"ปรเมศวร์" ชี้คดีเสือดำ “เปรมชัย” หมดราคาเมื่อขึ้นศาล เชื่องัดชั้นเชิงกฎหมายสู้ (คลิป)

จากเหตุการณ์อื้อฉาวแห่งปี เมื่อวันที่ 4 ก.พ. 61 เจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ด้านตะวันตก จ.กาญจนบุรี จับกุมตัวนายเปรมชัย กรรณสูต ประธานบริหาร และกรรมการ บมจ.อิตาเลียนไทย พร้อมพวกอีก 3 คน บริเวณจุดตั้งแคมป์ พบอาวุธปืน และซากสัตว์ป่าคุ้มครอง ทั้งไก่ฟ้าหลังเทา รวมถึงเสือดำ ซึ่งอยู่ในสภาพชำแหละแล้ว ต่อมาในวันที่ 6 ก.พ. เจ้าหน้าที่จึงนำตัวนายเปรมชัยกับพวกไปแจ้งความดำเนินคดีที่ สภ.ทองผาภูมิ นำไปสู่การตรวจค้นบ้านพักของนายเปรมชัย พบว่ามีงาช้างในบ้าน และอาวุธปืนอีกจำนวนมาก

สังคมวิพากษ์วิจารณ์จนเกิดเป็นกระแส แฮชแท็ก #เสือดำต้องไม่ตายฟรี รวมตัวเรียกร้องผ่านการจัดกิจกรรมต่าง ๆ แสดงออกทางสัญลักษณ์ กระทั่งนำไปสู่การพูดถึงเรื่องธรรมาธิบาลของบรรษัทอิตาเลียนไทย ซึ่งระบุไว้อย่างชัดเจนว่า “บริษัทฯ จะไม่กระทำการใด ๆ ที่จะส่งผลเสียหายต่อสังคม ทรัพยากรธรรมชาติ และสภาพแวดล้อม” จนมีการเรียกร้องให้ภาครัฐ พิจารณาเรื่องสัมปทานต่าง ๆ ของ บมจ.อิตาเลียนไทย

ทั้งนี้ บมจ.อิตาเลียนไทย เป็นผู้รับเหมาก่อสร้างขนาดใหญ่ และหมุนเวียนเป็นอันดับหนึ่ง ในวงการรับเหมาก่อสร้างไทย ซึ่งมีมูลค่าการรับเหมาก่อสร้างทั้งประเทศจำนวนมาก ข้อมูลล่าสุด วันที่ 26 ธ.ค. 61 มีนายเปรมชัย เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัท 13.53% รายได้รวม ไตรมาส 3/2561 คือ 44,739 ล้านบาท

ดร.บัณฑิต นิจถาวร อดีตรองผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย และอดีตกรรมการผู้อำนวยการสมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย (IOD) แสดงความคิดเห็นว่า เรื่องธรรมาภิบาลของการประกอบธุรกิจบริษัท ถือเป็นเรื่องสำคัญ โดยธุรกิจทั่วไปของประเทศเทศที่มีความสำคัญและมีขนาดใหญ่ หากเกิดเหตุการณ์ที่บุคคลในบริษัทกระทำการใด ๆ ที่อาจจะกระทบกระแสสังคม หรือผิดข้อกฎหมาย ก็จะเป็นการกระทบต่อความเชื่อมั่นต่อการลงทุนภายในบริษัทเช่นเดียวกัน ทั้งนี้ หากดูผลการตอบสนองของภาคประชาสังคม ประชาชนทั่วไป หรือนักลงทุน ที่แสดงออก ก็จะเห็นว่าไม่มีใครชอบ คดีนี้มีแรงกระเพื่อมอย่างหนัก หลังมีรายงานข่าวระบุว่า ทนายของนายเปรมชัย อาจงัดชั้นเชิงทางกฎหมาย สู้ว่านายเปรมชัยอาจไม่ได้อยู่ในที่เกิดเหตุ

ด้านนายปรเมศวร์ อินทรชุมนุม รองอธิบดีสำนักงานชี้ขาดคดี อัยการสูงสุด มองว่า นายเปรมชัยเข้าไปตั้งแคมป์ในป่าตั้งแต่วันที่ 3 ก.พ. 61 กระทั่งถูกจับกุมตัวในวันที่ 4 ก.พ. 61 ประเด็นที่สังคมกำลังสงสัยคือเสือดำถูกยิงตายเมื่อไร และนายเปรมชัยอยู่ในที่เกิดเหตุหรือไม่ ซึ่งเรื่องดังกล่าวนี้ ตนเห็นว่าไม่แตกต่างกันมากนัก เนื่องจากข้อกล่าวหาที่นายเปรมชัยถูกฟ้องคือล่าสัตว์ ส่วนเรื่องปืน ทราบว่านำติดรถไปตั้งแต่กรุงเทพฯ ซึ่งเป็นการครองครองอาวุธอยู่แล้ว

ทั้งนี้ ในสายตาของตน ไม่ว่าคนมีเงินหรือไม่มีเงินก็หมดราคาเมื่อขึ้นศาล เพราะทุกคนมีคุณค่าเท่าเทียมกัน ตนไม่เชื่อว่าคนเหล่านี้มีอิทธิพลอยู่เหนือกระบวนการยุติธรรม โดยเฉพาะกลางน้ำและปลายน้ำ ส่วนต้นน้ำนั้นตนไม่ทราบ ถึงแม้ว่าคดีจะยังไม่มีบทสรุป ประกอบกับกระแสสังคม ก็เบาบางลง และความน่าเชื่อถือของกระบวนการยุติธรรม จะเป็นบทพิสูจน์ต่อไป จึงทำให้ “คดีเสือดำ” ถูกจัดให้เป็นอันดับที่ 2 ใน 10 อันดับข่าวเด่นแห่งปี 2561 ของอมรินทร์ ทีวี