ลูกเขยระเบิดอารมณ์ ลั่น.38 ใส่ปากแม่ยาย แค้นถูกพรากเมีย ทั้งที่อยู่กินมา 13 ปี

31 ต.ค. 67

 

ลูกเขยระเบิดอารมณ์ ลั่น.38 ใส่ปากแม่ยาย แค้นถูกพรากเมีย บอกกำลังจะมีคนมาสู่ขอเมีย ทั้งที่อยู่กินกันมา 13 ปี มีลูกด้วยกัน 3 คน 

เมื่อเวลา 20.00 น. วันที่ 30 ต.ค. 67 พ.ต.ท.นิมมาน นิกูโน สารวัตร (สอบสวน) สภ.หาดใหญ่ จ.สงขลา รับแจ้งเกิดเหตุยิงกันที่บ้านเช่าแห่งหนึ่ง พื้นที่หมู่ 4 ต.คลองแห อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา 

หลังจากลงพื้นที่ไปตรวจสอบจุดเกิดเหตุ พร้อมด้วย พ.ต.ท.อนุวัฒน์ ฤทธิชัย รอง ผกก.สส. พ.ต.ท.อดินันท์ วงศ์หมัดทอง รอง ผกก.ป.สภ.หาดใหญ่ พ.ต.ต.ธีระพงศ์ วิชิต สว.สส. สายตรวจชุดวิหค และชุดเผชิญเหตุเวหา กำลังตำรวจชุดสืบสวนตำรวจภูธร จ.สงขลา และชุดสืบสวนภาค 9 

ลูกเขยระเบิดอารมณ์ ลั่น.38 ใส่ปากแม่ยาย แค้นถูกพรากเมีย ทั้งที่อยู่กินมา 13 ปี

ที่เกิดเหตุทราบว่า มีผู้ถูกยิงได้รับบาดเจ็บ 1 ราย คือ น.ส.นฤมล อายุ 55 ปี ถูกยิงด้วยอาวุธปืน .38 ไทยประเทศเข้าปากทะลุแก้มบาดเจ็บจนฟันหลุด หน่วยกู้ชีพคลองแห และญาติได้พาตัวส่งโรงพยาบาลหาดใหญ่ 

ลูกเขยระเบิดอารมณ์ ลั่น.38 ใส่ปากแม่ยาย แค้นถูกพรากเมีย ทั้งที่อยู่กินมา 13 ปี

ส่วนคนยิงคือ นายอดิศร หรือ โต้ อายุ 30 ปี ซึ่งเป็นลูกเขย หลังก่อเหตุได้วิ่งหลบหนีไปทางหลังบ้่าน พร้อมกับอาวุธปืนท่ามกลางความมืด  

นอกจากนี้ยังพบรถเก๋งสีเขียวจอดอยู่ริมถนนข้างบ้าน ซึ่งเป็นรถของนายอดิศร ที่ขับมาที่บ้าน กระจกหน้าแตกเป็นรูโบ๋ เพราะถูกญาติคนเจ็บขว้างก้อนหินใส่ ขณะกำลังจะวิ่งหนีไปขึ้นรถ จนต้องทิ้งรถวิ่งหนีไป 

ตำรวจต้องระดมกำลังปิดล้อมพื้นที่เกิดเหตุ เพื่อหาตัว เพราะคาดว่าน่าจะซ่อนตัวอยู่ในบริเวณเกิดเหตุ และใช้โดรนบินเพื่อหาตัว เจ้าหน้าที่ต้องระวัง เพราะคนร้ายมีปืนด้วย และสภาพแวดล้อมที่มืดมาก หลังเวลาผ่านไปกว่า 2 ชม.ก็ไม่พบตัว 

ลูกเขยระเบิดอารมณ์ ลั่น.38 ใส่ปากแม่ยาย แค้นถูกพรากเมีย ทั้งที่อยู่กินมา 13 ปี

เหตุการณ์นี้เบื้องต้น จากการสอบถามสามีคนถูกยิงบอกว่า ก่อนเกิดเหตุนายอดิศร ซึ่งเป็นลูกเขย ได้ขับรถเก๋งมาหาลูก 3 คนที่บ้าน แต่ตอนนั้นเมียไม่อยู่ และเข้าไปกินข้าวในบ้าน และแม่ยายได้บอกให้กลับได้แล้ว แต่นายอดิศรขอเวลาอยู่ต่ออีก 5 นาที และแม่ยายไม่ยอมให้อยู่ต่อ เพราะมาที่บ้านนานแล้ว บอกให้กลับ นายอดิศรจึงเดินออกจากบ้าน และชักปืนมายิงใส่แม่ยายเข้าที่ปาก  

