กรณีเพจเฟซบุ๊ก “socail hunter reborn v.3” โพสต์ภาพรถบนฮอนด้าแจ๊สสีดำ ถูกยิงถล่มเป็นรูกระสุนทั่วคัน พร้อมข้อความระบุ
“เหตุเกิดที่หมู่บ้านแห่งหนึ่ง แถวย่านดอนเมือง เมื่อช่วงเช้าวันที่ 14 พ.ย. แม่กำลังเตรียมตัวพาลูกสาวไปโรงเรียน ถูกคนร้ายไม่ทราบว่าเป็นใคร บุกมากราดยิงถึงหน้าบ้าน กระสุนถูกรถหลายนัด และเฉียดลูกสาวที่อยู่ภายในบ้านไปนิดเดียว จากนั้นคนร้ายได้หลบหนีไป”
ล่าสุดวันที่ 14 พ.ย. 65 ทีมข่าวลงพื้นที่จุดเกิดเหตุบ้านทาวเฮาส์ชั้นเดียว ภายในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ซอยโกสุมร่วมใจ 44 ย่านดอนเมือง กทม. โดยหน้าบ้านพบรถฮอนด้าแจ๊สสีดำจอดอยู่ มีรอยกระสุนประมาณ 9 จุดฝั่งคนขับ และรอยกระสุนทะลุไปฝั่งตรงข้าม 4 จุด
นอกจากนี้ยังมีรูกระสุนทะลุไปที่รถเก๋งโตโยต้าวีออสสีดำที่จอดอยู่ในบ้านบริเวณหน้ารถ 1 จุด และบริเวณล้อฝั่งคนขับอีก 1 จุดบริเวณเพดานบ้านมีรอยกระสุน 1 จุดทะลุเข้าไปด้านในห้องนอนผู้เสียหาย
ทีมข่าวได้รับคลิปขณะที่หลังเกิดเหตุ น.ส.ปาลิตา ผู้เสียหาย โทรศัพท์คุยกับนายโต้ย หลังเกิดเหตุดดยนายโต้ยระบุนายคิง เป็นคนทำ น.ส.ปาลิตา จึงถามว่า ถ้าลูกกูเป็นอะไรขึ้นมาจะทำยังไง นายโต้ย กล่าวว่า ตัวเองไปกับแม่ แต่นายคิง เป็นคนทำ ห้ามแล้วไม่ฟัง
น.ส.ปาลิตา ถามว่า มันทำทำไม เงินแค่ 80,000 บาท ก็เอารถไปสิ มาทำแบบนี้ทำไม นายโต้ย กล่าวว่า ไม่ใช่กู กูห้ามมันแล้ว เดี๋ยวกูไปกับแม่กู กูขอโทษที่พาไป
น.ส.ปาลิตา พูนโชคพานิชย์ หรือ ปลา อายุ 25 ปี ผู้เสียหาย เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุนายโต้ย เพื่อนของตนโทรศัพท์มาหาให้ออกไปคุยเพื่อเคลียร์กันเรื่องเงินจากแชร์ แต่ตนไม่ยอมออกไปเพราะเป็นช่วงเช้ามืด ห่วงความปลอดภัย หลังจากวางสาย ก็มีเสียงปืนกระหน่ำยิงรถและยิงเข้าบ้านตนนับ 10 นัด เป็นช่วงที่ลูกสาววัย 4 ขวบ เดินเข้ามาหาตนในห้องพอดี ซึ่งกระสุนนัดสุดท้ายก็ตกบนเตียงนอนของตน เฉียดตนกับลูกไปแค่นิดเดียว
ซึ่งตนมั่นใจว่าเป็นฝีมือของกลุ่มนายโต้ย เนื่องจากก่อนหน้านี้ประมาณ 1 เดือนตนได้แนะนำให้นายโต้ย เล่นแชร์กับท้าวแชร์รายหนึ่งที่รู้จักในเฟซบุ๊ก หลังจากนั้นตนไม่รู้ว่านายโต้ยชักชวนใครมาอีกบ้าง และทราบว่าน่าจะมีการส่งเงินประมาณ 3,000-5,000 บาท 5 วันครั้ง
ภายหลังทราบว่าแชร์ล้ม ท้าวแชร์ติดต่อไม่ได้ นายโต้ยจึงตามมาทวงเงินจากตนจำนวน 80,000 บาท เมื่อ 2 วันที่แล้ว
โดยตนรับปากว่าจะทยอยจ่ายเงินคืนให้ เพื่อรับผิดชอบที่เป็นคนชักชวนให้นายโต้ยไปเล่น โดยจะจ่ายให้อาทิตย์ละ 5,000 บาท จนกว่าจะครบ 80,000 บาท ซึ่งเริ่มจ่ายไปครั้งแรก 5,000 บาท เมื่อวานนี้(13 พ.ย.) แต่จู่ๆก็มาเกิดเหตุกราดยิงที่บ้าน
