กรณีเฟซบุ๊กเพจ “ข่าวสารเมืองปราการ v2” โพสต์ภาพประกาศปิดกิจการของบริษัทแห่งหนึ่ง ที่ติดไว้บนป้าย ส่งผลให้พนักงานที่มาทำงานสับสน และต้องตกงานโดยไม่รู้ตัว เพราะไม่มีการบอกกล่าวล่วงหน้า เมื่อวันที่ 10 มี.ค.64 ที่ผ่านมา ตามที่เป็นกระแสบนโลกออนไลน์นั้น
โดยระบุข้อความว่า “สมาชิกแจ้งว่าบริษัทแห่งหนึ่งในนิคมอุตสาหกรรมบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ ประกาศปิดโรงงานเพราะพิษเศรษฐกิจ โดยพนักงานไม่รู้ล่วงหน้า ก่อนหน้านี้ทางบริษัทแจ้งให้หยุดงาน 4 วัน โดยแจ้งว่าสินค้ามาไม่ทัน ก่อนที่จะประกาศปิดโรงงานในวันนี้ช่วงบ่ายที่ผ่านมา และยังไม่ได้พูดคุยเรื่องเงินชดเชย พนักงานกว่าพันคนเศร้ากลัวถูกลอยแพ ซึ่งในวันพรุ่งนี้จะเดินทางไปเรียกร้องที่หน้าโรงงาน ในเวลา 07.00 น. อีกครั้ง”
ล่าสุดวันที่ 11 มี.ค.64 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ลงพื้นที่ไปยังบริษัทดังกล่าว หมู่ที่ 17 ซอยนิคมอุตสาหกรรมบางพลี 7 ต.บางเสาธง อ.บางเสาธง จ.สมุทรปราการ พบว่ามีใบประกาศปิดกิจการบริษัท ซึ่งทางพนักงานหลายร้อยคนมารวมตัวปักหลักเรียกร้องอยู่ที่หน้าโรงงาน และทราบว่าได้เดินทางไปร้องเรียนกับสถาบันพัฒนาฝีมือแรง
ต่อมาทีมข่าวเดินทางตามไปยังสถาบันพัฒนาฝีมือแรง สมุทรปราการ พบว่ามีพนักงานหลายร้อยคน มารวมตัวปักหลักเพื่อนมาเขียนคำร้อง ในการร้องเรียน ดำเนินเรื่องเขียน คร.7 และยื่นประกันว่างงาน ทั้ง 2 อย่างนี้เป็นเบื้องต้น
โดยตัวแทนของพนักงาน กล่าวว่า ทางโรงงานไม่มีการแจ้งให้พนักงานทราบล่วงหน้า ว่าจะมีการเลิกจ้าง เพิ่งจะมาทราบเมื่อทางโรงงานปิดประกาศเมื่อช่วงเย็นของเมื่อวานนี้ และมีพนักงานอีกจำนวนมากที่เพิ่งมาทราบเมื่อมาทำงานเช้านี้ ซึ่งพนักงานทุกคนทุกแผนกก็เข้าใจภาวะเศรษฐกิจเช่นนี้ แต่ทางโรงงานกลับไม่มีตัวแทนออกมาเจรจาเรื่องการเยียวยาตามกฎหมาย ทำให้พนักงานทุกคนต้องมารวมตัวเรียกร้องสิทธิ์
จากนั้นพนักงานทั้งหมดได้ย้ายไปรวมตัวกันที่ศูนย์พัฒนาฝีมือแรงงานอำเภอบางเสาธง ซึ่งมีเจ้าหน้าที่ของกระทรวงแรงงาน มาตั้งโต๊ะบริการพนักงานให้ยื่นเอกสารตามขั้นตอนของกฎหมาย พร้อมให้คำปรึกษา โดยทางเจ้าหน้าที่จะเป็นคนกลางในการเจรจา เพื่อหาข้อยุติและบรรเทาความเดือดร้อนของทุกฝ่าย นอกจากนี้กรมจัดหางาน ก็ยังมีการตั้งโต๊ะรับสมัครงานไว้บริการพนักงานที่ประสงค์จะหางานทำต่ออีกด้วย
หลังจากที่ทางเจ้าหน้าที่ ได้เปิดให้พนักงานเขียนคำร้อง และยื่นเอกสารแล้ว จึงให้พนักงานแยกย้ายกันกลับที่พักอาศัยก่อน จากนั้นจะมีการนัดเจรจาทั้งสองฝ่ายอีกครั้งอีกครั้ง
ขณะที่นางพงภัสสร บุตรงาม อายุ 46 ปี ชาว จ.ลำพูน กล่าวทั้งน้ำตาว่า ตนทำงานที่โรงงานเเห่งนี้มา 20 ปี ปัจจุบันมีตำเเหน่งเป็นหัวหน้างาน ได้เงินเดือน 22,000 บาท โดยก่อนที่โรงงานจะลอยเเพพนักงานนั้น เคยมีสัญญาณบ่งบอกตั้งเเต่ต้นปี 64 มีการจ่ายเงินเดือนให้พนักงานเเค่ 75% โดยอ้างว่าบริษัทขาดทุน เเล้วจ่ายส่วนที่ค้างในช่วงต้นเดือนก.พ.64 หลังจากนั้นก็มีการใช้งานอย่างหนัก เร่งงานจนเเทบไม่ได้พัก "เราก็ทำให้ เราทำให้ด้วยใจ เเม้งานจะเหนื่อยเเค่ไหนเราก็ยอมทำ เเต่นี่หรือคือสิ่งที่เราได้ตอบเเทน ทำไมทำกับเราเเบบนี้"
ในตอนนี้ครอบครัวตนตกงานพร้อมกัน 2 คน เนื่องจากก่อนหน้านี้เดือนก.พ.64 ลูกชายเพิ่งตกงาน ตอนนี้ตนจึงเครียดมากมาก เพราะเหลือเพียงสามีที่ทำงานรับจ้างรายวัน 400 บาท และยังต้องเลี้ยงลูกชายคนเล็ก อายุ 4 ขวบ จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยเหลือ
จากการพูดคุยกับนายต่อศักดิ์ ชูเกียรติคุณ อายุ 58 ปี วินจักรยานยนต์ที่อยู่ด้านหน้าโรงงาน บอกว่า ตนขี่วินอยู่ที่นี่มา 10 ปีเเล้ว เมื่อก่อนมีวินมากถึง 30 คัน เเต่หลังจากโรงงานปิด เหลือตนเพียงคันเดียว ส่วนเรื่องรายได้เมื่อก่อนได้วันละ 500-1,000 บาท ผู้โดยสารที่มาใช้บริการหลัก คือ พนักงานในโรงงานนี้ เเต่หลังจากปิดโรงงาน เงียบเหงามาก ตอนนี้เหลือรายได้เเค่ 200 บาท ทำให้ได้รับผลกระทบโดยตรง เเต่ก็คงไปไหนไม่ได้ เพราะอยู่ที่นี่มานานเเล้ว
Advertisement