เมื่อเวลา 02.00น.วันที่27ก.พ.68 เจ้าหน้าที่สนธิกำลังร่วมกับจนท.ชปข.2และนฝด.11กกล.บูรพาออกทำการลาดตะเวณป้องกันและสกัดกั้นการลักลอบข้ามแดนโดยผิดกฎหมายตามช่องทางธรรมชาติริมชายแดนบริเวณท้ายตลาดโรงเกลือและจุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึกอ.อรัญประเทศจ.สระแก้ว ตามนโยบายซีลเข้มชายแดนช่องธรรมชาติของนายกรัฐมนตรีและกองทัพบก
โดย เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการร่วมร้อยทพ.1201 ได้ตรวจพบหญิงต้องสงสัยสวมเสื้อยืดคอกลมสีขาวคลุมทับด้วยเสื้อแขนยาวลายพราง สีเทานุ่งกางเกงยีนส์ขายาวสีน้ำเงินพร้อมกระเป๋าสัมภาระลักลอบปีนรั้วชายแดนหลังสถานีรถไฟด่านพรมแดนบ้านคลองลึกฯ จากฝั่งปอยเปตประเทศกัมพูชาเข้ามาในประเทศไทย เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวไว้ ตรวจสอบพบเป็นคนไทยชื่อน.ส.มิ่งขวัญ(สงวนนามสกุล)อายุ 22 ปี ชาวจ.ลพบุรี ตรวจค้นไม่พบหนังสือเดินทางหรือเอกสารอนุญาตผ่านแดนแต่อย่างใด โดยอ้างว่าหลบหนีมาจากขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์จะกลับบ้านเกิดที่ จ.ลพบุรี เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวมาทำการซักถามที่กองร้อยทหารพรานที่1201จต.อ.20 ด่านพรมแดนคลองลึกอ.อรัญประเทศจ.สระแก้ว
จากการซักถามเบื้องต้นน.ส.มิ่งขวัญฯ อ้างว่าได้สมัครงานออนไลน์มาทางแอพหางานทางแอพลิเคชั่นเฟสบุ๊ค ให้มาทำงานออนไลน์ที่ปอยเปตฝั่งกัมพูชา ได้เงินเดือน2หมื่นบาท จึงเดินทางมาตั้งแต่วันที่1ม.ค.68 โดยนั่งรถโดยสารมาลงที่บขส.อรัญประเทศฯ จากนั้นมีชาวกัมพูชาขี่รถจยย.มารับไปส่งข้ามแดนช่องธรรมชาติเสียค่าใช้จ่ายไป 2,000 บาท
เมื่อข้ามไปฝั่งเขมรแล้วมีชาวเขมรขี่รถจยย.มารับไปส่งที่ตึก18ชั้น โซนน้ำพุกรุงปอยเปต จ.บันเตียเมียนเจย ประเทศกัมพูชา แล้วมีคนกัมพูชาเชื้อสายจีนมารับเข้าไปในตึก
เมื่อเข้าไปแล้วจึงรู้ว่าถูกหลอกให้มาทำงานเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ โดยมีเจ้าของเป็นคนจีน บังคับให้ทำงานประเภทชักชวนให้บุคคลมาลงทุนเพิ่มยอดขายสินค้าในรายการที่เขากำหนดตั้งแต่วันที่ 2 ม.ค.68 และบังคับให้ทำยอดให้ได้ตามเป้าหากทำไม่ได้ก็จะถูกทำร้ายร่างกายไม่ให้กินข้าวและไม่ให้ออกไปไหน
ซึ่ง น.ส.มิ่งขวัญฯ อ้างอีกว่า เมื่อทำงานครบ 1 เดือน นายจ้างชาวจีนก็ไม่ยอมจ่ายค่าจ้าง พร้อมทั้งข่มขู่ให้ทำยอดตามเป้าหากไม่ได้จะถูกทำโทษอย่างหนักตนกลัวมากจึงหาทางหลบออกหนีมา
ช่วงกลางดึกจึงได้หลบหนีออกมาจากตึกชั้น18 แล้วเจอชาวกัมพูชาขี่รถจยย.ผ่านมาจึงขอให้เขาช่วยพามาส่งบริเวณชายแดนช่องธรรมชาติตนจึงตัดสินใจปีนรั้วสถานีรถไฟจากฝั่งกัมพูชาข้ามเข้ามาในฝั่งไทย
ซึ่งรั้วมีความสูงเกือบ3เมตรแต่ตนต้องเสี่ยงดีกว่าถูกแก๊งคอลฯจับกลับไปตอนนั้นคิดอย่างเดียวขอให้ได้พ้นขุมนรกในเขมรให้ได้เท่านั้นจนกระทั่งมาถูกจนท.ทหารพรานไทยจับได้ก็ถือว่ายังดีที่ได้กลับประเทศไทยแล้ว
จากนั้นจนท.ได้ควบคุมตัวน.ส.มิ่งขวัญฯส่งให้พนักงานสอบสวนสภ.คลองลึกจ.สระแก้วดำเนินคดีและสอบสวนขยายผลถึงขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ต่อไป
Advertisement