จากกรณีวงจรปิดที่ "PJออโต้บอดี้ BY ช่างต้น" หมู่ 11 ตำบลบางบัวทอง อำเภอบางบัวทอง จังหวัดนนทบุรี ซึ่งมีนายนิยม โพธิ์จัตุรัส อายุ 43 ปี เป็นเจ้าของอู่ บันทึกจับภาพคนร้ายบุกเข้ามาขโมยรถยนต์เก๋งโตโยต้า รุ่นคัมรี่ สีขาวมุก ทะเบียน 1 กภ-4366 กรุงเทพฯ ออกจากอู่ซ่อมรถยนต์
เหตุเกิดในช่วงเวลา 04.00 น. ของวันที่ 18 ตุลาคม 2564 หลังลูกค้านำเข้ามาให้ทำสี ก่อนรถหายได้เพียง 3 วัน แต่ยังไม่ทันได้ลงมือทำก็ถูกคนร้ายบุกเข้ามาขโมยรถไปแล้ว
ทางเจ้าของอู่ได้เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.บางบัวทอง ในวันที่รถหาย แต่เวลาผ่านมาเดือนกว่าแล้ว ยังไม่มีเบาะแสติดตามรถยนต์กลับมาได้เลย ทำให้อู่ได้รับความเดือดร้อน เพราะทางเจ้าของรถเรียกร้องให้ชดใช้เงินกว่า 400,000 บาท มิหนำซ้ำยังมีมิฉาชีพ นายหมู (นามสมมุติ) คนรู้จักที่อู่ไปปรึกษา สุดท้ายทำทีเป็นเจอรถแต่มีค่าไถ่ 150,000 บาท ทางหุ้นส่วนอู่เชื่อใจโอนไปสุดท้าย 2 วัน ผ่านไปนายหมูมาตีหน้าเศร้าบอกว่าถูกคนร้ายดักชิงเงินไป
ทางอู่มอบหลักฐาน แชตไลน์ที่พูดคุยกับชายคนดังกล่าว พบว่ามีสิ่งหนึ่งที่ทำให้อู่เชื่อใจคือการถ่ายรูปรถคัมรี่ที่พบให้ดู มีการอ้างว่า รถถูกแปลงท้าย และเปลี่ยนแม็กเดิม ๆ แต่กลับปิดป้ายทะเบียน ตั้งแต่วันที่ 11 พ.ย. 64 มิหนำซ้ำยังส่งแชต บุคคลที่ใช้ชื่อไลน์ว่า “คุณจำนำรถ” ให้ดูว่ามีการคุยกับบุคคลที่ 3 เป็นคนที่ครอบครอบรถอยู่ขณะนี้ จนทางอู่เชื่อใจ นัดมอบเงินสด 25,000 บาท ให้เป็นเงินมัดจำ เพราะชายคนนี้พยายามเร่งรัดว่าถูกทักมาพร้อมจ่ายมัดจำหรือไม่
กระทั่งนัดหมายกันวันที่ 16 พ.ย.64 ให้ชายคนนี้เอาบัตร ATM ไปก่อนเมื่อถึงที่หมายค่อยโอนเงิน แต่เมื่อถึงที่หมายชาวคนนี้อ้างว่า กดได้แค่ 50,000 บาท และไปเปิดบัญชีเอง ให้ทางอู่โอนเพิ่ม 70,000 บาท ก่อนแคปหน้าจอว่าแบตเหลือ 3% จากนั้นอู่ติดต่อไม่ได้ จนเช้าวันที่ 17 พ.ย. อ้างว่าถูกทำร้ายชิงเงินไป
นายนิยม หรือ ช่างต้น เจ้าของอู่รถยนต์ เปิดเผยว่า อู่นี้เปิดบริการมานานเกือบ 3 ปี ไม่เคยมีปัญหาอะไรเลย พอรถหายก็รีบแจ้งความแต่ผ่านเป็นเดือนแล้ว ได้รับความคืบหน้าว่าแค่เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังดำเนินการอยู่ ตำรวจไม่ได้นิ่งเฉย ส่วนเบาะแสคนร้ายบอกไม่ได้เดี๋ยวเสียรูปคดี ส่วนรถยังอยู่ที่ จ.กาญจนบุรี แต่ตนเองก็นิ่งเฉยไม่ได้เพราะลูกค้าเริ่มบีบ ตอนแรกตกลงกัน 6 เดือน ในการชดใช้ให้ตนหารถใหม่ให้แบบดาวน์ใหม่ โดยให้ตนผ่อนแทน 12 เดือน ก่อนกลับคำว่าไม่อยากได้รถแล้ว ให้เวลา 20 วัน เรียก 390,000 บาท ตนก็งงว่าทำไมกลับคำ เพราะรถมือ 2 ที่จะดาวน์สภาพดีให้อยู่แล้ว เพราะลูกค้ารายนี้ติดต่อซ่อมกับตนกันมาตลอด
ทั้งนี้ ที่ผ่านมาพยายามหารถติดตามรถให้ จนตัดสินใจปรึกษานายหมู ชายที่เคยเข้าออกอู่ ตนไว้ใจมาก เพราะชายคนนี้ได้เจอกันช่วงเช้าของวันที่ 17 พฤศจิกายน ก่อนวันที่รถหาย ตนเองจึงขอความช่วยเหลือไปว่ารถลูกค้าหาย จนผ่านไป 2 สัปดาห์ ชายคนนี้มาบอกว่าเจอรถที่ จ.กาญจนบุรี ว่ารถจอดอยู่สภาพยังดี ตนเองดีใจจึงขอให้ชายคนนี้นัดสถานที่กับบุคคลที่ครอบครองรถอยู่ แต่สุดท้ายชายคนนี่หายหน้าไป 2 วัน ก่อนกลับมาบอกว่าโดนตำรวจจับ ในคดีรับซื้อของโจร
