เมื่อวันที่ 24 มี.ค.2568 ตำรวจสภ.กระนวน จ.ขอนแก่น นำตัวน.ส.เบญวรรณ อายุ 40 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับของสภ.ศรีสงคราม ในข้อหายักยอกทรัพย์นำตัวมาส่งสภ.ศรีสงคราม เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย
สืบเนื่องจากวันที่ 16 ก.ย.2567 นายธวัชชัย อุดมลาภ อายุ 27 ปีได้รับมอบอำนาจจากห้างหุ้นส่วนจำกัดศรีสงครามรถเช่าผู้เสียหายได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับร.ต.อ.จรินทร์ พิมพ์จันทร์ ปฏิบัติหน้าที่พนักงานสอบสวนเวรสภ.ศรีสงคราม จ.นครพนม โดยนำหลักฐานหนังสือสัญญาเช่ารถและภาพถ่ายน.ส.เบญวรรณ ผู้ต้องหาแจ้งว่า
เหตุเกิดเมื่อวันที่ 15 ก.ย.2567 เวลา 13.40 น.ได้มีน.ส.เบจวรรณ พร้อมลูกวัย 9 ขวบได้มาเช่ารถกระบะ ยี่ห้อฟอร์ด ทะเบียน กพ 5878 สกลนคร จากห้างหุ้นส่วนฯดังกล่าวเพื่อจะเดินทางไปจ.กาฬสินธุ์ โดยทำสัญญาและมัดจำเงิน 5,000 บาทค่าเช่าวันละ 1,500 บาท โดยมีกำหนดนัดส่งมอบรถคืนวันที่ 16 ก.ย.2567 เวลา13.40น.
กระทั่งเมื่อถึงวันกำหนดเวลาที่น.ส.เบญวรรณ จะนำรถมาส่งมอบคืนแต่ผู้เช่ารายนี้ไม่นำรถมาส่งคืนและไม่สามารถติดต่อได้ จึงเดินทางมาแจ้งความร้องทุกข์ไว้เป็นหลักฐาน
กระทั่งวันที่ 24 มี.ค.2568 ตำรวจสภ.กระนวน สามารถจับกุมน.ส.เบจวรรณ ได้ที่รีสอร์ตแห่งหนึ่งในอ.กระนวน จ.ขอนแก่น
โดยพฤติกรรมของน.ส.เบจวรรณ ได้ทำทีมาขอเช่ารถโดยมากับลูก 2 คน ติดต่อขอเช่ารถกระบะฟอร์ดเรนเจอร์ ซึ่งแจ้งว่าจะเช่ารถคันนี้เพื่อนำไปส่งลูกเข้าเรียนที่จ.กาฬสินธุ์ โดยขอเช่า 1 วัน ซึ่งคิดอัตราค่าเช่าวันละ1,500 บาท ค่ามัดจำ5,000 บาท หลังเช่าไปแล้วรอจนครบกำหนดจะส่งคืนรถ จึงโทรศัพท์หาลูกค้า แต่ติดต่อไม่ได้ จึงเปิดระบบจีพีเอสติดตามตัวรถ และเช็กกับทางศูนย์ใหญ่จึงทำให้ทราบว่ารถคันนี้อยู่ที่จ.ร้อยเอ็ด จึงได้พยายามติดต่อนางสาวเบญจวรรณ อีกครั้ง และบอกว่าให้นำรถมาคืนแต่ปลายสายก็บ่ายเบี่ยงขอเช่าต่อ และจะโอนค่าเช่าให้เพิ่ม 1,500 บาท กระทั่งไม่สามารถติดต่อกับนางสาวเบญจวรรณ ได้อีกเลย
จึงเข้าแจ้งความที่สภ.ร้อยเอ็ด ก่อนมารู้ทีหลังว่าน.ส.เบจวรรณ เป็นมิจฉาชีพมืออาชีพหลอกเช่ารถตามพื้นที่จังหวัดภาคอีสานตามใบสั่งนายทุน ที่ทางประเทศเพื่อนบ้านต้องการมากกว่า 20 คัน ซึ่งมีผู้เสียหายจำนวนมากแล้วนำไปขายและจำนำต่อ กระทั่งถูกจับกุมที่รีสอร์ตแห่งหนึ่งใน จ.ขอนแก่น
ทางผู้ต้องหายอมรับว่าได้มาเช่าจริงแต่เช่าให้เพื่อน รถนั้นส่งมอบให้เพื่อนไปแล้วที่ตลาดบายพาสสกลนคร แต่ไม่รู้อยู่ที่ใด และไม่ยอมบอกชื่อคนที่เช่าช่วงต่อไปอีกด้วย พร้อมกับก้มกราบเจ้าของรถ และบอกว่า “ขอโทษหนูผิดไปแล้วและขอไปชดใช้กรรมในคุก”
Advertisement