โฆษก ทร.ยอมรับ ชายเมากร่าง ขู่ย้ายตำรวจสัตหีบทั้งโรงพัก อ้างเพื่อน "บิ๊กโจ๊ก" พบเป็น ทหารเรือจริง ล่าสุดสั่งธำรงวินัย-ตั้งกรรมการสอบแล้ว
จากกรณีมีการเผยแพร่คลิปภาพเหตุการณ์ในร้านอาหารแห่งหนึ่ง ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจสัตหีบ ได้ออกตรวจการกระทำผิด พบหนุ่มใหญ่รายหนึ่ง ซึ่งจากการแต่งตัวและท่าทางคาดการว่า เป็นเจ้าหน้าที่ทหารเรือที่ประจำการอยู่ในเขตบริเวณนั้น ต่อว่าตำรวจอย่างรุนแรง มีการปาขวดแก้วใส่เจ้าหน้าที่ พูดจาที่หยาบคาย อีกทั้งมีการอ้างความสนิทสนมกับ "บิ๊กโจ๊ก" พล.ต.ท. สุรเชษฐ์ หักพาล และนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่อีกหลายคน พร้อมขู่ย้ายตำรวจ สภ.สัตหีบ ทั้งโรงพัก
หลังเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว พ.ต.อ.ปัญญา ดำเล็ก ผกก.สภ.สัตหีบ ได้มีหนังสือแจ้งถึง ผู้บัญชาการฐานทัพเรือสัตหีบ ขอตรวจสอบบุคคลดังกล่าว โดยระบุว่า ขณะนั้น หน้าที่ตำรวจสถานี สภ.สัตหีบ ได้ร่วมกันออกตรวจป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชา และการกระทำอันเป็นการฝ่าฝืน คำสั่งคณะกรรมการโรคติดต่อ จ.ชลบุรี
เมื่อมาถึงร้านอาหารดังกล่าวพบว่ามีการจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ จึงได้แสดงตัวตรวจสอบ ก่อนที่ชายคนดังกล่าวจะเข้ามาทำการขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่และพูดจาดูหมิ่นเจ้าพนักงานด้วยถ้อยคำหยาบคาย และพยายามไล่ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจออกจากร้าน อ้างว่าตนเป็นนายทหารเรือชั้นผู้ใหญ่ และรู้จักนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ระดับสูง ถ้าไม่รีบออกจากร้านไป จะย้ายให้หมด และมีการปาแก้วใส่ บริเวณที่เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่ด้วย ซึ่งทำให้การปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ เป็นไปด้วยความยากลำบาก และเกรงว่าจะได้รับอันตราย ซึ่งได้ดำเนินการร้องทุกข์ดำเนินคดีตามกฎหมายไว้แล้ว
ซึ่งทางกองทัพเรือ โดยฐานทัพเรือสัตหีบ ได้รับทราบและนำเรียนผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้น เพื่อดำเนินการตรวจสอบต่อไปแล้ว หากเป็นข้าราชการของกองทัพเรือจริง พร้อมจะดำเนินการไปตามขั้นตอนของกฏหมายต่อไป
ล่าสุดวันนี้( 26 ธ.ค.64 ) พล.ร.ท.ปกครอง มนธาตุผลิน เจ้ากรมกิจการพลเรือนทหารเรือ ในฐานะโฆษกกองทัพเรือ ยอมรับว่า ชายในคลิปดังกล่าวเป็น ข้าราชการสังกัดกองทัพเรือจริง โดยกองทัพเรือ ขอแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และถือว่าเป็นการกระทำที่ไม่สมควร ละขอโทษสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่กำลังพลของกองทัพเรือได้แสดงกิริยาวาจาที่ไม่สมควรและก้าวร้าว ต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจขณะปฏิบัติหน้าที่รวมถึงดูหมิ่นสำนักงานตำรวจแห่งชาติทำให้ได้รับความเสียหาย
ทั้งนี้ พล.ร.อ.สมประสงค์ นิลสมัย ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) ได้รับรายงานเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแล้ว พร้อมสั่งการให้หน่วยต้นสังกัดเรียกเข้ารายงานตัวอย่างเร่งด่วน และให้เจ้าหน้าที่สารวัตรทหารเรือควบคุมตัวนายทหารคนดังกล่าว นำไปเข้ารับการธำรงวินัย ณ ศูนย์ธำรงวินัยกองทัพเรือ พร้อมดำเนินการแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนหาข้อเท็จจริงเพื่อลงโทษทางวินัยต่อไป
โฆษกองทัพเรือ กล่าวด้วยว่า ผู้บัญชาการทหารเรือเน้นย้ำกำลังพลอยู่เสมอในการประพฤติและวางตนให้อยู่ในระเบียบวินัยเป็นที่พึ่งแก่ประชาชน ให้ปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มกำลัง ด้วยสติรู้ตัว ด้วยปัญญารู้คิด และด้วยสุจริตจริงใจ เห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวมยิ่งกว่าส่วนอื่น โดยกองทัพเรือขอยืนยันว่าหากปรากฏว่าผลการสอบสวนเป็นการกระทำผิด ก็จะไม่ปกป้องผู้กระทำผิดโดยเด็ดขาดและจะดำเนินการทางวินัยเพื่อให้เป็นเยี่ยงอย่างต่อไป