โดยวันที่ 16 พฤศจิกายน 2564 มานัดเจอกันที่อู่ โดยให้ชายคนนี้จอดรถฮอนด้าไว้ที่อู่ เพื่อเป็นการยืนยันว่าจะต้องนำรถมาคืน แต่ปรากฏว่าคืนนั้นชายคนนี้กลับเงียบหายไป กระทั่งวันที่ 17 พฤศจิกายน 2564 มาที่อู่ออกอุบายว่าถูกทำร้าย ตนก็ทำอะไรไม่ได้ สุดท้ายก็ต้องให้ชายคนนี้เอารถกลับไป ตอนนี้ก็รู้เห็นใจที่โดนทำร้าย แม้ไม่เห็นบาดแผล แต่ตนก็ทำอะไรไม่ได้ หลังจากวันนั้นก็ติดต่อชายคนนี้ไม่ได้เลย อีกทั้งรั้วเสียจึงนำรถออกไปได้ง่าย
สำหรับตนสงสัยชายคนนี้มาก เพราะจำได้ว่าวันที่ 17 ตุลาคม 2564 ตนพบชายคนนี้ซึ่งเอารถมาฮอนด้า ชิตี้ มาให้ดูแผลรถตีราคา นาทีนั้นชายคนนี้มีการวนดูรถคัมรี่ทั้งเปิดประตู ดูทุกซอกทุกมุม ก่อนจะออกไปจากอู่ จากนั้นช่วงเย็นตนจะเป็นคนเดินเก็บกุญแจที่รถ แต่ของคัมรี่ ไม่พบกุญแจ คิดว่าลูกน้องเอาไป เพราะเช้าอีกวันลูกน้องก็ต้องขับเข้าโกดังไปซ่อม จนมาช่วงเช้ารถหาย จึงคิดว่าขายคนนี้เอากุญแจไปก่อนหน้านี้หรือไม่
ล่าสุดที่ สน.โคกคราม มีรายงานว่ารถคัมรี่คันดังกล่าวแล้ว เจ้าของรถตามสืบเองจนพบว่ารถอยู่ในเต็นท์รถย่านนวมินทร์ ก่อนนำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.โคกคราม ดำเนินการยึดรถมาตรวจสอบ พร้อมเรียกผู้เกี่ยวข้องทั้งเต็นท์รถ และชายที่อ้างว่าเป็นเจ้าของรถมาสอบสวน
ล่าสุดเมื่อเวลา 20.00 น. นางสาวพิมพ์ณภัส นวลหงษ์ อายุ 27 ปี เจ้าของรถ และแฟนหนุ่ม พาทีมข่าวไปชี้รถเพื่อยืนยันว่ารถเป็นของเจ้าตัวจริง พร้อมเปิเผยว่า ตอนนี้ได้รถคืนมาก็จริงแต่ยังอยู่ในกระบวนการของกฎหมาย จึงต้องรอการสืบสวนเพิ่มเติม ขณะเดียวกันประสานไปยังร้อยเวรที่สถานีตำรวจภูธรบางบัวทองแล้ว ตนมั่นใจว่ารถคันนี้เป็นของตนเองร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่ตอนนี้แค่จะทำอย่างไรให้คนอื่นมั่นใจไปด้วย ตนก็พร้อมพิสูจน์ ขณะที่คู่กรณีได้แยกสอบ ตนเองไม่ได้ยินคำให้การกับตำรวจ
สำหรับตนยอมรับว่าคุ้มมากที่ตัดสินใจตามเรื่องด้วยตนเอง หลังโพสต์ไปโดยไม่อายว่ารถหาย ก็มีพลเมืองดีติดค่อมาว่าเจอรถในเต็นท์รถแห่งหนึ่ง ก็พยายามติดต่อพลเมืองดี ก่อนวางแผนลงพื้นที่ไปซุ่มดูรถด้วยตัวเอง และเดินทางไปที่เต็นท์รถ โดยมีการแจ้งความไว้ด้วย พบในเต็นท์รถ รถจอดตรงกลาง และวนรถไปที่เต็นท์คนในเต็นท์พยายามให้ตนจัดไฟแนนซ์รถคันนี้ ตนก็ขอปรึกษาพ่อ และออกมาปรึกษาตำรวจก่อนจะเข้าไปทำทีว่าจะซื้อโดยดูรอบคันจนแน่ใจ และให้ทางตำรวจปรากฏตัว
สำหรับตนความรู้สึกก่อหน้านี้เครียด แต่วันนี้สบายใจ พร้อมขอบคุณทุกคนที่ยืนมือมาช่วยเหลือ ทั้งเพื่อน ชุดสืบ แม้จะไม่พอใจตำรวจ สภ.บางบัวทอง แต่รู้ว่าเป็นหน้าที่ที่จะสงสัยตนได้ ส่วนอู่ตนไม่ได้ติดต่อหลังตนได้รับเงินค่าน้ำมันจากอู่ 5,000 บาทเท่านั้น
Advertisement