เสือพ่นไฟ ชนะคดี หมีพ่นไฟ ปมละเมิดเครื่องหมายการค้า ศาลสั่งชดใช้ 10 ล้าน สูงสุดในประวัติศาสตร์

เสือพ่นไฟ ชนะคดี หมีพ่นไฟ ปมละเมิดเครื่องหมายการค้า ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลาง นัดฟังคำพิพากษาคดีที่ น.ส.นันทนัช เอื้อศิริทรัพย์ และบริษัท รวยสบายสบาย จำกัด เจ้าของแบรนด์ชานมไข่มุก "Fire Tiger : เสือพ่นไฟ" โจทก์ร่วมที่ 1 และ 2 ร่วมฟ้อง บุคคลธรรมดารวม 2 ราย ซึ่งเป็นเจ้าของธุรกิจแฟรนไชส์เครื่องดื่มชานมไข่มุก “หมีพ่นไฟ” และ “The Fire Bear” เป็นจำเลยในฐานความผิดละเมิดเครื่องหมายการค้าตาม พ.ร.บ.เครื่องหมายการค้า พ.ศ. 2534 พร้อมขอศาลให้สั่งห้ามไม่ให้จำเลยกระทำการละเมิดสิทธิในเครื่องหมายการค้าและการบริการของโจทก์ต่อไป ให้ยุติการใช้และจำหน่ายเครื่องหมายการค้าที่เหมือนคล้ายกับโจทก์

ทั้งนี้ นายสืบสิริ ทวีผล ทนายความฝ่ายโจทก์ กล่าวว่า คดีดังกล่าวศาลพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดละเมิด ฐานลวงขาย โดยจำเลยมีการใช้เครื่องหมายการค้า ลักษณะการตกแต่งร้านค้า และวิธีการเสิร์ฟเครื่องดื่มผ่านปากสัตว์ที่มีลักษณะเหมือนคล้ายกับธุรกิจของโจทก์ ศาลจึงเห็นว่า การกระทำของจำเลยทั้งสองมีความผิดฐานลวงขาย ให้ชดใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์ เป็นจำนวนเงิน 10,000,000 บาท ซึ่งถือเป็นค่าเสียหายในคดีเครื่องหมายการค้าที่สูงที่สุดในประวัติศาสตร์ของประเทศไทย

ด้าน ทนายสืบสิริ ระบุว่า จากที่ศาลพิเคราะห์ เห็นว่าจำเลยใช้คำว่า “หมีพ่นไฟ” และ “The Fire Bear” เป็นชื่อร้านค้า สินค้าและบริการ กิจการ และเป็นชื่อชานมไข่มุก รวมถึงการใช้ประติมากรรมหัวหมีพ่นไฟ ที่มีลักษณะอ้าปากเป็นช่องส่งสินค้า ชานมไข่มุก ให้แก่ลูกค้านั้น ย่อมทำให้บุคคลทั่วไปเข้าใจว่า เป็นร้านที่มีเจ้าของเดียวกัน หรือสินค้ามาจากแหล่งเดียวกัน ถือเป็นการลวงให้ประชาชนเชื่อว่า สินค้าหรือการค้าของจำเลย เป็นของโจทก์หรือเกี่ยวข้องกับโจทก์ จึงถือเป็นการกระทำละเมิด ฐานลวงขาย

สำหรับการกำหนดค่าเสียหายนั้น ศาลให้จำเลยทั้ง 2 ชำระค่าเสียหายให้แก่โจทก์ เป็นจำนวนเงิน 10,000,000 บาทพร้อมดอกเบี้ยตามกฎหมายนับแต่วันฟ้อง รวมถึงชำระค่าเสียหาย เดือนละ 100,000 บาท นับแต่วันฟ้อง จนกว่าจำเลยทั้งสองจะยุติการกระทำละเมิดดังกล่าว อีกทั้งทางโจทก์ยังได้ยื่นฟ้องจำเลยเป็นคดีอาญา ซึ่งยังอยู่ในระหว่างการพิจารณาของศาล โดยคดีทางอาญาดำเนินการฟ้องในข้อหาเดียวกัน โดยอยู่ระหว่างขั้นตอนของการพิจารณา

อย่างไรก็ตาม น.ส.นันทนัช เปิดเผยว่า อยากให้เป็นกรณีตัวอย่างสำหรับคนที่ทำธุรกิจว่าการได้รับแรงบันดาลใจและการคัดลอกเลียนแบบนั้นแตกต่างกัน อยากให้ทำธุรกิจโดยการให้เกียรติกัน ไม่ใช่ลอกเลียนแบบโดยจงใจหรือตั้งใจเหมือนกับกรณีนี้ ไม่เช่นนั้นจะมีผลทางกฎหมายได้

ต่อมา เพจเฟซบุ๊ค Fire Tiger by Seoulcial Club ได้โพสต์ภาพพร้อมข้อความว่า ทางเสือพ่นไฟ FIRE TIGER เราให้ความสำคัญกับทรัพย์สินทางปัญญาและการทำธุรกิจอย่างจริงจังมาตั้งแต่แรก เราจดทะเบียนขอรับความคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญาทุกอย่างมาตั้งแต่ต้น รวมถึงในทุกๆแบรนด์ในเครือของเรา

การได้รับชัยชนะในวันนี้ของแบรนด์เสือพ่นไฟ FIRE TIGER ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีที่เรามองว่าอยากให้คนทำธุรกิจทุกคนตระหนักและให้ความสำคัญถึงการทำธุรกิจอย่างให้เกียรติกันและกัน การได้รับแรงบันดาลใจจากธุรกิจของเรา กับการจงใจลอกเลียนแบบ ไม่เหมือนกัน และอาจมีผลทางกฎหมายได้

แบรนด์ชานมไข่มุก เสือพ่นไฟ FIRE TIGER เปิดให้บริการตั้งแต่ปี 2561 ปัจจุบันมี 16 สาขาทั่วประเทศ และอีก 13 สาขาในต่างประเทศทั่วโลก ได้แก่ ประเทศมาเลเซีย อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ กัมพูชา และเตรียมขยายสาขาใหม่ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ในต้นปี 2565 ในขณะที่แบรนด์ชานมไข่มุก หมีพ่นไฟ มีจำนวนสาขามากกว่า 200 สาขาทั่วประเทศภายในระยะเวลาเพียง 2 ปี ตั้งแต่เดือนส.ค. 62 เสือพ่นไฟ FIRE TIGER ขอขอบพระคุณทุกๆกำลังใจที่มอบให้เรามาโดยตลอดนะคะ ขอขอบพระคุณจากใจจริงค่ะ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

- ชาวเน็ตสงสัย ล่อซื้อน้ำส้ม 500 ขวด ซ้ำรอย ล่อซื้อกระทงผิดลิขสิทธิ์ หรือไม่
- ปุ้ย TPN เคลียร์ชัด หลังมีข่าวลือ เรื่องลิขสิทธิ์มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์หลุดมือ
- จบด้วยดี "มิกซ์ เฉลิมศรี" จ่ายค่าเสียหาย 5 หมื่น ปมละเมิดลิขสิทธิ์เพลงวง Safeplanet