้าจำนวนมากด้วย
โดยบ่อที่เกิดเหตุ เป็นบ่อสุดท้ายด้านหลัง ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้มีการนำเครื่องตรวจวัดค่าแก๊สไปตรวจสอบ ว่า ภายในบ่อดังกล่าวมีแก๊สพิษชนิดไหนอยู่บ้าง เพื่อนำไปประกอบแนวทางการสืบสวน
เจ้าหน้าที่พร้อมเฮียชัย เจ้าของโรงงาน ใช้เวลาตรวจสอบบ่อปลาร้าที่เกิดเหตุนานกว่า 1 ชั่วโมง โดยหลังจากนี้ก็จะมีการรวบรวมข้อมูลเพื่อนำไปวิเคราะห์หาสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริง ต่อไป
ขณะที่ทีมข่าวได้ไปพูดคุยกับนางสาวมาลัยพร อุ่นแก้ว อายุ 51 ปี น้าสาวของนายศุภกฤษ ชาติเชื้อ หรือ มิก อายุ 30 ปี 1 ในคนงานที่เสียชีวิต และตั้งสวดศพที่วัดน้ำชุนวารี ตำบลน้ำชุน อำเภอหล่มสัก จังหวัดเพชรบูรณ์ ระบุว่า เห็นข่าวทางโซเชียลเกี่ยวกับผู้เสียชีวิตเลือดมีสีเขียวแล้ว ยืนยันว่า ไม่เป็นความจริง เพราะหลังจากหมอผ่าชันสูตรศพหลานชายเสร็จแล้ว ก็พบหลานชายมีเลือดออกมาเป็นสีแดง เหมือนคนเสียชีวิตปกติทั่วไป จะมีแค่ผิวหนังที่ออกสีคล้ำ เท่านั้น ซึ่งอาจเกิดจากการสูดดมก๊าซพิษเข้าไป เพราะจากการพูดคุยกับหมอที่ผ่าชันสูตรศพเบื้องต้น ทราบว่าแก๊สพิษดังกล่าว มีฤทธิ์รุนแรง หากสูดดมเข้าไป ภายใน 5 - 7 วินาที จะทำให้หัวใจหยุดเต้นได้
ส่วนประเด็นการฆาตกรรมนั้น น้าสาว ระบุว่า ส่วนตัวไม่ได้ติดใจในประเด็นนี้ แต่ก็ขอให้เป็นหน้าที่ของตำรวจในการสืบสวนหาความจริง
น้าสาว ของนายศุภกฤษ ยอมรับว่า ส่วนตัวไม่ค่อยพอใจกับการช่วยเหลือเยียวยาของทางโรงงานปลาร้า ที่ให้เงินช่วยเหลือก้อนแรกเพียง 2 หมื่นบาท เพราะไม่พอกับค่าใช้จ่ายต่างๆ และวันนี้ก็ได้มีการหารือกันกับครอบครัวผู้เสียชีวิตรายอื่นเกี่ยวกับการเจรจาค่าเสียหายหลังจากนี้ โดยกำหนดตัวเลขค่าเสียหายคร่าวๆเอาไว้ ถ้าหากตกลงกันไม่ได้ จะฟ้องร้องตามกฎหมายกับทางโรงงาน เพราะมองว่าความสูญเสียที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ ถือเป็นความผิดของทางโรงงาน เกี่ยวกับความปลอดภัยของลูกจ้าง ที่ทางโรงงานควรแสดงความรับผิดชอบมากกว่านี้
Advertisement