กรณีบัญชีม้าที่เป็นบุคคลและมีการถูกแบ่งเป็นสีประเภทต่างๆ ตั้งแต่ 31 มกราคม 2568 ผู้ตกเป็นเหยื่อจะไม่สามารถโอนไปยังบัญชีม้าสีดำ และสีเทาเข้มได้แล้ว และแต่ละธนาคารพาณิชย์จะแจ้งเตือนคนโอนไปบัญชีม้าทุกสีตั้งแต่เดือนมีนาคม 2568
บัญชีม้า หรือบัญชีที่ถูกเปิดขึ้นเพื่อผลประโยชน์บางอย่างซึ่งคนที่เป็นเจ้าของบัญชีม้ามักไม่ใช่เจ้าของตัวจริง บัญชีม้าอาจจะถูกเปิดไว้เพื่อการรับโอน โอนออก หรือชำระเงิน เป็นต้น
คนธรรมดาส่วนใหญ่ไม่ได้มีการเปิดบัญชีม้า แต่ผู้ที่ใช้บัญชีม้ามักเป็น“กลุ่มมิจฉาชีพ”ที่ปกปิดตัวตนที่แท้จริงในการก่อเหตุหรือการกระทำความผิด เช่น แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่กำลังระบาดหนักในปัจจุบัน บัญชีม้าจึงมีความสำคัญมากเพราะเมื่อมีการหลอกลวงเหยื่อสำเร็จ เงินของเหยื่อก็จะถูกโอนไปที่บัญชีม้าจากบัญชีม้าก็จะมีการโอนออกไปอย่างรวดเร็ว
ในช่วงที่ผ่านมาธนาคารแห่งประเทศไทยได้มีหลายมาตรการออกมาแก้ปัญหาและระงับการเปิดบัญชีม้า เช่นกรณีแอปดูดเงิน มิจฉาชีพจะมีการส่งลิงก์ให้โหลดแอปเพื่อที่จะควบคุมมือถือของผู้เสียหาย ธนาคารแห่งประเทศไทยก็ได้มีการกำหนดมาตรฐาน Mobile Banking Security เช่น ห้ามการส่ง SMS แนบลิงก์ การสแกนใบหน้าก่อนโอนเงิน เพื่อเป็นการยกระดับ Mobile Banking Security
หรือกรณีการโอนออกเอง เพราะถูกหลอก เช่น มิจฉาชีพโทรหลอกเหยื่อแล้วเหยื่อมีการออกโอนเงินออกด้วยตนเอง ธนาคารแห่งประเทศไทยก็มีบริการเสริมเพิ่มความปลอดภัยของ Mobile Banking เช่น Money Lock หรือปรับวงเงินสแกนหน้า เตือนแบบ General ซึ่งการเตือนก็เพื่อเป็นการหน่วงระงับความเสี่ยง
ข้อมูลในปี 2567 พบว่ามีการระงับบัญชีม้า 1.75 ล้านบัญชี มีรายชื่อม้า 134,000 รายชื่อ แต่บัญชีม้าก็ยังไม่ได้หมดไป ด้วยรูปแบบการหลอกลวงที่พัฒนาขึ้นเรื่อยๆ จึงทำให้ธนาคารแห่งประเทศไทยต้องยกระดับความเข้มข้นของมาตรการปราบบัญชีม้า โดยต้องอาศัยความร่วมมือของหลายหน่วยงาน ซึ่งในการชี้แจงมาตรการกับสื่อมวลชนมี ดร.รุ่ง มัลลิกะมาส รองผู้ว่าการ ด้านเสถียรภาพสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย และคุณดารณี แซ่จู ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับระบบการชำระเงินและคุ้มครองผู้ใช้บริการทางการเงิน เป็นผู้ชี้แจง
มาตราการ ก ข ค คือ กวาดล้าง เข้มข้น และครอบคลุม
โดยปรับเงื่อนไขการเข้าข่ายเป็นบัญชีม้าให้เข้มขึ้นโดยคำนึงถึงปัจจัยอื่น ๆ เพิ่มเติม เช่น พฤติกรรมการโอนของบัญชีม้า มูลค่าของธุรกรรม เพื่อให้ครอบคลุมพฤติกรรมของมิจฉาชีพที่เปลี่ยนไป รวมทั้งสามารถดำเนินการกับบัญชีม้าได้แม้ยังไม่ได้รับแจ้งจากผู้เสียหาย เพื่อยกระดับการจัดการบัญชีม้าแต่ละระดับให้เหมาะสมและมีประสิทธิภาพ
