ผู้การแต้มฟาดยับ “สมชาย - พรทิพย์” มีหน้าที่อะไรยุ่ง "คดีแตงโม" ถามสั่งตำรวจมีอำนาจหรือ? (คลิป)

29 มี.ค. 65

วันที่ 28 มี.ค. 65 เวลา 13.40 น. นางภนิดา ศิระยุทธโยธิน แม่ของนักแสดงสาว "แตงโม" พร้อมนายเดชา กิตติวิทยานันท์ ทนายความส่วนตัว เดินทางมาถึงยังรัฐสภา มีการเตรียมเอกสารหนังสือถอนเรื่องการพิจารณาคำร้องการเสียชีวิตของแตงโม และขอให้ตรวจสอบการทำงานของ กมธ. ว่ากระทำการอันเป็นการขัดต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 185 หรือไม่

พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ

พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ หรือ ผู้การแต้ม อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ฉายามือปราบหูดำ เปิดเผยว่า ส่วนตัวอยากจะย้อนถามกลุ่มคณะกรรมาธิการที่เข้ามายุ่งในคดีของแตงโมว่ามีบทบาท มีสิทธิ หรือมีหน้าที่อะไร เพราะอย่าลืมว่าบุคคลที่จะเข้ามาเกี่ยวข้องจะต้องเป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ตำรวจที่มีอำนาจหน้าที่โดยตรง แต่ยกเว้นว่าก่อนหน้านี้ แม่หรือคนในครอบครัวมีประเด็นข้อสงสัยหรือต้องการให้หน่วยงาน และแพทย์หญิงคุณหญิงพรทิพย์เข้ามาช่วยหาคำตอบ เพื่อคลี่คลายประเด็นข้อสงสัย

แต่ในเมื่อวันนี้ แม่อาจจะทราบความชัดเจนแล้ว จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะมีการยื่นหนังสือให้กรรมาธิการ หรือยื่นให้ยกเลิกไม่ให้บุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องเข้ามายุ่งเกี่ยวกับคดี เพราะถือว่าเป็นเรื่องที่ควรกระทำ เนื่องจากต้องปล่อยเป็นไปตามหน้าที่ของพนักงานสอบสวนและสืบสวน ไม่เช่นนั้นก็จะกลายเป็นการแทรกแซงกระบวนการ จากบุคคลที่ทำหน้าที่ด้วยกฎหมายหรือมีหน้าที่โดยตรง

สำหรับการทำหน้าที่ของกรรมาธิการเท่าที่ตนเองทราบ คือมีหน้าที่เรียกให้ผู้มีอำนาจเข้ามาชี้แจง รายงานความคืบหน้าเกี่ยวกับประเด็นที่กรรมาธิการสงสัย หลังจากนั้นเมื่อมีข้อสงสัยหรือต้องการที่จะได้ความชัดเจนเกี่ยวกับประเด็นนั้น ๆ จะต้องส่งเรื่องให้กับรัฐบาลเห็นชอบ ไม่มีอำนาจใดที่จะมาสั่งการให้ตำรวจทำแบบนั้นแบบนี้ได้ เพราะไม่เช่นนั้นก็ถือว่าเป็นการแทรกแซง โดยเฉพาะการสั่งให้มีการเก็บเรือ สั่งให้มีการนำบุคคลเข้าเครื่องจับเท็จ สิ่งเหล่านี้เรียกว่าเป็นการแทรกแซง ก็เป็นไปตามที่ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 เคยเตือนการทำงานของกรรมาธิการเอาไว้

