กรณีช่วงกลางดึกของวันที่ 19 ก.พ.65 ตำรวจสภ.อ.ตาคลี จ.นครสวรรค์ รับแจ้งเหตุแทงกันบริเวณลานวัดหนองไม้แดง หมู่ 10 ตำบลหนองโพ อำเภอตาคลี จังหวัดนครสวรรค์ ซึ่งเป็นสถานที่จัดงานศพของชาวบ้าน
ทั้งนี้ ทราบว่าผู้ที่ถูกแทงชื่อ นายสนอง แย้มควร อายุ 67 ปี ถูกแทงด้วยอาวุธมีดเข้าบริเวณหน้าอกซ้ายใต้ราวนมได้รับบาดเจ็บสาหัส และเสียชีวิตในเวลาต่อมา หลังจากเกิดเหตุเพียง 30 นาที เจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามและสามารถจับติดตามจับกุมตัวนายสมคิด เทียนนาวา ผู้ก่อเหตุ พร้อมอาวุธมีดที่ใช้ก่อเหตุ จึงคุมตัวไปที่โรงพักแจ้งข้อกล่าวหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา
ล่าสุด วันที่ 20 ก.พ.65 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางมาที่วัดหนองไม้แดง หมู่ 10 ตำบลหนองโพ อำเภอตาคลี จังหวัดนครสวรรค์ ซึ่งเป็นจุดเกิดเหตุ และมีการจัดงานศพของแม่ยายของผู้ก่อเหตุ โดยจุดที่เกิดเหตุอยู่บริเวณต้นไม้ติดกับข้างศาลา ส่วนบ้านของผู้ก่อเหตุอยู่ฝั่งตรงข้ามกับวัด ห่างกันประมาณ 20 เมตร
ทีมข่าวได้เดินทางมาที่สถานที่ตั้งบำเพ็ญกุศลของนายสนอง แย้มควร อายุ 67 ปี วันนี้เป็นวันแรกที่จัดพิธีสวดพระอภิธรรมศพ และในวันที่ 23 ก.พ.65 จะมีพิธีฌาปนกิจศพ
นางสาวประภาพร เปี่ยมเสถียร อายุ 44 ปี ลูกสาวของผู้ตาย เปิดเผยว่า ในช่วง 2 วันที่ผ่านมา พ่อของตนได้ไปร่วมงานศพ และไปคนเดียวทั้ง 2 วัน ก่อนที่จะเกิดเรื่องไม่ได้มีลางสังหรณ์แต่อย่างใด กระทั่งเมื่อวานนี้ (19 ก.พ.65) เวลาประมาณ 20.00 น. มีชาวบ้านโทรศัพท์มาแจ้งว่า นายสนองถูกยิงที่กลางงานศพ และให้รีบมาที่โรงพยาบาล ตนจึงตามไปแต่นายสนอง เสียชีวิตในเวลาต่อมา
ส่วนสาเหตุ ตนไม่ทราบจริง ๆ ว่า เกิดจากอะไร เพราะนายสนอง ไม่เคยมีปัญหากับผู้ก่อเหตุมาก่อน และหากมีปัญหากันจริง ๆ นายสนอง ก็คงจะไม่ไปร่วมงานศพทุกวัน อีกทั้งนายสนอง ยังเป็นคนดีมาก ไม่ดื่มเหล้า สูบบุหรี่ ทั้งนี้ หากผู้ก่อเหตุจะเข้ามาขอขมาศพ ตนคงจะไม่พร้อมให้เข้ามา และตอนนี้ตนก็ยังไม่พร้อมที่จะอโหสิกรรมให้ เพราะยังทำใจไม่ได้ เนื่องจากพ่อของตนเป็นเสาหลักของครอบครัว และทุก ๆ วันพ่อจะคอยดูแลแม่เสมอ หากพ่อไม่อยู่ก็จะไม่มีใครดูแลแม่อีกแล้ว