โดยหลังเกิดเหตุนายโต้ย ไลน์มาบอกว่า นายคิง ซึ่งเป็นเพื่อนของนายโต้ยเป็นคนยิง ตัวเองไม่เกี่ยว ทั้งยังโทรศัพท์มาหาตนยอมรับว่า ช่วงเช้าตัวเองขี่รถจักรยานยนต์มาพร้อมแม่ และมีนายคิง มาด้วย จากนั้นนายคิงก็กราดยิงใส่บ้านตน ทั้งที่พยายามห้ามแล้ว
ซึ่งตนไม่รู้ว่านายคิงคือใคร เป็นผู้เสียหายจากวงแชร์ล้มด้วยหรือไม่ แต่มองว่านายโต้ย เป็นคนที่ชี้จุดให้นายคิงมายิงบ้านตน
โดยน.ส.ปาลิตา ยืนยันตัวเองไม่ได้เปอร์เซ็นต์จากการชักชวน และไม่ได้รู้จักท้าวแชร์เป็นการส่วนตัว สาเหตุที่แนะนำให้เพื่อนลงเล่น เพราะเห็นว่าท้าวแชร์เป็นเน็ตไอดอล ดูน่าเชื่อถือ ไม่คิดว่าจะเป็นแบบนี้ ทั้งนี้ตนกลัวมาก ห่วงความปลอดภัยครอบครัว เพราะมีทั้งตายาย และลูกเล็ก ยืนยันจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด
โดยผู้เสียหายได้ส่งแชตที่คุยกับนายโต้ยให้ทีมข่าว พบว่าเวลา 05.39 น. นายโต้ย โทรไลน์มาคุยกับ ผู้เสียหาย เวลา 05.42 น. นายโต้ย แชตมาบอกว่า คิงเป็นคนยิง พร้อมส่งภาพเฟซบุ๊กนายคิงมาให้ และบอกว่าขอโทษนายคิงบังคับ ให้พาไปไม่อยากให้เป็นแบบนี้
นอกจากนี้อีกคลิป นายโต้ย ยืนยันว่าตัวเองพยายามห้ามไม่ให้นายคิงยิงดึงไว้แล้ว แต่อีกฝ่ายไม่ฟังโดยตัวเองไม่รู้ว่าปืนจริงหรือปืนปลอม นอกจากนี้แม่นายโต้ยพูดเสิรมมาว่าบอกว่าแม่ไม่รู้ว่ามันมีปืน
สอบถามนางเปรี้ยว (นามสมมติ) อายุ 46 ปี แม่ของผู้เสียหาย เล่าว่า เมื่อช่วงเช้ามืดเวลาประมาณ 05.40 น. ขณะที่ตนนอนอยู่ในห้องกับหลานสาววัย 4 ขวบ จู่ๆได้ยินเสียงดังคล้ายปืนประมาณ 5-6 ครั้ง จากนั้นลูกสาววัย 25 ปี วิ่งมาบอกที่ห้องนอนว่ามีคนมายิงรถฮอนด้าแจ๊สของตัวเองพังเสียหาย ตนจึงบอกว่า ห้ามออกจากบ้านเด็ดขาดจนกว่าตำรวจจะเข้ามา จากนั้นจึงโทรศัพท์แจ้งตำรวจ
สอบถามเพื่อนบ้านบอกว่ามีรถจักรยานยนต์ขับกันมา 3 คัน หนึ่งในนั้นมีผู้หญิงซ้อนมาด้วย ส่วนมือยิงเหมือนใส่เสื้อไรเดอร์ส่งอาหารซึ่งช่วงที่ยิงมี 1 นัดที่ยิงเข้าเพดานทะลุห้องลูกสาว และกระสุนตกลงไปที่บริเวณที่นอนของลูกสาวด้วย หากลูกสาวยืนขึ้นอาจจะเป็นอันตรายถึงชีวิตได้
โดยสอบถามจากลูกสาว มองว่าน่าจะเป็นปัญหาเรื่องแชร์ ที่ลูกเข้าไปเล่นด้วยแล้วถูกล้มแชร์ น่าจะเป็นคนในกลุ่มแชร์ที่มาก่อเหตุ วงเงินประมาณ 100,000 บาท มีการผ่อนจ่ายกันไปแล้ว และลูกสาวก็รับปากว่าจะทยอยคืนให้ ทราบว่าก่อนเกิดเหตุมีคนกลางโทรศัพท์มาหาลูกสาวช่วงเช้ามืดให้ออกไปเจรจาแต่ลูกไม่ยอมออกไป จนเกิดเหตุดังกล่าว โดยลูกสาวเคยเล่นแชร์ออนไลน์มานานแล้ว ตนก็เคยห้ามปราม แต่ลูกก็ไม่ฟังตามประสาวัยรุ่นทั่วไป ซึ่งณ ตอนนั้นก็เล่น ซึ่งเบื้องต้นมองได้ 2 แบบว่าข่มขู่หรือหมายเอาชีวิต เพราะหากมีคนเดินออกมาก็ค่อนข้างอันตราย โดยเบื้องต้นได้ปรึกษากับตำรวจว่าขอติดตู้แดงให้มีตำรวจมาคอยตรวจตรา เพื่อป้องกันการก่อเหตุซ้ำ