พล.ต.ต.วิชัย กล่าวถึงการทำหน้าที่ของแพทย์หญิงคุณหญิงพรทิพย์ว่า หมอมีหน้าที่อะไร มีบทบาทอะไร หรือเกี่ยวข้องอะไรที่เข้ามาดำเนินการในเรื่องนี้ เพราะถ้าหากย้อนกลับไป ตนเองก็อยากจะย้อนถามว่าเข้าไปในฐานะอะไร เนื่องจากการให้สัมภาษณ์แต่ละครั้งพูดวนไปวนมา หรือพูดสับเปลี่ยนไปมา บางครั้งพูดว่าสงสัยเกี่ยวกับการตาย บางครั้งออกมาให้สัมภาษณ์บอกว่าไม่ติดใจการตาย ทำให้การที่พูดเปลี่ยนไปมาสังคมอาจจะคล้อยตามและสับสน เนื่องจากเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียง หรือหลายคนอาจจะมองว่าเป็นหมอนิติเวช ฉะนั้นการที่พูดโน้มน้าวให้สังคมเข้าใจ ก็ควรที่จะมีการพูดด้วยข้อมูลหรือตามขอบเขตอำนาจหน้าที่เท่านั้น

กรณีล่าสุด นายสมชาย แสวงการ ประธานคณะกรรมาธิการฯ ออกมาแถลงยืนยันชัดเจนว่า แม้จะมีการยื่นหนังสือขอให้กรรมาธิการไม่ก้าวก่ายคดีของนางสาวแตงโม แต่ทางด้านของประธานก็ยังพูดทำนองว่าสามารถทำหน้าที่ตามขอบอำนาจ และสามารถร่วมตรวจสอบการทำหน้าที่เพื่อให้สังคมขายข้อสงสัยนั้น ตนเองก็ยังย้อนถามเช่นเดิมว่า ทุกคนที่เข้ามามีอำนาจหน้าที่อะไร แต่การทำหน้าที่จะเกินขอบเขตหรือไม่ หรือระเบียบกำหนดเอาไว้ให้ทำงานแค่ไหน ฉะนั้นถ้าหากพบว่าใครทำงานผิดพลาด ตำรวจทำงานไม่ดี ก็ควรที่จะพูดออกมาเป็นรายประเด็น และให้ตำรวจชี้แจง ไม่ใช่เข้าไปแทรกแซงการทำงาน หรือแสดงความคิดเห็นและทำให้ผู้อื่นคล้อยตามจนเกิดเป็นประเด็นอื่น และสังคมไม่เข้าใจกระบวนการทำงานสืบสวนสอบสวนของตำรวจ

ประเด็นเรื่องการโอนคดี หรือเปลี่ยนคดีไปให้ดีเอสไอดูแลนั้น พล.ต.ต.วิชัย ปฏิเสธที่จะให้ความเห็นเรื่องนี้ โดยอธิบดีของดีเอสไอและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องจะเป็นคนตอบความชัดเจน และเชื่อว่าสังคมก็จะเข้าใจ

แอนนาทีวีพูล

ด้าน "แอนนา" เพื่อนรักของแตงโม โพสต์ข้อความกล่าวถึงกรณีที่ดีเอสไสรับเป็นคดีพิเศษว่า "DSI เข้ามารับเรื่อง คดีแตงโมแล้ว ให้ DSI 1,000 %"

รศ.พ.ต.ท.ดร.กฤษณพงค์ พูตระกูล

ด้าน รศ.พ.ต.ท.ดร.กฤษณพงค์ พูตระกูล ประธานสถาบันอาชญาวิทยา ม.รังสิต เปิดเผยว่า การยื่นหนังสือดังกล่าวในฐานะแม่ของแตงโม ผู้เสียชีวิต ถือว่าเป็นกระบวนการและชอบด้วยกฎหมาย เนื่องจากเป็นครอบครัวผู้สูญเสีย มีอำนาจหน้าที่สามารถที่จะขอให้หน่วยงานราชการ หรือกรรมาธิการเข้ามาช่วยดำเนินการตรวจสอบเพื่อให้เกิดความโปร่งใส หรือทำให้คดีได้รับความยุติธรรมตามกระบวนการของกฎหมาย แต่หากแม่มองว่าทุกอย่างเป็นไปตามคณะกรรมการตำรวจ หรือเป็นไปตามกระบวนการสืบสวนสอบสวนแล้ว ก็มีสิทธิ์ที่จะยื่นขอให้คณะกรรมการตำรวจทำงานเพียงฝ่ายเดียวก็ได้

