Logo site Amarintv 34HD
Logo LiveSearch
Search
Logo Live
Logo site Amarintv 34HD
ช่องทางติดตาม AMARINTV
  • facebook AMARIN TV 34 HD
  • x AMARIN TV 34 HD
  • line AMARIN TV 34 HD
  • youtube AMARIN TV 34 HD
  • instagram AMARIN TV 34 HD
  • tiktok AMARIN TV 34 HD
  • RSS Feed AMARIN TV 34 HD
สาวแก๊งคอลเซ็นเตอร์ร่ำไห้ อยากกลับบ้าน ถูกเรียกเงินไถ่ตัว 1 พันดอลลาร์

สาวแก๊งคอลเซ็นเตอร์ร่ำไห้ อยากกลับบ้าน ถูกเรียกเงินไถ่ตัว 1 พันดอลลาร์

5 ก.พ. 68
16:21 น.
|
164
แชร์

สาวอุดรธานี แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ร่ำไห้อยากกลับบ้านแม้กลัวจะติดคุก ล่าสุดปักหมุดว่าอยู่ที่ เมืองสีหนุวิลล์ ประเทศกัมพูชา ถูกเรียกเงินไถ่ตัว 1,000 ดอลลาร์

จากกรณีที่ น.ส.บุษรา (สงวนนามสกุล) อายุ 18 ปี ไปทำงานอยู่กับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่เมืองปอยเปต ประเทศกัมพูชา จนมีหมายจับคดีบัญชีม้า เมื่อตำรวจติดต่อไปผ่าน นายบุญกอง อายุ 68 ปี ผู้เป็นตา บอกว่า น.ส.บุษรา ได้โทรศัพท์กลับมาร้องไห้และบอกว่ากลัวจะติดคุก แต่ก็อยากจะกลับบ้าน เงินเดือนถูกหักไม่เหลือ ล่าสุดปักหมุดว่าอยู่ที่ เมืองสีหนุวิลล์ ประเทศกัมพูชา ระบุว่า ยังไม่ได้ถูกทำร้ายร่างกายและแก๊งคอลเซ็นเตอร์บอกว่าต้องจ่ายเงิน 1,000 ดอลลาร์ ถึงจะยอมปล่อยตัว

ความคืบหน้าล่าสุด วันนี้ (5 กุมภาพันธ์ 2568) ที่ห้องประชุมที่ว่าการอำเภอ อ.ไชยวาน จ.อุดรธานี นายบัณฑูร นริศรางกูร นอภ.ไชยวาน ร่วมกับ พ.ต.อ.รัฐพลชัย เพ็ญสงคราม ผกก.สภ.ไชยวาน เชิญ นายบุญกอง มาให้ข้อมูลอีกครั้งเพื่อหาทางช่วยเหลือ เบื้องต้นได้ร่วมกันเก็บข้อมูลและวิเคราะห์แนวทางการช่วยเหลือ ซึ่งจะให้นายบุญกองร้องเรียนผ่านระบบตามขั้นตอนฝ่ายปกครองกับ สนง.ศูนย์ดำรงธรรม อ.ไชยวาน เพื่อส่งถึงสำนักนายกรัฐมนตรี

นายบัณฑูร เปิดเผยว่า หลังได้รับรายงานเรื่องนี้ทราบว่ามีการร้องขอให้มีการช่วยเหลือ น.ส.บุษรา กลับบ้านเราก็ต้องทำทุกวิถีทางประสานกับหน่วยงานที่มีอำนาจนำตัวกลับมาที่ประเทศไทยได้อย่างปลอดภัยก่อน ส่วนกระบวนการด้านกฎหมายของหมายจับที่มีอยู่ก็ต้องมาสู้ไปตามหลักฐาน จะผิดหรือถูกก็ว่ากันไปตรงนี้มันเป็นคนละเรื่องกันเราต้องเอาตัวเขาที่ถูกกักขังกลับมาประเทศไทยก่อน