"สำหรับกรณีที่ผู้ก่อเหตุทำไป เพราะความเครียดนั้น ฉันคิดว่าถึงจะเครียดก็ไม่ควรจะมาลงที่คนอื่นแบบนี้ และฉันก็ไม่เข้าใจว่า ทำไมต้องมาลงที่พ่อด้วย" นางสาวประภาพร กล่าวทิ้งท้าย
ทีมข่าวยังได้พูดคุยกับ นายสมชาย รอดนิล อายุ 57 ปี พี่เขยของผู้ก่อเหตุ กล่าวว่า เมื่อวานนี้ (19 ก.พ.65) เวลาประมาณ 20.00 น. ตนกำลังส่งแขกที่มาร่วมงานศพของแม่กลับบ้าน ซึ่งช่วงเวลานั้นคนค่อนข้างจะวุ่นวาย ตอนที่เกิดเหตุแทงกันนั้น ตนสังเกตเห็นว่า มีคนมุงดูเป็นจำนวนมาก แต่กว่าจะทราบว่ามีคนถูกแทง เจ้าหน้าที่ก็เข้ามาช่วยเหลือแล้ว ส่วนผู้ก่อเหตุก็ถูกจับกุมตัวได้ที่บ้าน
ทั้งนี้ ตนยอมรับว่ายังไม่ได้คุยกับผู้ก่อเหตุ และไม่ทราบว่าเขาทำไปเพราะสาเหตุใด เพราะผู้ก่อเหตุกับผู้ตายไม่เคยมีเรื่องกันมาก่อน และช่วงเช้าของวันที่เกิดเหตุ ผู้ก่อเหตุก็ยังมาช่วยจัดงาน และทำความสะอาดบริเวณเมรุเผาศพ หลังจากที่ทำความสะอาดเสร็จตนก็ให้เหล้าขาวไป 1 ขวด แต่ไม่ทราบว่าดื่มไปหรือไม่
ส่วนผู้ตายนั้น เขาก็มาที่งานศพเกือบทุกวัน และนำพืชผักมาช่วยงานตลอด โดยที่เขาเข้ามาคุยกับตนว่า "มาไม่ทันตอนสวด เพราะมัวแต่ไปหาผักมาให้" ตนก็ยังบอกว่า "ไม่เป็นไร ค่อยมาวันอื่น" แต่ตนก็ไม่คิดว่าผู้ตายจะมาช่วยงานศพคนอื่นแล้วต้องมาตายแบบนี้ จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตนรู้สึกเสียใจมาก ๆ เพราะผู้ตายเป็นคนที่ดี ไม่ดื่มเหล้า ไม่สูบบุหรี่ และมีน้ำใจกับทุกคน
จากการสอบถาม นายทวาย รอดนิล อายุ 46 ปี น้องเขยของผู้ก่อเหตุ ระบุว่า เมื่อวานนี้ (19 ก.พ.65) เวลาประมาณ 20.00 น. หลังจากที่เสร็จสิ้นพิธีสวดพระอภิธรรมศพ ผู้ที่มาร่วมงานกำลังทยอยกลับบ้าน ระหว่างที่ตนนั่งอยู่นั้นก็ได้ยินเสียงโวยวาย หันไปดูก็พบว่านายสมคิด ได้แทงนายสนอง ซึ่งเหตุการณ์เกิดขึ้นเร็วมาก ๆ ขณะนั้นตนได้เข้าไปช่วยพยุงให้นายสนอง มานั่งในศาลา ตอนแรกนายสนองไม่ทราบว่าตัวเองถูกแทงตรงไหน เพราะตอนที่โดนแทงไม่ทันได้ตั้งตัว จนปลดกระดุมเสื้อออกจึงทราบว่าถูกแทงที่บริเวณใต้ราวนม เมื่อเห็นบาดแผลนายสนอง ก็เป็นลมทันที ทุกคนจึงช่วยกันปั๊มหัวใจ
ทั้งนี้ ชาวงที่เกิดเหตุ นายสมคิดไม่ได้ดื่มเหล้า และตนคิดว่าน่าจะทำไปเพราะความคิดชั่ววูบ ซึ่งเกิดจากความเครียด เพราะนายสมคิดเล่าให้ตนฟังว่า ช่วงนี้รู้สึกเครียด เพิ่งจะตกงานได้ประมาณ 1 สัปดาห์ เลยไม่มีเงินใช้ และช่วง 1 ปีที่ผ่านมา ภรรยาต้องไปดูแลแม่ที่ป่วย ทำให้เครียดหนักกว่าเดิม