โดยหลังจากนี้ เมื่อกรรมาธิการได้มีการรับหนังสือแล้ว ก็จะทำหน้าที่ในฐานะขอบเขตที่ได้รับมอบหมายเท่านั้น การรับข้อมูลใหม่ หรือการตรวจสอบในกระบวนการของภาครัฐเท่าที่อำนาจมอบหมายให้ แต่อาจไม่สามารถที่จะลงลึก ไปเสนอแนะ หรือเข้าไปแทรกแซงตามกระบวนการเดิมที่เคยมีคำสั่งแต่งตั้งให้ไปร่วมดำเนินการตรวจสอบคู่ขนาน

ตนเองก็ไม่ขอแสดงความเห็นว่าจะเกี่ยวข้อง หรือมีประเด็นเรื่องของความคิดเห็นส่วนตัวของแม่และทนายความ เพราะเชื่อว่าการตัดสินใจทั้งหมดเป็นเรื่องส่วนตัวหรือดุลพินิจส่วนบุคคล แต่หลังจากนี้หากมีหน่วยงานหรือตัวแทนบุคคล มีการทำหนังสือเพื่อยื่นให้กรรมาธิการเข้ามาร่วมตรวจสอบ เพราะบางส่วนอาจยังไม่เชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรม คณะกรรมาธิการก็สามารถที่จะกลับมาทำหน้าที่ได้เหมือนเดิม เพราะกรรมาธิการก็เป็นตัวแทนของผู้แทนราษฎร หากมีประชาชนหรือตัวแทนร้องขอก็สามารถกลับมาทำหน้าที่ได้

สำหรับเรื่องของกระบวนการยุติธรรม ต่อการทำหน้าที่ในการสืบสวนสอบสวนของตำรวจ ล่าสุดเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา ม.รังสิต มีการจัดเสวนาเกี่ยวกับกระบวนการยุติธรรมของไทย โดยการเสวนาครั้งนี้ถือว่า ทุกคนยังไม่มีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับกระบวนการยุติธรรม ฉะนั้นตนเองในฐานะผู้ร่วมเสวนาฯ ออกมาให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับกระบวนการการทำงานระหว่างตำรวจกับกรรมาธิการครั้งนี้ อยากจะให้เทียบเคียงการทำหน้าที่ของหน่วยงานภาครัฐ เพราะคดีนี้มีความสูญเสียเกิดขึ้น เป็นความผิดอาญาแผ่นดิน ภาครัฐก็ถือว่ามีอำนาจที่จะดำเนินการตรวจสอบและคลายข้อสงสัย

แต่ถ้าหากกระบวนการยุติธรรมของไทย ยังไม่ได้รับความเชื่อมั่น ก็ควรที่จะมีหน่วยงานทำงานควบคู่ เช่นเดียวกับการให้กรรมาธิการฯ เข้ามามีบทบาทในการร่วมตรวจสอบ จนกระทั่งทำให้ประชาชนหายข้อสงสัยในหลายประเด็นที่ยังคาใจอยู่ ดังนั้นถ้าหากจะเทียบการทำหน้าที่ของตำรวจเพียงฝ่ายเดียว และเกิดความชอบธรรมในกระบวนการยุติธรรมจริง ตำรวจก็จะต้องทำให้เห็น และไม่มีข้อกังขา แต่ยกเว้นถ้าประชาชนยังไม่เชื่อในกระบวนการยุติธรรม ก็ควรที่จะต้องมีหน่วยงานทำงานควบคู่คงอยู่เช่นเดียวกับเคสต่างประเทศหลายเคสก่อนหน้านี้ ที่จะเรียกความเชื่อมั่นคืนกลับมาได้

