สุดเศร้า! หนูน้อย 5 ขวบ นอนเฝ้าศพตา 3 วัน ไม่รู้ว่าเสียชีวิตแล้ว

1 พ.ย. 65

สุดเศร้า หลานชาย 5 ขวบ นอนเฝ้าศพตา 3 วัน ไม่รู้ว่าเสียชีวิตแล้ว ชาวบ้านได้กลิ่นคลุ้งก่อนแจ้ง จนท.เข้าตรวจสอบ คาดเสียชีวิตด้วยโรคประจำตัว

วันที่ 31 ตุลาคม 2565 เวลา 16.00 น. พ.ต.ท.สมผล ศรีไสล สว.สอบสวนสภ.หนองแสง ได้รับแจ้งมีชายป่วยเสียชีวิตอยู่ในบ้านสวนไม่มีเลขที่ บ.โนนเชียงค้ำ ม.2 ต.ทับกุง อ.หนองแสง จ.อุดรธานี หลังรับแจ้งเหตุรุดออกไปตรวจสอบพร้อมด้วยอาสากู้ภัยมูลนิธิอุดรสว่างเมธาธรรมสถาน,อุดรสว่างเมธาธรรมสถานจุดบริการ อ.หนองแสงโดยมี นายมงคล ดอนขัน อายุ 53 ปี ผู้ใหญ่บ้าน บ้านวังทอง ม.14 ต.หนองไฮ อ.เมือง จ.อุดรธานี นำชี้จุดเกิดเหตุ

ที่เกิดเหตุเป็นบ้านกึ่งปูนกึ่งไม้ชั้นเดียวไม่มีรั้ว อยู่ท่ามกลางไร่มันสำปะหลังและไร่อ้อย ห่างจากบ้านวังทอง ม.14 ต.หนองไฮประมาณ 1.5 กิโลเมตร ที่เกิดเหตุพบศพ นายประพันธ์ เพิ่มพูน อายุ 53 ปี นอนหงายเปลือยกายอยู่ที่พื้นข้างแคร่ไม้ คาดว่าเสียชีวิตโรคประจำตัวมาแล้วไม่ต่ำกว่า 3 วันและมีเพียง ด.ช.ก็อต อายุ 5 ปี หลานชายผู้ตายนั่งเล่นอยู่หน้าบ้านตามประสา เนื้อตัวมอมแมม เสื้อผ้าเปื้อนเลือดและหนอง โดยไม่ทราบว่าผู้เป็นตาได้เสียชีวิตไปแล้ว ก่อนที่อาสากู้ภัยจะนำร่างผู้ตายไปชันสูตรที่ รพ.หนองแสงและให้ญาตินำตัวเด็กไปดูแลก่อนในเบื้องต้น

จากนั้นเวลา 19.30 น. วันเดียวกันผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่วัดป่าช้าปุญญาวาส บ้านลาดทอง ม.13 ต.หนองไฮ อ.เมือง จ.อุดรธานี ซึ่งเป็นสถานที่ตั้งศพนายประพันธ์ฯ ญาติพี่น้องและผู้นำชุมชนได้จัดเตรียมพิธีสวดอภิธรรมศพ โดยนายสิทธิพงษ์ เพิ่มพูล อายุ 20 ปี ลูกชายผู้ตาย และเป็นลุงของน้องก็อต ได้พาหลานมากราบศพตาและร่วมรับมอบน้ำดื่ม ข้าวสารอาหารแห้งจากทางมูลนิธิอุดรสว่างเมธาธรรมสถาน เนื่องจากเป็นครอบครัวยากจนมีรายได้น้อย ญาติลงความเห็นว่าจะทำพิธีฌาปนกิจในวันพุธที่ 2 พฤศจิกายนนี้

นางรัชณี คูณเศรษฐ์ อายุ 50 ปี ญาติผู้ตายเล่าว่า เป็นลูกพี่ลูกน้องกับผู้ตายและเป็นคนพบศพผู้ตายคนแรก ก่อนหน้านี้คนในหมู่บ้านเห็นผู้ตายเข้ามาซื้อของในช่วงบ่ายวันที่ 29 ตุลาคม ที่ผ่านมา หลังจากนั้นก็ไม่มีใครเห็นอีกเลย ผู้ตายมีอาชีพเผาถ่านขายผู้ตายพิการเดินไม่สะดวก ได้รับบาดเจ็บที่ขาซ้ายเมื่อหลายปีก่อน บ้านหลังนี้ผู้ตายอยู่กับหลานน้อย 2 คน ซึ่งเป็นลูกของลูกสาว ลูกสาวของผู้ตายไปทำงานในเมืองอุดรธานี ส่วนภรรยาผู้ตายป่วยเสียชีวิตไปก่อนหน้านี้ประมาณ 1 ปีครึ่ง โดยบ้านผู้ตายเป็นทางผ่านไปวัดป่าภูผาคำพุทธาวาส จะมีพระเดินลงมมาบิณฑบาต มีญาติโยมใช้เส้นทางไปวัดทำบุญและมีชาวบ้านผ่านไปมาในการเข้าไปทำไร่ทำสวน วันก่อนชาวบ้านที่ผ่านไปมาก็สังเกตอยู่ว่าทำไมบ้านเงียบเห็นแต่หลานน้อยวิ่งเล่นอยู่คนเดียว

