วันที่ 18 ก.พ.68 พนักงานสาวร้านชาบู นามสมมติว่า เอ อายุ 22 ปี เปิดเผยว่าเหตุการณ์เริ่มขึ้นเมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ช่วงเวลาประมาณ 5 ทุ่ม มีชายฉกรรจ์ 10 คน และหญิงอีก 10 คน รวมเป็น 20 คน บุกมาที่หน้าร้านชาบู โดยฝั่งกลุ่มผู้ก่อเหตุบุกมาเพื่อที่จะทำร้ายแฟนของตน แต่ทว่าไม่ได้มีการทำร้ายอะไรกัน กลุ่มผู้ชายได้กลับออกไป ยังคงเหลือกลุ่มผู้หญิงทั้งหมดอยู่ที่ร้าน แล้วอยู่ดีๆกลุ่มผู้หญิงประมาณ 5-6 คน ก็มารุมกระทืบและทำร้ายตนจนตนสลบ
ซึ่งในระหว่างนั้น ก็ได้ยินเสียงว่า เจ้าของร้านคาราโอเกะได้สั่งให้ ลูกน้องทำร้ายตน โดยบอกเอาให้ตนสลบ แต่ไม่ได้ร่วมวงกระทืบ พร้อมกับพูดจาว่า "แจ้งความไปก็ทำไรกูไม่ได้ ที่นี้กูใหญ่ ตำรวจกูรู้จักทั้งโรงพัก!" และยังบอกอีกว่าเจ้าของร้านคาราโอเกะ สามารถช่วยทุกคนในร้านได้ ทำร้ายได้เต็มที่ไม่มีใครทำอะไรได้
ซึ่งหลังเกิดเหตุ ตนไม่รับบาดเจ็บที่บริเวณคอและศีรษะ เป็นรอยฟกช้ำโน และได้ไปแจ้งความกับพนักงานสอบสวนสน.สายไหมแล้ว แต่คดีไม่มีความคืบหน้า ซึ่งผู้เสียหาย ระบุว่าพวกตนไม่เคยรู้จักกับแก๊งพนักงานคาราโอเกะมาก่อน
แต่เชื่อว่า สาเหตุเกิดมาจากก่อนหน้านี้ มีชายคนหนึ่งทำงานในร้านชาบูด้วยกัน และมีแฟนเป็นสาวคาราโอเกะ ปรากฏว่า แฟนสาวที่เป็นพนักงานร้านคาราโอเกะเกิดความหึงหวงน้องสาวของตน เพราะเข้าใจคิดว่ามายุ่งกับแฟนเขา ซึ่งจริงๆแล้วไม่ใช่ เลยทำให้ก่อนหน้านี้เมื่อเดือนที่แล้ว กลุ่มพนักงานร้านคาราโอเกะได้บุกมาที่ร้านแล้วมาตบหน้าน้องสาวตนแล้วรอบนึง พร้อมกับมีการปะทะคารม โดยฝั่งโน้นได้ด่าหาว่าตนปากดี กะว่ารอบนั้นได้มีการพูดคุยเคลียร์จนจบแล้ว เพราะคิดว่าเป็นเรื่องเข้าใจผิด แต่ตนยอมรับว่าเคยด่าสาวคาราโอเกะว่า ก่อนจะมาว่าน้องสาวตน ให้ดูแฟนของเขาก่อนไหม ว่ามีพฤติกรรมอย่างไร เลยเป็นเหตุทำให้กลุ่มฝั่งโน้นด่าว่าตนปากดี
หลังเกิดเหตุผู้เสียหายหวาดกลัวและไม่กล้ามาทำงาน เพราะกลัวว่ากลุ่มผู้ก่อเหตุจะมาดักทำร้ายตนอีก อีกทั้งเมื่อฝั่งคู่กรณีทราบเรื่องก็มีการแจ้งความ ก็ได้โพสต์ใน Facebook ทำนองว่า แล้วมึงคิดว่าคนอย่างพวกกูจะนิ่งเหรอ
ทั้งนี้ ผู้จัดการร้านชาบู ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ก่อนหน้านี้ได้มีการแจ้งความกับพนักงานสอบสวน จากเหตุการณ์ดังกล่าวใน 3 ข้อหา ได้แก่ บุกรุกในยามวิกาล ทำร้ายร่างกายและข่มขู่ ซึ่งพนักงานสอบสวน ยศร้อยตำรวจเอก รับแจ้งความแค่ 2 ข้อหา คือทำร้ายร่างกายและข่มขู่ แต่ไม่รับแจ้งความในข้อหาบุกรุก เพราะอ้างว่า จะแจ้งความอะไรเยอะแยะ ผู้จัดการร้านยังบอกอีกว่า ในวันที่เกิดเหตุตนได้เข้าไปห้าม พวกกลุ่มคาราโอเกะ แต่ก็มีชายคนหนึ่งซึ่งเคยเป็นพนักงานร้านชาบูแต่ไปทำงานร้านคาราโอเกะ พูดจาข่มขู่ว่าถ้าพี่ผู้จัดการเข้าไปยุ่งด้วยก็จะโดนด้วย เลยทำให้ตนกลัวเช่นเดียวกัน
นายเอกภพ ประสานตำรวจแล้วว่า ไม่รู้จักคนในร้าน และจะดำเนินคดีทั้งหมด รวมถึงบุกรุกด้วย ข่มขู่ผู้เสียหายและรู้จักตำรวจไม่เป็นความจริง นอกจากนี้จะให้ตรวจสอบตำรวจที่ไม่รับแจ้งความผู้เสียหายด้วย ถือว่าเหิมเกริม ท้าทายบ้านเมือง วันสองวันจับได้เลย ทำงานทำร้านได้ตามปกติ รวมทั้งให้ฝ่ายปกครองเขตสายไหมมาตรวจสอบร้านคาราโอเกะดังกล่าวด้วย.
Advertisement