เมื่อเวลา 03.00 น.วันที่ 30 ธันวาคม 2567 ร.ต.อ.เกรียงศักดิ์ เวชเตง รอง สว.สอบสวน สภ.สวี อ.สวี จ.ชุมพร ได้รับแจ้งเหตุรถทัวร์ปรับอากาศชนท้ายรถบรรทุกพ่วง มีผู้บาดเจ็บหลายราย เหตุเกิดบนถนนสายเอเชีย 41 กม.ที่ 31 ขาล่องใต้ ม.3 ต.สวี อ.สวี จ.ชุมพร
ที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่พบ รถยนต์บรรทุกพ่วง 22 ล้อสีขาว หมายเลขทะเบียน ป้ายเหลือง 70-5958 สุราษฎร์ธานี ส่วนตัวพ่วง หมายเลขทะเบียนป้ายเหลือง 70-5959 สุราษฎร์ธานี โดยรถบรรทุกพ่วงคันดังกล่าวบรรทุกยางพาราอัดแผ่นมาเต็มคัน จอดอยู่บริเวณไหล่ทาง สภาพรถพ่วงคู่หลังด้านขวา ยางระเบิด 2 ล้อ ไฟท้ายและบังโคลนด้านท้ายของรถถูกชนพังเสียหาย โดยมีนายสุรเชษฐ์ สุวรรณภักดี อายุ 40 ปี เป็นคนขับ
ส่วนคู่กรณีเป็นรถทัวร์ปรับอากาศ 2 ชั้น หมายเลขทะเบียน 30-1145 ลพบุรี อยู่ในสภาพบริเวณหน้ารถด้านซ้ายชนอัดติดกับส่วนท้ายกระบะของตัวพ่วง ล้อหน้าด้านซ้ายหักพับ จอดพังเสียหายอยู่บนถนนช่องจราจรด้านซ้าย มีนายสมศักดิ์ วัฒนไกรสิทธิ์ อายุ 70 ปี เป็นคนขับ
เจ้าหน้าที่ชุดกู้ชีพกู้ภัย ระดมกำลังเข้าช่วยผู้โดยสารที่มากับรถทัวร์ปรับอากาศ ซึ่งทราบว่า เป็นนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ทั้งหมด 44 คน และรวมคนขับและเด็กรถ อีก 2 คน รวมเป็น 46 คน โดยได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยไปจนถึงปานกลาง จำนวน 17 ราย คัดแยกนำส่ง รพ.สวี รพ.ทุ่งตะโก และ รพ.ชุมพร ส่วนผู้โดยสารที่ไม่ได้รับบาดเจ็บ อีก 27 คน ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้นำไปยังที่ว่าการอำเภอสวี ซึ่งอยู่ใกล้พื้นที่เกิดเหตุ เพื่อใช้เป็นจุดพักพิงให้ผู้โดยสารทั้งหมดได้พักเป็นการชั่วคราว โดยทางเจ้าหน้าที่ได้จัดสิ่งของพร้อมอาหารอำนวยความสะดวกเป็นการช่วยเหลือเป็นการเบื้องต้น
สอบถามนายสมศักดิ์ วัฒนไกรสิทธิ์ คนขับรถทัวร์ ทราบว่า ตนเองได้ขับรถคันดังกล่าว รับนักท่องเที่ยวซึ่งเป็นชาวต่างชาติทั้งหมด จากถนนตรอกข้าวสาร กรุงเทพมหานคร เพื่อจะไปส่งที่ จ.สุราษฎร์ธานี และนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ ก็จะนั่งเรือต่อไปยังเกาะสมุย และเกาะพงัน แต่ก่อนเกิดเหตุนั้น ตนเองทำโทรศัพท์มือถือตกลงพื้นรถ จึงได้ก้มลงจะเก็บมือถือขึ้นมา ซึ่งระหว่างนั้นได้ขับรถอยู่เลนขวาสุด และมีรถบรรทุกพ่วง ขับอยู่ด้านหน้า ประกอบกับเป็นช่วงทางโค้งซ้ายพอดี แต่เมื่อก้มลงหยิบ รถเกิดเซถลาไปคร่อมเลนด้านซ้าย พอเกยหน้าขึ้นมาก้พบว่ารถพุ่งตรงท้ายรถบรรทุกพ่วง ซึ่งได้พยายามห้ามเบรกและหักพวงมาลัยให้กลับมาเลนเดิมขวาแล้ว แต่ไม่ทัน รถพุ่งชนเข้าท้ายรถบรรทุกอย่างจัง
ด้านนายสุรเชษฐ์ สุวรรณภักดี คนขับรถบรรทุกพ่วง เล่าว่า ตนเองได้ขับรถไปรับสินค้าเป็นยางพาราอัดแผ่น จาก จ.เชียงราย โดยมีภรรยานั่งมาเป็นเพื่อนด้วย เพื่อนำไปเข้าโรงงานแปรรูปยางพารา ที่ จ.ตรัง และขับมาเรื่อยๆ เป็นเวลา 2 วันแล้ว และตนเองขับมาอยู่ช่องจราจรด้านซ้าย ซึ่งกฎหมายกำหนดให้รถบรรทุก ให้ใช้ช่องทางด้านซ้ายเท่านั้นยกเว้นแซง จนมาถึงที่เกิดเหตุอยู่ๆก็ได้ยินเสียงโครมดังสนั่น และรถสะเทือนไปทั้งคัน รู้เลยว่ารถถูกชนท้ายแล้ว จึงได้พยายามประคองรถเข้าจอดด้านซ้าย และเมื่อจอดสนิทแล้วลงไปดู ก็พบว่าท้ายท้ายของตัวพ่วงถูกรถทัวร์ปรับอากาศชนอัดติดอยู่ จึงได้แจ้งตำรวจให้มาตรวจสอบดังกล่าว
Advertisement