789391

ล่าสุดที่รัฐสภา ทนายนกเขา พร้อมด้วยทีมงาน ได้เดินทางมายื่นเอกสารให้กับทาง คณะกรรมาธิการสิทธิมนุษยชน สิทธิเสรีภาพและการคุ้มครองผู้บริโภค วุฒิสภา ผ่านนายสมชาย แสวงการ ในฐานะประธาน กมธ.ชุดดังกล่าว เพื่อให้ทาง กมธ.พิจารณา สอบสวนหาข้อเท็จจริงโดยละเอียด รวมถึงศึกษาข้อมูลพยานหลักฐานต่าง ๆ ทุกประเภท

936147

ทนายนกเขา เปิดเผยว่า สำหรับการเข้ามายื่นเรื่องวันนี้ เนื่องจากส่วนตัวได้ติดตามการทำงานของ กมธ. และพบว่ามีกระเเสข่าวจากหลายส่วนมองว่าการทำหน้าที่ของ กมธ. เองเป็นการแทรกแซงการทำงานของหน่วยงานอื่น ซึ่งตนมองว่าไม่ใช่ จึงอยากจะเข้ามายื่นเรื่องให้กับทาง กมธ. ได้เดินหน้าจรวจสอบใน 2 ประเด็น

323370

ประเด็นแรกเป็นเรื่องของการจรวจสอบค้นหาความจริงโดยละเอียด ตามอำนาจหน้าที่และที่กฎหมายกำหนดไว้ ในกรณีการเสียชีวิตของ "แตงโม" โดยจะต้องมีการตรวจสอบในส่วนของพยานหลักฐารที่ละเอียดทุกประเภท ทั้งที่ปรากฏในสำนวนสอบสวน และที่ปรากฏตามที่อื่น ๆ รวมถึงเรียกบุคคลใดมาแถลงข้อเท็จจริง ดำเนินการตามอำนาจของ กมธ. โดยมีการตั้งข้อสงสัยในจำนวน 17 ประเด็น คือ

ข้อสงสัยในจำนวน 17 ประเด็นคดีแตงโม

1. การเสียชีวิตดังกล่าวเป็นการตายโดยผิดธรรมชาติ
2. การกระทำใดใดอันมีผลการกระทำตามความผิดประมวลกฏหมายอาญาย่อมมีผลกระทบต่อสิทธิเสรีภาพของบุคคลถือได้ว่าเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชน
3. ภายหลังเกิดเหตุการณ์ มีการแจ้งไปยังกู้ภัยจริง แต่ข้อมูลดังกล่าวไม่อาจถือได้ว่าเป็นเวลาที่เกิดเหตุจริง
4. หลังเกิดเหตุการณ์บุคคลที่อยู่ในเรือกลับไม่แจ้งความให้ข้อมูลต่อพนักงานสอบสวนโดยทันทีมองกรณีดังกล่าวเป็นการจงใจหลบหนี
5. การเปลี่ยนสถานที่ชันสูตรโดยกระทันหันรวมถึงการให้ดำเนินการเอาศพมาที่ สภ.เมืองนนทบุรี มีข้อสงสัย
6. การควบรวมอายัดตรวจสอบพยานหลักฐานตั้งแต่เริ่มต้น ไม่เป็นไปอย่างรวดเร็ว อาจทำให้มีการเปลี่ยนแปลงในส่วนของพยานหลักฐาน
7. มีความล่าช้าในการดำเนินคดีเกี่ยวกับผู้ต้องสงสัยในเรื่องของการตรวจสภาพร่างกาย เครื่องแต่งกายหรือร่องรอยอื่น ๆ รวมถึงการปวดของสารเสพติด
8. มองการสืบสวนสอบสวนครั้งแรกเป็นการตั้งประเด็นประมาทหรือตึกอุบัติเหตุซึ่งค่อนข้างเป็นการตั้งประเด็นคับแคบ
9. ยังไม่มีข้อมูลปรากฏชัดเจนว่าผู้เสียชีวิตตกน้ำและอย่างไรและทำไมถึงช่วยเหลือ
10. ไม่ทราบว่าผู้ตายเอง ตอนที่ตกน้ำมีสติหรือไม่