และจะวิ่งไปขึ้นรถเก๋ง แต่ว่าถูกญาติๆ และชาวบ้านไล่ตาม จึงต้องวิ่งหนีลงไปในดงผักบุุ้งข้างบ้าน โดยนายอดิศร ลูกเขยตนได้แยกกันอยู่กับลูกสาวตนมา 3 เดือนแล้ว 

ต่อมาเมื่อช่วงเที่ยงคืน นายอดิศรได้ยอมเข้ามอบตัวกับตำรวจที่ สภ.ทุ่งลุง และทางตำรวจชุดสืบสวน สภ.หาดใหญ่ ได้ไปรับตัว และพากลับมาที่บ้านเกิดเหตุ เพื่อค้นหาอาวุธปืน .38 ที่ใช้ก่อเหตุ พบว่าได้พาไปซ่อนไว้หลังบ้าน 

ลูกเขยระเบิดอารมณ์ ลั่น.38 ใส่ปากแม่ยาย แค้นถูกพรากเมีย ทั้งที่อยู่กินมา 13 ปี

แต่ระหว่างที่ตำรวจคุมตัวชี้จุดเกิดเหตุได้มีคุณลุง ซึ่งเป็นพี่ชายของแม่ยายพยายามเข้ามาทำร้ายนายอดิศร ด้วยความโกรธ แต่ตำรวจได้กันตัวเอาไว้ และรีบพาขึ้นรถไปยัง สภ.หาดใหญ่ เพื่อป้องกันความวุ่นวายบานปลายจากญาติที่ต่างโกรธแค้น 

ส่วนคุณลุงที่จะเข้ามาทำร้ายถึงกับหน้ามืดทรุดตัวนั่งลงกับพื้่น หน่วยกู้ชีพเทศบาลเมืองคลองแห ต้องช่วยปฐมพยาบาล และพาตัวส่งโรงพยาบาลหาดใหญ่ 

จากการสอบ นายอดิศร ให้การว่า หลังจากที่ยิงแม่ยายแล้ว ทีแรกจะเดินไปขึ้่นรถเก๋งแต่ถูกพ่อตาตามไล่หลังมา และตะโกนให้คนช่วยจับตัว และบอกให้ยิงตนจึงวิ่งหนีมาเรื่อยๆ และมาออกตรงหน้าสวนสาธารณะหาดใหญ่ ทีแรกจะเข้ามอบตัวที่ สภ.หาดใหญ่ แต่ก็กลัวว่าจะไม่ปลอดภัย เพราะญาติพี่น้องแม่ยายเป็นตำรวจอยู่จึงเดินมาเรื่อยๆ และระหว่างทางก็ขออาศัยรถชาวบ้านบ้าง อ้างว่ารถเสีย จนมาถึงปั้มน้ำมันในพื้นที่ ต.บ้านพรุ ระหว่างนั้นได้โทรศัพท์กลับไปหาพ่อ เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้ฟัง และขอช่วยให้เด็กปั้มโทรไปหาตำรวจ สภ.ทุ่งลุง เพื่อให้มารับตัว เพราะว่าตนเดินไปมอบตัวไม่ไหวแล้ว เนื่องจากเดินจนเท้าเจ็บ 

ลูกเขยระเบิดอารมณ์ ลั่น.38 ใส่ปากแม่ยาย แค้นถูกพรากเมีย ทั้งที่อยู่กินมา 13 ปี

นายอดิศร เล่าว่า ต้นตอของเรื่องนี้มาจากการที่แม่ยายพาลูกเมียของตนกลับมาอยู่ที่บ้าน เพื่อให้ห่างกัน และบอกว่ากำลังจะมีคนมาขอเมียตนแต่งงาน เพราะอยู่กับตนลำบาก ซึ่งตนช็อกมาก เพราะอยู่กินกันมา 13 ปี มีลูกด้วยกัน 3 คน และตนกับเมียก็ไม่เคยมีปัญหาอะไรกัน ที่ผ่านมาก็ทำงานหาเลี้ยงครอบครัวคนเดียว ไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นโดยแยกกันอยู่กับเมียมาประมาณ 2 เดือน