ด้าน พ.ต.อ.รัฐพลชัย เปิดเผยว่า เมื่อวานนี้ได้ส่งข้อมูลทั้งหมดให้ผู้บังคับบัญชาได้รับทราบแล้ว ซึ่งก็จะมีการส่งเข้า ตร. ต่อไปตามลำดับขั้นตอน ในส่วนตำรวจยังจะไม่มีการประชุมติดตามในเรื่องนี้เนื่องจากเหตุเกิดอยู่นอกราชอาณาจักร ไม่ได้เกิดในพื้นที่ แต่เมื่อเป็นประชาชนคนไทยเราก็ต้องเร่งดำเนินการช่วยเหลืออย่างเต็มที่อยู่แล้ว จะผิดหรือถูกก็ค่อยมาว่ากันอีกครั้ง หลังจาก นายบุญกอง ร้องเรียนผ่านศูนย์ดำรงธรรมแล้วก็จะเร่งไปทาง สนง.พมจ.อุดรธานี เพื่อช่วยเหลืออีกช่องทางหนึ่ง

ต่อมาผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่บ้านของ นายบุญกอง อีกครั้งโดยมี น.ส.บุปผา อรกุล ผญบ.บ้านนพแก้ว ม.10 ต.โพนสูง เข้าร่วมพูดคุยและให้กำลังใจครอบครัวของ นายบุญกอง โดยได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า เมื่อคืนนี้ประมาณ 23.00 น. หลานสาวโทรกลับมาหาอีกครั้ง ย้ำว่าหากโอนเงินให้แก็งคอลเซ็นเตอร์ 1,000 ดอลลาร์ หรือประมาณ 3 หมื่นกว่าบาท ก็จะถูกปล่อยตัวทันทีแต่ตนก็บอกหลานว่า ตอนนี้ไม่มีเงินขอเวลาอีก 2–3 วันได้หรือไม่ หลานก็บอกว่าจะคุยกับเขาอีกที

"หลานบอกว่าตากับยายไม่ต้องเป็นห่วง ยังปลอดภัยดี แต่ยืนยันว่าอยากกลับบ้านเพราะทำงานไปก็ไม่ได้เงิน ตนก็ยังไม่รู้ว่าหลานกลับไปทำงานที่นั่นอีกทำไม กลับออกมาได้รอบหนึ่งแล้วทำไมต้องย้อนกลับไปอีก จากนี้จะเอาเรื่องเงินไถ่ตัวไปปรึกษาตำรวจก่อนว่าควรจะโอนไปไถ่ตัวหลานหรือไม่ หรือตำรวจมีวิธีอื่นช่วยแบบไหน หากกลับมาได้แล้วถูกดำเนินคดีก็ให้ว่ากันไปตามกฎหมาย คนทำผิดก็ต้องรับโทษ หากไม่ผิดก็ต้องมาพิสูจน์กันตามขั้นตอน ถามว่ามีเงินไปช่วยหลานมั้ยตนก็ไม่มี หากต้องช่วยจริงอาจจะยืมมา หรือแย่กว่านั้นก็ให้หลานเผชิญชะตากรรมเอง เพราะตนไม่มีเงินจริงๆ"

ด้าน น.ส.บุปผา อรกุล ผญบ.บ้านนพแก้ว ให้ข้อมูลว่าตำรวจประสานข้อมูลมาว่าลูกบ้านมีหมายจับคดีบัญชีม้าตนก็พาตำรวจมาที่บ้านเพื่อติดหมาย เมื่อมาถึงสอบถามก็เป็นไปตามเรื่องที่เกิดขึ้น ตนก็ยังแปลกใจอยู่ว่าเขากลับมาได้แล้วทำไมต้องกลับไปอีก รู้ทั้งรู้ว่ามันผิดกฎหมายและมันน่ากลัวขนาดไหนก็ยังจะย้อนกลับไปอีก ได้แต่เอาใจช่วยลูกบ้าน จะผิดถูกอย่างไรขอให้คนของเรากลับมาบ้านก่อนแล้วมาสู้กันต่อในคดี

Advertisement

แชร์
สาวแก๊งคอลเซ็นเตอร์ร่ำไห้ อยากกลับบ้าน ถูกเรียกเงินไถ่ตัว 1 พันดอลลาร์