539712

11. ไม่ทราบว่าเจ้าหน้าที่เองได้มีการตรวจสอบพื้นดินบริเวณที่มีอ้างว่าคุณแตงโมตกน้ำหรือบริเวณที่พบศพหรือไม่
12. การตรวจโรงเก็บเรือมีการตรวจโดยละเอียดหรือไม่หรือมีการเคลื่อนย้าย ถอดถอนกล้องวงจรปิดหรือไม่
13. การตรวจสอบเกี่ยวกับเครื่องมือสื่อสารของบุคคลที่เกี่ยวข้องมีการตรวจอย่างละเอียดและครบหรือไม่ มีการนำเครื่องมือสื่อสารเครื่องอื่น ๆ ที่ไม่เปิดเผยอยู่ในข่วงนั้นหรือไม่
14. ประเด็นเรื่องการอายัดเรือในประเภทและลักษณะเดียวกับลำที่เกิดเหตุ ตอนนี้มาการอายัดหรือไม่และตรวจสอบรวบรวมหรือไม่
15. มองว่าการสืบสวนโดยพนักงานสืบสวนสอบสวนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่กำลังดำเนินการอยู่ตอนนี้ คล้ายว่าไม่ได้เป็นการค้นหาความจริงจามที่สังคมเครือบแคลงใจ จนยากที่สังคมจะเชื่อมั่นและยอมรับ
16. จากข้อมูลข้างต้น ความเห็นส่วนตัวมองว่ากรณีพบผู้เสียชีวิตภายในน้ำทางเจ้าหน้าที่ควรจะสันนิษฐานไว้ก่อนว่า การจมน้ำอาจจะไม่ใช่สาเหตุการเสียชีวิตเพียงอย่างเดียว ตลอดจนไม่ควรคิดว่าจุดที่พบศพคือจุดที่เกิดเหตุเสมอไป
17. กรณีที่เกิดขึ้นจำเป็นต้องใช้ผู้เชี่ยวชาญและมีความรู้ประกอบกันหลายๆด้าน จะอาศัยเพียงเเพทย์อย่างเดียวคงไม่เพียงพอต่อการพิสูจน์พยานหลักฐาน ดังนั้น กมธ.เองควรเชิญผู้เชี่ยวชาญด้านต่างๆ ที่มีความเป็นกลางและอิสระมาให้ข้อมูล เพื่อจะได้นำข้อมูลมาควบคู่ขนานในการพิจารณาคดี

ทั้งนี้จากประสบการณ์การทำคดีวิสามัญฆาตกรรม การซ้อมทรมาน ด้านสิทธิมนุษยชน ค่อนข้างมั่นใจว่าบนร่างของคุณแตงโม ดูจากสภาพด้านหน้าน่าจะมีบาดแผลด้านหลังด้วย แต่ไม่มั่นใจว่าเป็นบริเวณใด เป็นเรื่องที่พนักงานสืบสวนสอบสวนสามารถเปิดเผยให้ประชาชนทราบได้ ไม่มีผลเป็นการเปลี่ยนแปลงต่อคดีใด ๆ แต่จะทำให้ประชาชนติดตามคดีได้ และสามารถช่วยหาร่องรอยของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

การดำเนินการทุกอย่างไม่จำเป็นจะต้องเป็นความลับทุกอย่าง อีกทั้งการที่กรรมาธิการลงพื้นที่ตรวจสอบเรือที่เกิดเหตุก็จำเป็นจะต้องตรวจสอบได้อย่างใกล้ชิด และตำรวจต้องทำให้อย่างโปร่งใส เพราะสังคมเองยังคาใจอยู่หลายเรื่อง และอยากให้กรรมาธิการได้เชิญผู้เชี่ยวชาญเข้ามาเป็นคณะทำงาน เพราะการอาศัยแพทย์เพียงอย่างเดียวอาจตอบคำถามได้ไม่หมด โดยเฉพาะเรื่องเรือที่ต้องอาศัยผู้ชำนาญการ

 

 

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ทุบโต๊ะข่าว เป็นกระแส