นายเสกสกล ระบุว่า หมอชลน่าน ควรมองเปิดกว้าง อย่ามองแต่มุมนักการเมืองฝ่ายค้านน้ำเน่า ที่มองแต่ว่าตัวเองดีอยู่คนเดียว
พร้อมขอแนะนำหมอชลน่าน ในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทยคนใหม่ ไม่ต้องทำเป็นมาปรับเปลี่ยนพรรคของตัวเองใหม่ ให้ทันสมัยขึ้น เอาคนตระกูลชินวัตรเข้ามา ตบตาประชาชน เพื่อหวังคะแนนความนิยม แต่เตรียมเอานายใหญ่กลับบ้าน และทำให้พ้นผิด เพราะคงไม่สำเร็จ เนื่องจากประชาชนเขารู้ทันว่าวางแผนอะไรไว้
หากอยากได้รับความนิยมจากประชาชนจริง ไม่ต้องถึงกับปรับเปลี่ยนพรรคใหม่ แค่ปรับพฤติกรรมกรรมคนในพรรคให้คิดถึงประชาชน ทำประโยชน์ให้ประชาชนอย่างแท้จริง ไม่คิดถึงประโยชน์ตัวเองแค่นี้ก็พอแล้ว
"พอได้รับตำแหน่งหัวหน้าพรรคแล้วต้องวางตัวให้คนเชื่อถือ เป็นหัวหน้าพรรคไม่กี่นาที ไม่กี่ชั่วโมง ก็เริ่มให้ปากใช้วาจาเที่ยวแขวะแทะโลมทำลายคนอื่นบิดเบือนข้อเท็จจริง พฤติกรรมเช่นนี้ พรรคเพื่อไทยถึงแม้เปลี่ยนหัวหน้าพรรคใหม่คงไม่ได้ประโยชน์อะไร ก็คงกลับไปเป็นพรรคการเมืองน้ำเน่าเหมือนเดิม ไม่มีวันที่จะเป็นสถาบันการเมืองให้ประชาชนได้ฝากผีฝากไข้ได้อีกต่อไป"
นอกจากนี้ นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ยังกล่าวต่อว่า ว่าพรรคเพื่อไทย ก็คงจะเป็นเช่นเดียวกันกับที่นายจอม เพชรประดับได้พูดเอาไว้ ให้เปลี่ยนเป็นพรรคพวกชินวัตร และก็ทราบดีว่าพรรคเพื่อไทยมีนายทักษิณครอบงำมาตั้งแต่ไทยรักไทย พลังประชาชน จนมาถึงเพื่อไทย เป็นพรรคของตระกูลชินวัตรอยู่แล้วและไม่มีเรื่องอะไรที่น่าตกใจหรือแปลกใจที่เอานางสาวแพทองธาร ชินวัตร หรืออุ๊งอิ๊งลูกสาวคนเล็กมาเป็นที่ปรึกษาพรรค ไม่มีอะไรเกินความคาดเดา
ส่วนคนที่ยังอยู่ในพรรคเพื่อไทย ก็เหมือนกับพนักงานบริษัทที่กินเงินเดือนจากบริษัทชินวัตร แต่สิ่งสำคัญคือนายทักษิณไม่มีวันที่จะปล่อยหรือไม่มีวันที่จะ หยุดครอบงำพรรคเพื่อไทยอย่างแน่นอน
นายเสกสกล ยังรู้สึกเห็นใจคุณอุ๊งอิ๊ง ที่เข้ามาเล่นการเมือง เพราะนายทักษิณกำลังสร้างตราบาปให้กับคนในครอบครัว ซ้ำแล้วซ้ำเล่า ไม่ว่าจะเป็นนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์และนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และเครือข่ายอดีตรัฐมนตรีหลายคนที่ติดคุกติดตะราง
และการที่คุณอุ๊งอิ๊ง เข้ามาเล่นการเมือง ก็จะถูกครอบงำ ชักใย หรือเป็นการสืบทอดอำนาจ เป็นทายาทอสูร ซึ่งสิ่งที่ตนเป็นห่วงคือกลัวว่าจะเจอวิบากกรรมเหมือนนายทักษิณ และนางสาวยิ่งลักษณ์ เพราะ ลูกไม้หล่นไม่ไกลต้นพ่อสอนอย่างไรจะไปทำตามและสุดท้ายคุณอุ๊งอิ๊งจะไม่มีความคิดของตัวเอง ถูกครอบงำ ซึ่งคุณอุ๊งอิ๊งยังเป็นเด็ก ยังมีอนาคตไกล ไม่อยากต้องมาเจอกับประวัติศาสตร์ซ้ำรอย