ทั้งนี้มีม้าแบ่งเป็นสีต่างๆเช่นม้าดำอยู่ในบัญชีของปปง. ม้าเทา เป็นกรณีที่มีผู้เสียหายแล้วทั้งที่เป็นผู้เสียหายที่แจ้งความแล้วและผู้เสียหายที่ยังไม่แจ้งความ ม้าน้ำตาลเป็นกรณีที่ยังไม่มีผู้เสียหายแต่ธนาคารมั่นใจและสามารถแจ้งตำรวจหรือธนาคารเกิดความสงสัย การแบ่งเฉดสีของบัญชีม้าประเภทต่างๆนี้เพื่อให้เกิด Action ที่เข้มข้นเร็วขึ้นและสะท้อนความเสี่ยงมากขึ้น
โดยธนาคารต้องขยายให้การระงับการโอนเงินออกจากบัญชีม้าและการปฏิเสธการเปิดบัญชีใหม่ ครอบคลุมไปถึงกรณีของบัญชีที่มีความเสี่ยงสูงว่าจะเป็นบัญชีม้า (แต่ยังไม่ถูกแจ้งว่าทำให้เกิดความเสียหาย) เพิ่มเติมด้วย รวมทั้งต้องกันเงินไม่ให้เข้าไปยังบัญชีของม้าทุกประเภทที่ระบุได้ชัดเจนว่ามีความเสี่ยงสูง นอกจากนี้ ธนาคารต้องแจ้งเตือนให้ผู้โอนรู้ตัวว่าอาจกำลังโอนเงินไปยังบัญชีม้า เพื่อป้องกันความเสียหายตั้งแต่ต้น และผู้ถูกหลอกไม่ต้องเสียเวลาในการดำเนินการทางกฎหมายเพื่อรับเงินคืน
ทั้งนี้ผลในทางปฏิบัติ คือ กรณีบัญชีม้าที่เป็นบุคคลและมีการถูกแบ่งเป็นสีประเภทต่างๆ ตั้งแต่ 31 มกราคม 2568 ผู้ตกเป็นเหยื่อจะไม่สามารถโอนไปยังบัญชีม้าสีดำ และสีเทาเข้มได้แล้ว และแต่ละธนาคารพาณิชย์จะแจ้งเตือนคนโอนไปบัญชีม้าทุกสีตั้งแต่เดือนมีนาคม 2568 ถือเป็นการป้องกันเงินเข้าไปในบัญชีม้า ส่วนกรณีม้าที่เป็นนิติบุคคลจะดำเนินการเข้มข้นภายในเดือนกุมภาพันธ์ปีนี้
โดยกำหนดให้ธนาคารต้องแลกเปลี่ยนรายชื่อบุคคลที่ธนาคารตรวจสอบว่ามีพฤติกรรมต้องสงสัยระหว่างกันเพิ่มเติมแม้ยังไม่ได้รับแจ้งจากผู้เสียหาย จากเดิมที่แลกเปลี่ยนกันเฉพาะรายชื่อบุคคลที่เข้าข่ายการกระทำความผิดตามฐานข้อมูลสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) และรายชื่อบุคคลที่ถูกแจ้งความหรือมีส่วนเกี่ยวข้องในเส้นทางการเงินทุจริตเท่านั้น เพื่อให้ธนาคารดำเนินการป้องกันภัยทุจริตได้ครอบคลุม รวดเร็ว เป็นมาตรฐานเดียวกันมากขึ้น
นอกจากนี้ ธปท. ยังกำหนดให้ธนาคารต้องพัฒนาการจัดการบัญชีม้าอย่างต่อเนื่อง เพื่อลดความเสี่ยงจากรูปแบบการหลอกลวงและพฤติกรรมของมิจฉาชีพในอนาคต ทั้งนี้ธปท.เห็นว่าการแก้ไขปัญหาภัยทุจริตทางการเงินให้ได้อย่างยั่งยืน จำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกฝ่าย ทั้งภาคธนาคาร ผู้ให้บริการโทรคมนาคม (Telco) หน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง รวมถึงประชาชนผู้ใช้บริการ ในการรับผิดชอบในหน้าที่ของตนเองตามขอบเขตมาตรฐานที่ผู้กำกับดูแลกำหนดไว้อย่างชัดเจน หากฝ่ายไหนละเลยการปฏิบัติตามเกณฑ์ที่กำหนด ควรที่จะต้องแสดงความรับผิดชอบและชดเชยความเสียหายที่เกิดขึ้น (Shared responsibility) โดย ธปท. จะประกาศกำหนดหน้าที่ความรับผิดชอบที่ธนาคารพึงปฏิบัติให้ชัดเจนเพื่อใช้ประกอบการพิจารณาความรับผิดชอบในความเสียหายที่เกิดจากอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ร่วมกับผู้กำกับดูแลด้านอื่นๆต่อไป