“กระทั่งช่วงบ่ายวันนี้ชาวบ้านที่ผ่านบ้านผู้ตายก็มาบอกว่าได้กลิ่นเหม็นเน่าโชยออกมาจากบ้าน ตนที่เป็นญาติแต่ก็ไม่ค่อยได้ไปมาหาสู่กันประมาณ 15.00 น. ตัดสินใจขับรถจักรยานยนต์ออกมาดูที่บ้านผู้ตาย ถามหลานน้อยว่าตาไปไหนหลานก็ไม่ตอบอาจจะเพราะยังเด็กอยู่จึงพูดตอบโต้ไม่ได้ ตอนนั้นเริ่มได้กลิ่นเหม็นแล้วตนจึงร้องถามอีกครั้งหลานน้อยจึงเดินเข้าไปในบ้าน พอตนโผล่หน้าไปในบ้านก็เห็นผู้ตายนอนอืดอยู่ที่พื้นแล้ว จึงรีบกลับเข้ามาในหมู่บ้านแจ้งผู้ใหญ่บ้านให้โทรแจ้งตำรวจมาตรวจสอบดังกล่าว สงสารและเวทนาหลานมากที่ต้องอยู่กับศพตานานเกือบ 3 วันโดยไม่รู้ว่าตาตายไปแล้ว เด็กยังเล่นได้ประสาไม่ได้บ่นหิวแต่อย่างใด คาดว่าช่วงเช้าที่มีคนผ่านไปวัดทุกเช้าอาจจะแบ่งน้ำและอาหารให้เด็กไว้กิน โชคยังดีที่หลานไม่ได้รับบาดเจ็บหรือมีอาการอิดโรยแต่อย่างใด” นางรัชณี กล่าว

นายสิทธิพงษ์ฯ หรือ เจ ลูกชายผู้ตาย เล่าว่าครอบครัวมีพี่น้อง 3 คน พี่ชายคนโตเสียชีวิตไปแล้วตนเป็นคนที่สองและมีน้องสาวเป็นคนสุดท้องชื่อเล่นอ้อยอายุ 19 ปี และเป็นแม่ของน้องก็อตตนเองไปทำงานที่ จ.หนองคาย ส่วนน้องสาวทำงานอยู่ในตัวเมืองอุดรธานี ตอนนี้อยู่ระหว่างเดินทางกลับมาที่บ้าน เจอพ่อครั้งสุดท้ายเมื่อ 1 เดือนที่แล้วซึ่งพ่อป่วยเป็นวัณโรคเกี่ยวกับปอด โดยพ่อเลี้ยงน้องก็อตมาตั้งแต่แบเบาะพ่อรักหลานคนนี้มาก น้องสาวเลิกกับสามีไปนานแล้วพ่อน้องก็อตอยู่จ.บึงกาฬ หลายครั้งที่พ่อน้องก็อตจะขอเอาไปเลี้ยงดูแต่ผู้เป็นตาก็ไม่ยอมยืนยันจะเลี้ยงหลานเองมาตลอด สงสารหลานมากที่ต้องมาเจอเหตุการณ์แบบนี้ ลางสังหรณ์อะไรก็ไม่มีมีแต่ญาติฝั่งทางพ่อน้องก็อตฝันว่าไฟไหม้บ้านเท่านั้น หลังจากนี้ก็คงจะให้พ่อน้องก็อตเอาไปเลี้ยงดูตามที่เขาต้องการ เสียใจและตกใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นอย่างมาก

นายธีระวัฒน์ ลุนนิมิตร อายุ 28 ปี อาสากู้ภัยอุดรสว่างเมธาธรรมสถานบอกว่า หลังจากได้รับแจ้งมีผู้เสียชีวิตในบ้านหลายวันจึงได้ออกไปตรวจสอบ พบเด็กชายอายุประมาณ 4-5 ขวบ นั่งเล่นอยู่หน้าบ้านจึงได้สอบถามแต่ไม่ยอมพูดอะไรจึงได้เข้าไปดูในบ้านพบผู้เสียชีวิตนอนอยู่ที่พื้นบ้าน สภาพศพขึ้นอืดไม่สวมเสื้อผ้า ทางมูลนิธิฯจึงได้นำข้าวสารอาหารแห้งนมน้ำดื่มมามอบให้แก่เด็ก โดยมีญาติของเด็กเป็นผู้รับมอบ

advertisement

advertisement

ข่าวยอดนิยม

ข่าวทั่วไป เป็นกระแส