ปิติพงศ์ เรียกร้องสิทธิพื้นฐานให้กับผู้หญิงเสนอรัฐบาลจัด ผ้าอนามัย เป็นสวัสดิการพื้นฐาน ยกเลิกภาษีเพื่อให้ราคาถูกที่สุด
เมื่อวันที่ 8 มี.ค.65 ดร.ปิติพงศ์ เต็มเจริญ หัวหน้าพรรคเป็นธรรม โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กเพจ ดร.ปิติพงศ์ เต็มเจริญ เนื่องในวันสตรีสากล โดยระบุว่า ผ้าอนามัย ต้องเป็นสวัสดิการพื้นฐานให้ผู้หญิง ผ้าอนามัยต้องปลอดภาษี ยกเลิกภาษีผ้าอนามัย
เนื่องในโอกาส วันสตรีสากล ในปีนี้ ผมขอใช้โอกาสในการเรียกร้องสิทธิพื้นฐานให้กับผู้หญิงไทยที่สำคัญเรื่องหนึ่ง คือ ผ้าอนามัย
ผ้าอนามัย ถือเป็นของใช้จำเป็นสำหรับผู้หญิง แต่กลับถูกจัดอยู่ในหมวดเครื่องสำอาง ซึ่งของมันคือสินค้าฟุ่มเฟือย ส่งผลให้ผ้าอนามัยมีราคาสูงกว่าที่ควรจะเป็น สร้างภาระทางด้านค่าครองชีพแก่ผู้หญิงเกินควร โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบางที่มีรายได้น้อย เพราะหากอาทิตย์ไหนมีประจำเดือน ก็ต้องใช้เงินหลักร้อยในการซื้อผ้าอนามัย เมื่อเทียบกับค่าแรงขั้นต่ำในบ้านเราแล้ว ราคาของผ้าอนามัย จึงถือว่าเป็นภาระทางด้านค่าครองชีพที่เกินควร
บางคนต้องซื้อผ้าอนามัยคุณภาพต่ำมาใช้ บางคนต้องใช้ผ้าอนามัยชิ้นเดียวตลอดวัน เพราะไม่มีรายได้มากพอที่จะซื้อผ้าอนามัยไว้ใช้เปลี่ยนหลายชิ้นต่อวัน ยิ่งไม่ต้องพูดถึงนักเรียน นักศึกษา ที่มีเงินจำกัดในการใช้แต่ละสัปดาห์หรือแต่ละเดือน แล้วยังต้องเจียดเงินรายสัปดาห์หรือรายเดือนที่ผู้ปกครองให้ใช้ มาซื้อผ้าอนามัย โดยเฉพาะผู้กู้เรียน กยศ. ที่ช่วงนี้เงินรายเดือนเข้าบัญชีล่าช้า ยิ่งกระทบการใช้ชีวิตประจำวันไปกันใหญ่
นอกจากนี้ ยังมีผู้หญิงอีกหลายคนที่เข้าไม่ถึงผ้าอนามัย เพราะเป็นสินค้าที่มีราคาแพง หรือที่เราเรียกว่า ความจนประจำเดือน (period poverty) เช่น ผู้หญิงในพื้นที่ห่างไกล ผู้หญิงที่มีรายได้ต่ำกว่าเส้นความยากจน ฯลฯ ทั้งหมดนี้ล้วนสะท้อนไปที่ต้นตอของปัญหานั่นคือ ผ้าอนามัยในบ้านเรามีราคาสูงกว่าที่ควรจะเป็น เมื่อเทียบกับค่าแรงขั้นต่ำ
ผ้าอนามัย เป็นสิ่งที่ผู้หญิงจำเป็นต้องใช้ทุกเดือน ผมขอเสนอให้รัฐบาลจัดให้ผ้าอนามัยเป็นสวัสดิการพื้นฐานให้กับผู้หญิงทุกคน เพื่อประกันว่าผู้หญิงทุกคนจะสามารถเข้าถึงผ้าอนามัย นอกจากนี้ รัฐบาลต้องยกเลิกภาษีผ้าอนามัย เนื่องจากเป็นสินค้าจำเป็น เพื่อทำให้ราคาผ้าอนามัยในท้องตลาดมีราคาถูกที่สุด
ผมเชื่อว่าเราสามารถทำให้ผ้าอนามัย มีความเป็นธรรมทั้งในเชิงเศรษฐกิจและทางสังคมกับผู้หญิงได้มากขึ้น หากรัฐตระหนักเพียงพอว่าผ้าอนามัยในเวลานี้ คือ สินค้าที่ถ่างความเหลื่อมล้ำและมีปัญหาความไม่เท่าเทียม ผมหวังว่าวันสตรีสากลในปีนี้ รัฐจะเข้าใจและเข้าถึงปัญหานี้ แล้วลงมือแก้ไขปัญหาอย่างจริงจังเสียทีครับ