ส่วนข้อแตกต่างของคุณอุ๊งอิ๊ง และนางสาวยิ่งลักษณ์ เห็นอยู่ข้อเดียวคือความเป็นคนรุ่นใหม่ แต่สิ่งที่วิตกกังวลถึงแม้จะเป็นคนรุ่นใหม่ แต่หากย้อนไปสมัยนางสาวยิ่งลักษณ์ เป็นนายกฯ ถูกมองเป็นคนรุ่นใหม่ แต่ไม่สามารถตัดสินใจในการบริหารราชการแผ่นดินได้ด้วยตัวเอง ถูกครอบงำโดยนายทักษิณและคุณเยาวภา ต้องทำงานภายใต้คำสั่งการกำกับดูแลของพี่น้องแม้กระทั่งการออก พ.ร.บ.นิรโทษกรรมสุดซอย เพื่อที่จะเอานายทักษิณกลับบ้านจนเกิดปัญหาวุ่นวายในบ้านเมือง
“เช่นเดียวกันกับการให้คุณอุ๊งอิ๊งมาเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคสุดท้ายก็จะถูกครอบงำ ไม่มีสิทธิ์คิดอะไรที่จะตัดสินใจเอง เนื่องจากมีทั้งพ่อ และอา สั่งการอยู่เบื้องหลัง”
นายเสกสกลยังระบุถึงหัวหน้าพรรคเพื่อไทยคนใหม่ เป็นคนที่ตนเองรู้จักดี เป็น ส.ส.พรรคไทยรักไทยมาด้วยกัน โดยมองว่าหมอชลน่านคือลิ้วล้อ แค่หมากตัวหนึ่งของคุณทักษิณ แค่พนักงานบริษัท ไม่ได้ให้ราคากับการมาเป็นหัวหน้าพรรค
ขณะที่คณะกรรมการบริหารพรรคก็ไม่มีอะไรที่จะมาทำให้พรรคเพื่อไทยหรือพรรคชินวัตร เปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้นเพราะรู้ว่าพรรคนี้มีเป้าหมายคือการอยากเข้ามามีอำนาจรัฐ หาทางออกกฎหมายล้างความผิดให้คุณทักษิณ คุณยิ่งลักษณ์ และพากลับประเทศ
“คนที่จะมาเป็นหัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทย สุดท้ายไม่ได้มีวิสัยทัศน์หรือมีความคิดที่จะทำให้พรรคเพื่อไทยมาเป็นสถาบันทางการเมืองที่เป็นที่พึ่งพาของประชาชน และอย่าหวังว่าพรรคเพื่อไทยจะเป็นที่พึ่งพา ฝากผีฝากไข้กับประชาชนได้ เพราะพรรคเพื่อไทย หรือพรรคชินวัตร เพียงต้องการเข้ามามีอำนาจรัฐ และออกกฏหมายหาทางช่วยคุณทักษิณและนางสาวยิ่งลักษณ์ เท่านั้น
สำหรับหัวหน้าพรรค ขึ้นเวทีแทนที่จะใช้วิสัยทัศน์ที่ต้องการให้ประชาชนได้ชื่นชม แต่ก็ใช้วาทะตำหนินายกฯ บริหารงานไม่ดี เพียงแค่เริ่มต้นเป็นหัวหน้าพรรค ยังใช้วิธีการเล่นการเมืองแบบน้ำเน่า ไม่รักษาคุณภาพและกิริยาทางการเมืองของคนเป็นหัวหน้าพรรคใหม่ ตนเองมองว่าแบบนี้ไม่ใช่นักการเมืองรุ่นใหม่ตามที่พรรคตั้งไว้ ยังเป็นนักการเมืองน้ำเน่าโสโครกที่ใช้พฤติกรรม เดิมๆ”
นายเสกสกลยังระบุถึงความเคลื่อนไหวพรรคพลังประชารัฐว่า เป็นเรื่องของหัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคยืนยันนายกฯ ไม่ได้เข้าไปก้าวก่าย เพราะไม่ได้เป็นกรรมการบริหารพรรคหรือสมาชิกพรรค ทั้งนี้การเปลี่ยนแปลงโครงสร้าง การปรับปรุงพรรค ของพรรคการเมืองยังถือเป็นเรื่องปกติ เมื่อใกล้เวลาจะเข้าสู่สนามเลือกตั้งทุกพรรคก็ต้องมีกลยุทธ์มีกลวิธีในการวางแผนกับการเตรียมการในการสู้ศึกเลือกตั้งในเวลาที่เหลืออีกปีเศษ ดังนั้นการบริหารจัดการในแต่ละพรรคก็ต้องขยับตามปกติ.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- จอม เปิด แรมโบ้ หนุน แท็กทีมแซะ เพื่อไทย เปลี่ยนชื่อเป็น พรรคพวกชินวัตร
- แรมโบ้ เสกสกล ซัด ทักษิณ เศรษฐีขี้โกง อวดโง่ เก่งแต่โม้ ไร้สัจจะ
- แรมโบ้ เสกสกล ซัด ณัฐวุฒิ หิวแสง เดินตามหลังเด็กม็อบสามกีบ อับอายขายขี้หน้าแทน
Advertisement