นายอดิศร กล่าวว่า เรื่องนี้เริ่มจากเมื่อ 2 เดือนก่อนแม่ยายไปรับลูกเมียของตนจากบ้านมากินหมูกะทะ แต่พอตนจะไปรับกลับ แม่ยายก็ไม่ให้กลับบอกว่าไม่ให้อยู่ด้วยกันแล้ว เมื่อไม่ยอมให้ลูกเมียกลับไปอยู่ที่บ้าน ตนก็ขอมาทำงาน และอยู่กับลูกกับเมียที่บ้านแม่ยาย แต่แม่ยายก็ไม่ยอมให้อยู่ ซึ่งตอนนั้นตนยังไม่รู้ว่ามีมือที่สามเข้ามาเกี่ยวข้อง แต่มารู้จากลูกเล่าให้ฟังว่า มีคนมารับเมียรับลูกไปกินข้าว และมีอยู่ครั้งหนึ่งที่ตนไปเห็นเต็มตา และเข้าไปพูดกับชายคนนั้นตรงๆ ว่าอย่ามายุ่งกับลูกกับเมียตน ถ้าตนคิดร้ายจริงๆ หรือพกปืนทุกวัน คงยิงชายคนนี้ตั้งแต่วันนั้นไปแล้วไม่ดีกว่าหรือ ทั้งที่รู้ว่าทำกันแบบนี้ แต่ก็ทนเจ็บสะสมมามาก 

จนกระทั่งเมื่อวานนี้แม่ยายบอกว่าจะมีคนมาสู่ขอเมียตน ซึ่งฟังแล้วมันแทงใจดำมาก  และตนขอมานอนที่บ้านแม่ยาย 1 คืน เพื่อขอคุยกับเมียว่าถ้าไม่อยู่ด้วยกันแล้วก็บอกตรงๆ ตนจะได้ทำใจ แต่ว่าเมียกลัวเสียความรู้สึก ไม่กล้าบอกตรงๆ และบอกว่าจะให้คำตอบในวันนี้ ตอนค่ำก็เลยขับรถมาหาเมียที่บ้านแม่ยาย 

นายอดิศร กล่าวว่า ความตั้งใจจริงไม่ได้จะมายิงแม่ยาย แต่จะมายิงหัวตัวเองในบ้านแม่ยาย ด้วยความที่เจ็บใจทั้งเมียและแม่ยาย ก่อนหน้านี้ก็คุยกับเมียทางมือถือไว้ก่อนแล้วว่า ถ้าตนตายก็ให้มาร่วมงานศพ และบอกให้ซื้อของมาเตรียมไว้ และยังบอกกับแม่ยายด้วยว่าถ้าไปงานศพตน อย่าไปทะเลาะกับแม่ตน และยังได้ลาพ่อลาแม่มาแล้วด้วย เพราะเหนื่อยกับชีวิตมามาก และตอนที่มาที่บ้านแม่ยายก็บอกกับเมียว่าขอกินข้าวด้วยกันเป็นมื้อสุดท้ายด้วยความที่เจ็บใจ และคำตอบที่ได้จากปากเมียคือ มันเป็นไปไม่ได้แล้วที่จะกลับไปเหมือนเดิม ตนถึงกับกินข้าวไปร้องให้ไป และถึงกับกราบตีนเมียอ้อนวอน ขอให้กลับมาอยู่ด้วยกัน เพราะรักเมียรักลูกมาก 

นายอดิศร บอกว่า ตอนที่นั่งคุยกับเมีย กลับถูกแม่ยายไล่ให้กลับ ทีแรกตนก็ตั้งใจจะกลับเดินออกไปใส่รองเท้าแล้ว แต่ถูกแม่ยายด่าแม่ไล่หลัง บอกไม่ต้องกลับมาเหยียบที่นี่อีก พอได้ยินคำนี้จึงชักอาวุธปืนออกมายิงใส่ทันที โดยที่แทบไม่ได้เล็ง 

“ที่ทำไปเพราะอารมณ์ชั่ววูบ เสียใจยอมรับผิด ขอโทษกับทุกสิ่งทุกอย่าง แต่ตอนนั้นห้ามใจตัวเองไม่ได้ ถ้าย้อนเวลากลับได้จะไม่ทำ” 

หลังเกิดเหตุตำรวจชุดสืบสวน สภ.หาดใหญ่ได้ทำบันทึกการจับกุม พร้อมกับคุมตัวดำเนินคดี 4 ข้อหา คือพยายามฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา, พกพาอาวุธปืนติดตัวเข้าไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะ, มีอาวุธปืนซึ่งนายทะเบียนไม่อาจออกใบอนุญาตให้มีไว้ในครอบครอง, ยิงปืนในที่สาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควรเร่งด่วน

advertisement

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวทั่วไป เป็นกระแส